บทที่ 1530 สรรพสิ่งทั้งปวง
ชายที่นั่งอยู่ในโลงไม้มีนามว่า ‘จ้าวอู่เจียง’
เขาสวมอาภรณ์สีดำดุจหมึก ดูดกลืนแสงดาราอันไร้ขอบเขตภายในชั้นที่เก้าของหอคุมปีศาจ
ใบหน้างดงามไร้ผู้ใดเทียบเทียม รอยยิ้มอ่อนโยนดุจหยกที่เคยประดับบนใบหน้าได้จางหายไปโดยมิทราบสาเหตุ ดวงตาเย็นเยียบราวน้ำแข็งนิรันดร์ที่มิมีวันละลาย
เกศายาวสยายปลิว แซมด้วยเส้นสีขาวเงินและสีม่วงแดงประหลาด
ผู้คนเคารพนับถือเขาในฐานะเทพปีศาจ เขาหลับใหลมานานนับหมื่นปี
บัดนี้ตัวตนในอดีตของเขาได้จากโลกมนุษย์ที่เต็มไปด้วยบาดแผลกลับไปยังยุคโบราณ และในวันเดียวกันนี้เอง ร่างของเขาในยุคโบราณก็ได้ตื่นขึ้น
ผู้ใดกันที่ปลุกเขา?
มันคือคำขอของตัวเขาเอง และคำสวดอธิษฐานอันจริงใจของผู้คนที่ทนทุกข์จากหายนะในยุคสิ้นโลก ที่พากันมาชุมนุมอยู่หน้ารูปปั้นเทพปีศาจมากมาย
หลังจากจ้าวอู่เจียงออกจากช่วงเวลานี้ ไปถึงยุคโบราณ และได้ผ่านเหตุการณ์มากมาย เขาก็เข้าใจทุกสิ่งอย่างถ่องแท้ ว่าสิ่งใดที่ไม่ควรทำ สิ่งใดที่ทำได้ และสิ่งที่ควรนั้น ควรทำอย่างไร ทั้งหมดล้วนชัดเจนอยู่ในใจ
ดังนั้นแผนการจึงเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
เขาต้องการแน่ใจว่าการเติบโตของตนจะปลอดภัย จึงเกิดเป็นเรื่องราวในภายหลังที่เขาถูกค้นพบโดยบังเอิญ
ทีละก้าว ๆ เขาออกจากดินแดนลับนั้น
ทีละก้าว ๆ เขาเติบโตขึ้นท่ามกลางภยันตรายที่ดูราวกับมีอยู่รอบด้าน
มิมีผู้ใดเคยคาดคิดว่า เหตุใดดินแดนลับแห่งหนึ่งถึงเลือกขันทีปลอมตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งให้เป็นผู้สืบทอดเจตจำนงของโลก?
เพราะขันทีน้อยผู้นี้มีร่างเทพเซียน สวรรค์จึงเลือกเขา
จ้าวอู่เจียงในยุคโบราณ วิชาบำเพ็ญเพียรของเขาได้เพิ่มขึ้นถึงขั้นสูงสุด แม้ต่อสู้กับวิถีสวรรค์ที่ไม่สมบูรณ์จนร่างดับสลาย เขาก็ยังค้นพบวิธีฟื้นคืนชีพหลังความตาย
นั่นก็คือ ‘วิชาเซียนธูป’ รวมถึง ’วิชาขึ้นสู่สวรรค์ในก้าวเดียว’ ที่ตระกูลโหย่วอวี๋และตระกูลเซวียนหยวนค้นพบร่วมกัน
การเป็นเซียนธูปมิได้หมายถึงการกลายเป็นเทพเจ้าจริง ๆ ทว่ามันเป็นการยืมพลังของสรรพชีวิตมาเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตนเอง
ผู้นำผู้ยิ่งใหญ่เคยกล่าวไว้ว่า ‘พลังของเขามาจากประชาชน ที่ประชาชนมอบให้’
พลังของจ้าวอู่เจียงมาจากสรรพชีวิต
การช่วยเหลือตนเองของทุกสรรพชีวิต พลังที่พวกเขาปลดปล่อยออกมาในยามคับขันทุกครั้ง ล้วนรวมตัวกันเป็นสายธาร


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า