บทที่ 1609 ความจริงที่คลุมเครือ
หยวนเหลยมองดูแสงไฟสีแดงอบอุ่นสลับสีน้ำเงินเย็นที่กะพริบบ้าคลั่งใต้ท้องฟ้ายามราตรีอันมืดมิด แล้วกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
เมื่อครู่เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงหันกลับไป แล้วก็พบว่าจ้าวเจียงยืนขวางอยู่เบื้องหน้า ยกนิ้วชี้ทำท่าดุจกระบี่ ฟันฟาดใส่บุรุษลึกลับหนึ่งที แล้วก้าวพรวดออกไป
จากนั้นแขนขวาของบุรุษลึกลับผู้ทรงพลังก็ขาดกระเด็นทันที เขาหลบหนีอย่างตื่นตระหนก แต่กระนั้นจ้าวเจียงก็เข้าประชิดตัวบุรุษลึกลับทันที บุรุษลึกลับพูดอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นจ้าวเจียงก็เฉียดไหล่เขาผ่านไป พุ่งตามทิศทางของยานบินขนาดเล็กไป
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในชั่วประกายฟ้าแลบ หยวนเหลยยังไม่ทันเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น บุรุษลึกลับก็สิ้นชีวิตแล้ว ร่างของเขาร่วงหล่นจากที่สูงแล้วแหลกเป็นจุณ
เขาไม่กล้าจินตนาการว่าจ้าวเจียงมีพลังความสามารถระดับไหนกันแน่ ตัวเขาเองที่เป็นถึงผู้วิวัฒนาการขั้นห้ายังถูกผู้บำเพ็ญโบราณลึกลับผู้นั้นไล่ต้อนจนต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน แต่ผู้บำเพ็ญที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ กลับไม่มีแม้แต่โอกาสจะต่อกรเมื่ออยู่ต่อหน้าจ้าวเจียง จนถึงกับต้องสังเวยชีวิตไป
‘หรือว่าจ้าวเจียงจะเป็นผู้วิวัฒนาการขั้นเจ็ด? เหนือกว่าขอบเขตของคนทั่วไปแล้ว?’
นี่มันแตกต่างจากบันทึกพลังความสามารถโดยสิ้นเชิง
หยวนเหลยรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในใจ เขานึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่เขาลองหยั่งเชิงจ้าวเจียงในบาร์เล็กที่คฤหาสน์ของซีเหมินฉางชิ่ง
ตอนนั้นเขาคิดว่าตนเองเป็นถึงผู้วิวัฒนาการขั้นห้า สามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้ และไม่มีทางให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเด็ดขาด
แต่สิ่งที่ได้เห็นในวันนี้ทำให้เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ผู้ที่สามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้ แท้จริงแล้วคือจ้าวเจียง ที่เขาและซีเหมินฉางไห่คนโง่สองคนยังปลอดภัยดี ก็เพราะจ้าวเจียงไม่มีเจตนาจะฆ่าพวกเขาเท่านั้น
หากตอนนั้นจ้าวเจียงต้องการลงมือ เขาคาดว่าคงไม่มีแม้แต่โอกาสได้เอ่ยคำสั่งเสีย
—
จ้าวอู่เจียงเข้าใกล้ยานบินขนาดเล็กมากขึ้นเรื่อย ๆ ยานบินได้แล่นผ่านกลุ่มเมฆ มันคงกำลังจะออกจากดาวดวงนี้ที่มีชื่อว่า ดาวเสี่ยวชาง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนเป็นไปตามการคาดการณ์และสัญชาตญาณของเขา
จนถึงตอนนี้เขาก็พอจะเห็นภาพความจริงทั้งหมดของเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า