บทที่ 1606 เสียงเพลงกล่อมเด็ก
จ้าวอู่เจียงไม่จำเป็นต้องใช้พลังระดับมหามรรคาของตนเองด้วยซ้ำ เพียงแค่อาศัยความแข็งแกร่งของร่างดอกบัวเต๋าก็สามารถสังหารเหล่าฆาตกรน้อยได้ทีละคนด้วยดาบเพียงหนึ่งดาบ
หนึ่งแทงทะลุหัวใจ หนึ่งแทงทำลายเบ้าตา หนึ่งแทงทะลวงปากที่กำลังตะโกนด้วยความโกรธ หนึ่งฟันศีรษะที่จ้องด้วยความเกรี้ยวกราด หนึ่งฟันร่างขาดเป็นสองท่อน
เขาเดินไปพลางสังหารไปพลางด้วยท่าทีสบาย ๆ ราวกับถือมีดพร้าเดินตรวจตราแปลงผักในสวนของตน เห็นต้นไหนงามก็เก็บเกี่ยวไปตามทาง
ฆาตกรมากมายล้มตายใต้คมดาบของเขา บ้างก็ถูกฝ่ามือของเขาตบจนกระดูกแหลกละเอียด
ผู้ที่มาล้อมสังหารเขาเริ่มขวัญผวาราวกับไม่อาจเชื่อได้ ก่อนหน้านี้พลังของจ้าวเจียงอยู่ในระดับใดนั้นพวกเขารู้ดี ถึงขั้นเคยเยาะเย้ยว่าผู้บังคับบัญชาระมัดระวังมากเกินไป
แม้จะต้องการความมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจ้าวเจียงจะถูกปิดปาก แต่การส่งคนมามากมายขนาดนี้ จ้าวเจียงมีค่าควรแก่การทำถึงขนาดนี้หรือ?
ก่อนจะมาซุ่มซ่อนตัวในที่มืด ถึงกับมีคนพนันกันว่าจ้าวเจียงจะกลัวจนร้องไห้โฮ คุกเข่าขอความเมตตาหรือไม่ ทว่าในตอนนี้กลับเป็นพวกเขาเองที่อยากจะร้องไห้โฮ และคุกเข่าขอความเมตตาจากจ้าวเจียงเสียอย่างนั้น
แต่พวกเขาเคยจัดการเรื่องสกปรกมามากเกินไป และรู้ดีว่าจ้าวเจียงในตอนนี้อยู่ในสภาวะที่ ‘ไม่ฟังเหตุผลใด ๆ’ ฉะนั้นแล้วใครจะพูดอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์
มีคำกล่าวว่าฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา ตอนนี้บนหน้ากากอิเล็กทรอนิกส์ของจ้าวเจียง มีเพียงรอยยิ้มอ่อนโยนตลอดเวลา ช่างน่าขนพองสยองเกล้าและทำให้ผู้คนหวาดกลัว
ร่างไร้วิญญาณอีกร่างล้มลง คราวนี้ศพยังค่อนข้างสมบูรณ์ เพียงแต่มีดาบปักอยู่ที่หน้าอกเท่านั้น
การฆ่าคนมากเกินไป ทำให้ดาบทื่อไปบ้าง อีกทั้งน้ำเลือดที่เหนียวข้นขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ดาบยาวติดอยู่ที่หน้าอกของศพชั่วขณะ
จ้าวอู่เจียงเหยียบลงบนศีรษะของศพ พยายามดึงดาบออกหลายครั้ง แต่พบว่ามันติดอยู่ เหมือนว่ามันคงจะติดอยู่ในร่องกระดูกสักแห่ง
“เฮ้ ใครมีน้ำใจส่งดาบมาให้ฉันสักเล่มไหม?” จ้าวอู่เจียงมองไปรอบ ๆ ถามพวกมือสังหาร
พวกมือสังหารเงียบกริบราวกับจักจั่นในฤดูหนาว บางคนเริ่มถอยหลังเตรียมจะหนี แต่พวกเขากลับรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของตนถูกขัดขวาง ราวกับว่ามียาเหนียวอยู่ในอากาศ ทำให้พวกเขาขยับตัวไม่ได้
“เป็นคำถามทีไม่มีใครตอบสักคน” จ้าวอู่เจียงยกมือขึ้นคว้า สายลมไร้รูปร่างไหลผ่านมือของเขา เขารู้สึกได้ว่าคนของสำนักงานรักษาความสงบคงจะสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวหรือติดตามมาถึงที่นี่แล้ว ฉะนั้นแล้วเขาต้องจบเรื่องนี้ให้เร็ว ไม่มีเวลามาเล่นกับพวกมือสังหารเด็ก ๆ พวกนี้แล้ว
สายลมกลายเป็นกระบี่ กระบี่ที่ไม่ได้ใช้มานาน เขาวาดลวดลายกระบี่อย่างไม่ใส่ใจ
ปราณกระบี่พุ่งออกจากเตาหลอม พุ่งกระจายไปทั้งสี่ทิศ
‘ปึก ปึก ปึก ปึก…’ พวกมือสังหารมีสีหน้างุนงงก่อนตาย หลังตายกลับดูสงบ ร่วงลงพื้นเหมือนเกี๊ยวที่ถูกโยนลงหม้อ
มือสังหารที่อยู่ไกลที่สุดสองคนอุ้มปืนซุ่มยิงวิ่งหนี แต่เพิ่งก้าวได้ก้าวเดียวเท่านั้น สายลมก็พาดผ่านแก้มของพวกเขา ทำให้พวกเขาล้มลงตามสายลม ปืนซุ่มยิงตกกระแทกพื้นดังสนั่น
“ไม่มีมารยาทจริง ๆ” จ้าวอู่เจียงจัดแขนเสื้อพลางพูด
“ถามก็ไม่ตอบ จะไปก็ไม่บอก ไม่ยอมส่งเสียงกันสักคนเลยสินะ? ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องส่งเสียงอีกเลย…”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า