บทที่ 161 บรรเทาความโดดเดี่ยว
จ้าวอู่เจียงกระแอมไอทำลายความเงียบ แล้วคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย
“พี่สะใภ้ อู่เจียงมีเรื่องสำคัญต้องการปรึกษากับท่าน”
“มีเรื่องอันใดหรือ?” ฮั่วหรูอี้จัดการสางผมของตนเอง นึกดีใจที่จ้าวอู่เจียงไม่ได้ถามเกี่ยวกับม้วนภาพวาด
“ข้าต้องการรวบรวมกองกำลังของตนเอง” จ้าวอู่เจียงกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“บัดนี้ สำนักมังกรเกล็ดศิลาล่มสลายแล้ว แต่ยังมีสมาชิกบางส่วนที่รอดชีวิต ข้าต้องการจะรับตัวพวกเขามาเป็นผู้ติดตาม เพื่อที่ในอนาคต ข้าจะได้แก้แค้นให้แก่พี่ฉีและพวกเขาก็จะได้คุ้มครองพี่สะใภ้ด้วย”
ฮั่วหรูอี้วางม้วนภาพวาดลง ก่อนจะนั่งเคียงข้างจ้าวอู่เจียง หัวใจรู้สึกอบอุ่น กิริยาท่าทางของนางจึงยิ่งสุภาพอ่อนหวานมากกว่าเดิม
“เจ้าต้องการให้ข้าช่วยติดต่อพวกเขา เพื่อมาทำงานให้กับเจ้าใช่หรือไม่?”
จ้าวอู่เจียงพยักหน้า “นับว่าพี่สะใภ้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลยิ่งนัก”
“ย่อมได้” เมื่อได้ยินคำชมเชยจากจ้าวอู่เจียง ฮั่วหรูอี้ก็รู้สึกตื่นเต้นในหัวใจ นางพยายามสะกดอารมณ์ความรู้สึกที่กำลังปะทุอยู่ในอก ก่อนจะแกล้งพูดหยั่งเชิงอีกฝ่าย
“วันนี้เป็นวันดี พวกเราออกไปเดินเล่นข้างนอกพร้อมกับถกเรื่องนี้กันดีหรือไม่?”
จ้าวอู่เจียงพยักหน้า เห็นด้วยกับความคิดนี้ แล้วพวกเขาทั้งสองคนก็ออกมาจากห้องพัก ก้าวเท้าไปตามเฉลียงทางเดิน มุ่งหน้าไปยังสวนดอกไม้พร้อมกับหารือเรื่องราวเหล่านี้ไปด้วย
บนหลังคาของจวนตระกูลเฟิง สององครักษ์มังกรกำลังนั่งอาบแดดอย่างสบายอารมณ์
เจี๋ยสือจิ่วดวงตาทอประกายลึกล้ำ เมื่อเห็นจ้าวอู่เจียงกำลังเดินตรงไปที่สวนดอกไม้ประจำจวนพร้อมกับหญิงงามผู้หนึ่งพลางหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างสนิทสนม บางครั้งสตรีนางนั้นก็จะยกมือขึ้นมาปิดปากด้วยท่าทีขวยเขิน บางครั้งนางก็จะทุบหัวไหล่ของจ้าวอู่เจียงด้วยความแง่งอน ดูเหมือนความสัมพันธ์ของทั้งสองจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว
“เจ้าเห็นหรือไม่? เอ้อร์ซาน” เจี๋ยสือจิ่วขมวดคิ้ว
ในขณะนี้ เจี๋ยเอ้อร์ซานผู้มีหน้าตาใจดีกำลังนอนอยู่บนหลังคา หลับตาอาบแดด ยิ้มตอบกลับไป
“ข้าเห็นหมดแล้ว วันนี้ฟ้าใสกระจ่าง มีก้อนเมฆสีขาว บางครั้งก็มีนกบินผ่าน นับเป็นวันที่สวยงามยิ่งนัก”
“ข้าหมายถึงใต้เท้าจ้าวต่างหาก…” เจี๋ยสือจิ่วขมวดคิ้วด้วยความมึนงงมากกว่าเดิม
เจี๋ยเอ้อร์ซานหัวเราะ
“เขาตกอยู่ในอันตรายหรือ?”
“ไม่ แต่ว่าเขา…” เจี๋ยสือจิ่วกำลังจะอธิบาย แต่ก็ถูกเจี๋ยเอ้อร์ซานขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน
“ในเมื่อเขาไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย แล้วเจ้าจะสนใจไปทำไม? เจ้ากับข้าแค่อยู่ในความสงบและนอนอาบแดดให้สบายใจเถอะ…”
เจี๋ยสือจิ่วไม่ได้กล่าวอะไรอีก แต่ก็รู้ดีว่าจ้าวอู่เจียงคงกำลังพยายามตีสนิทหรือแม้แต่กระทั่งหว่านเสน่ห์ใส่สาวงามผู้อ่อนโยนนางนั้น
ในฐานะองครักษ์มังกรผู้ซื่อสัตย์ต่อฮ่องเต้ เจี๋ยสือจิ่วจะต้องรายงานพฤติกรรมนี้ของจ้าวอู่เจียงให้ฮ่องเต้รับทราบอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นการพิสูจน์ความจงรักภักดีของเขาแล้ว มันก็อาจจะทำให้เขาได้รับความดีความชอบอีกด้วย
เจี๋ยสือจิ่วเก็บความคิดนี้ไว้ในใจ
…
ในสวนดอกไม้ อากาศที่หนาวเย็นของฤดูใบไม้ร่วงทำให้ผืนหญ้าเปลี่ยนสี ดอกไม้เหี่ยวเฉา แต่ด้วยความที่ฮั่วหรูอี้กำลังอารมณ์ดี ใบหน้าของนางจึงประดับรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา
จ้าวอู่เจียงนั่งอยู่เคียงข้างนาง พูดคุยเกี่ยวกับการรวบรวมกองกำลังของตน นี่เป็นการพูดคุยอย่างเปิดใจ
ครึ่งชั่วยามให้หลัง ฮั่วหรูอี้ก็รับปากว่าจะติดต่อบรรดาสมาชิกของสำนักมังกรเกล็ดศิลาที่ยังมีชีวิตอยู่ให้ คาดว่านางจะได้รับทราบข่าวอย่างช้าสุดก็ช่วงดึกคืนนี้
จ้าวอู่เจียงแสดงความขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจ รู้ดีว่าบัดนี้ฮั่วหรูอี้หลงเหลือเพียงตัวคนเดียวคงจะโดดเดี่ยวอย่างยิ่ง และเป็นเรื่องยากที่จะสะกดอารมณ์ความรู้สึก บังเอิญว่าจ้าวอู่เจียงพกบางอย่างติดตัวมาด้วยพอดี และมันน่าจะมีประโยชน์ต่อฮั่วหรูอี้ไม่น้อย

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า