เข้าสู่ระบบผ่าน

ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า นิยาย บท 165

บทที่ 165 ฮ่องเต้หญิงวิตกกังวล

ยามบ่าย

หลังจากจ้าวอู่เจียง ฮั่วหรูอี้และคนอื่น ๆ กินอาหารกลางวันกันเรียบร้อย จ้าวอู่เจียงก็เดินทางกลับเข้าสู่วังหลวง

ชายหนุ่มเดินตรงไปที่ตำหนักหย่างซิน และกำลังจะไปต้มยาสมุนไพรหม้อใหม่ให้แก่ฮ่องเต้หญิง

ระหว่างทาง เขาสังเกตเห็นช่างไม้จากกรมโยธาเดินผ่านไปผ่านมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงลากตัวขันทีผู้หนึ่งมาถามด้วยความสงสัย

“เหตุใดจึงมีช่างไม้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่มากนัก?”

“กำแพงตำหนักของพระสนมจางเจี๋ยอวี๋เกิดพังถล่มลงมาขอรับ จึงมีคำสั่งให้ส่งช่างไม้มาซ่อมแซมเป็นการเร่งด่วน บัดนี้กำลังเข้าสู่ช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงแล้ว อากาศจะหนาวเย็นมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเราจึงสั่งให้ช่างไม้ทุกคนเดินตรวจสอบรอบบริเวณ เพื่อดูว่ามีส่วนไหนชำรุดเสียหายต้องซ่อมแซมอีกหรือไม่”

ยามขันทีน้อยตอบคำถามของจ้าวอู่เจียง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าขันที เขาก็คุกเข่าลงบนพื้นอย่างนอบน้อม และรายงานสิ่งที่ตนเองรู้ออกมาด้วยความเคารพ

หลังจากรับฟังการรายงานแล้ว จ้าวอู่เจียงก็หรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วถูนิ้วมือของตนเองไปมาอย่างใช้ความคิด

จางเจี๋ยอวี๋เป็นบุตรสาวของจางทุยอดีตเสนาบดีกรมคลัง นางมักจะถูกเมินเฉยเสมอนับตั้งแต่ที่เข้าสู่วังหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากบิดาถูกค้นพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักยอกสมุนไพรหลวงออกไปจำหน่าย จ้าวอู่เจียงก็มักจะข้ามชื่อของนางไปเสมอเวลาที่ต้องเลือกนางสนมเข้ามารับใช้ฮ่องเต้

กำแพงตำหนักของนางพังถล่ม ต้องส่งช่างไม้มาซ่อมแซมเป็นจำนวนมาก อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ แต่ว่า… จ้าวอู่เจียงมีดวงตาเป็นประกายเคร่งเครียดมากขึ้น ก่อนจะออกคำสั่งต่อขันทีน้อย

“ให้คนของเราแอบตามสะกดรอยช่างไม้เหล่านั้นไปเงียบ ๆ แล้วค่อยกลับมารายงานความเคลื่อนไหวของพวกเขา”

“รับทราบขอรับ!” ขันทีน้อยโค้งตัวลงรับคำสั่งด้วยความดีใจที่ได้ช่วยงานใต้เท้าจ้าว เพราะทุกคนที่ได้ทำงานกับใต้เท้าจ้าวก็จะได้รางวัลตอบแทนอย่างงดงามเสมอ บัดนี้ เขาได้ทำหน้าที่นั้นแล้ว สถานะของเขาก็จะสูงส่งขึ้นอย่างแน่นอน

จ้าวอู่เจียงจ้องมองไปยังทิศทางของตำหนักหย่างซิน บนหลังคาตำหนักน่าจะมีองครักษ์มังกรซ่อนตัวอยู่เพื่อทำการอารักขาฮ่องเต้ใช่หรือไม่?

จ้าวอู่เจียงรีบสลายความฟุ้งซ่านออกจากสมอง เขาไม่ควรเป็นห่วงเรื่องของพวกองครักษ์มังกรหรอก เขาควรเป็นห่วงเรื่องความสงบเรียบร้อยในตำหนักนางสนมมากกว่า

แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีหลายเรื่องราวเกิดขึ้น แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ลืมว่า กู่พิษแห่งโหลวหลานคือสิ่งที่ถูกพบในโรงหมอหลวง

จ้าวอู่เจียงพอจะมองออกว่า ซุนอี้ขู่คงเป็นผู้นำพวกมันเข้ามาเลี้ยงดูอยู่หลายปีแล้ว และภายในตำหนักนางสนมขณะนี้ก็น่าจะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ถูกควบคุมด้วยกู่พิษแห่งโหลวหลาน เช่นเดียวกับเฉินกงกงหัวหน้าขันทีคนเก่านั่นเอง

แต่บัดนี้ ยังคงไม่มีผู้ใดแสดงอาการของกู่พิษออกมา อาจเป็นเพราะความตายของซุนอี้ขู่ทำให้หนอนผีที่แฝงตัวอยู่ในร่างผู้คนเหล่านั้นขาดการควบคุม และอยู่ในสภาวะจำศีลชั่วคราวก็เป็นได้

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม กู่พิษก็ไม่ต่างจากระเบิดเวลาอยู่ดี จ้าวอู่เจียงไม่เคยละเลยเรื่องนี้ เขาจะไม่ยอมให้ฮ่องเต้หญิงและตู๋กูหมิงเยว่ต้องตกอยู่ในอันตรายเป็นอันขาด

จ้าวอู่เจียงเร่งฝีเท้าเดิน จนมาถึงหน้าประตูของตำหนักหย่างซินในที่สุด

เมื่อฮ่องเต้เห็นว่าชายหนุ่มกลับมาแล้ว ดวงตาของนางก็เป็นประกายด้วยความสุข และชั่วพริบตาหลังจากนั้น นางก็รีบปั้นแต่งสีหน้าเป็นเย็นชาขึ้นมา

“รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” จ้าวอู่เจียงสอบถาม

“ดีขึ้นแล้ว” ฮ่องเต้หญิงตอบรับแผ่วเบา

บทที่ 165 ฮ่องเต้หญิงวิตกกังวล 1

บทที่ 165 ฮ่องเต้หญิงวิตกกังวล 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า