เข้าสู่ระบบผ่าน

ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า นิยาย บท 167

บทที่ 167 คำถามของประมุขกิตติมศักดิ์

ประมุขกิตติมศักดิ์จากตระกูลฉินตกตะลึง เขาไม่คิดเลยว่าประมุขของหอการค้าอย่างเฟิงอวิ๋นไฉจะให้ค่าจ้าวอู่เจียงไว้สูงส่ง ถึงกับขนาดสนับสนุนจ้าวอู่เจียงอย่างออกหน้าออกตาเช่นนี้

“หรือว่าตระกูลฉินไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับกิจการของหอการค้าเราแล้ว? ท่านไม่อยากเห็นพวกเราขยายอำนาจมากไปกว่านี้หรือ?”

ประมุขกิตติมศักดิ์อีกคนหนึ่งลุกขึ้นต่อว่าคนจากตระกูลฉิน ยามที่หลิ่วชิงซานเอ่ยชื่อจ้าวอู่เจียงออกมานั้น หลายคนก็ถึงกับตื่นเต้นไม่น้อย แต่ประมุขกิตติมศักดิ์จากตระกูลฉินกลับประพฤติตัวนอกคอกเสียได้

ประมุขกิตติมศักดิ์ท่านนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“จริงอยู่ที่จ้าวอู่เจียงเป็นขันที แต่เขาก็เป็นสหายกับตระกูลตู๋กู และตระกูลตู๋กูก็มีเส้นสายมากมาย ข้าแอบสืบดูข้อมูลของจ้าวอู่เจียงมาแล้ว ก่อนนี้ตอนที่เขามีตำแหน่งเป็นหัวหน้าขันทีแห่งตำหนักนางสนม เขาก็ยังได้นั่งโต๊ะเดียวกับตู๋กูอี้เหอในงานเลี้ยงของตระกูลตู๋กู มิหนำซ้ำ เขายังพูดคุยกับประมุขตระกูลตู๋กูด้วยความสนิทสนมเป็นอย่างยิ่ง! ท่านลองคิดดูให้ดีเถอะว่า นี่คือเรื่องที่คนธรรมดาสามารถกระทำได้หรือไม่?”

ประมุขกิตติมศักดิ์จากตระกูลฉินรู้สึกตกตะลึงขึ้นมาอีกเล็กน้อย

เขารู้ว่าจ้าวอู่เจียงมีเส้นสายเชื่อมโยงอยู่กับตระกูลตู๋กู แต่ก็รู้สึกว่าเป็นเพียงการรู้จักอย่างผิวเผินเท่านั้น ตระกูลตู๋กูคงไม่ได้ให้ค่าความสำคัญกับจ้าวอู่เจียงสักเท่าไหร่

แต่บัดนี้ เมื่อได้ยินถ้อยคำเหยียดหยามจากประมุขกิตติมศักดิ์คนอื่น ๆ เขาก็ได้รับรู้แล้วว่า จ้าวอู่เจียงคงมีตัวตนไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง

มิฉะนั้นแล้ว จ้าวอู่เจียงจะสามารถไปนั่งอยู่เคียงข้างท่านประมุขตระกูลตู๋กูในงานเลี้ยงได้อย่างไร ขันทีธรรมดาจะเอาศักดิ์ศรีที่ใดไปนั่งตำแหน่งนั้น อีกทั้งพวกเขายังพูดคุยกันด้วยความสนิทสนมอีกด้วยหรือ?

หลิ่วชิงซานมีสีหน้าเคร่งขรึม จ้องมองไปที่ประมุขกิตติมศักดิ์ตระกูลฉิน แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“พี่ชายของข้าทำงานอยู่ในกรมคลังมาเนิ่นนานหลายปี แต่ไม่เคยได้รับการเลื่อนตำแหน่ง แต่บัดนี้เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นรักษาการณ์เสนาบดีกรมคลัง นั่นก็เพราะความช่วยเหลือจากจ้าวอู่เจียง เรื่องนี้พี่ชายเป็นคนบอกข้าด้วยตนเอง สำหรับผู้ที่สามารถเลื่อนตำแหน่งขุนนางได้ตามใจชอบ ท่านยังคิดจะตั้งคำถามกับความสามารถของจ้าวอู่เจียงอีกหรือ? หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ข้าก็อยากจะถามท่านเช่นกันว่า ตระกูลฉินมีคุณสมบัติอันใดถึงกล้าตั้งคำถามต่อตัวของใต้เท้าจ้าวอู่เจียงเช่นนี้?”

ประมุขกิตติมศักดิ์สกุลฉินมีใบหน้าร้อนผ่าว เขาเพียงตั้งคำถามต่อคุณสมบัติของจ้าวอู่เจียง คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกประมุขกิตติมศักดิ์คนอื่น ๆ เหยียดหยามครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่เขาก็ไม่มีทางพูดอะไรได้อีก นอกจากต้องยอมจำนนทนรับความอับอาย

ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจ้าวอู่เจียงจะมีเส้นสาย และผู้หนุนหลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้

นอกจากประมุขกิตติมศักดิ์ประจำตระกูลฉินจะเสียหน้าแล้ว ประมุขกิตติมศักดิ์คนอื่น ๆ ก็ยังตกตะลึงในคำพูดของหลิ่วชิงซานอีกด้วย

แน่นอนว่าพวกเขาย่อมรู้เรื่องที่พี่ชายของหลิ่วชิงซานอย่างหลิ่วว่านซานว่า ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นรักษาการณ์เสนาบดีกรมคลัง และทุกคนต่างก็แอบอิจฉาอยู่ในใจ

แต่สิ่งสำคัญก็คือการเลื่อนตำแหน่งครั้งนี้เป็นความช่วยเหลือจากจ้าวอู่เจียง พวกเขาจึงต้องรีบประเมินค่าจ้าวอู่เจียงในหัวใจใหม่ทั้งหมด

พวกเขาต้องประเมินเส้นสายและผู้หนุนหลังของจ้าวอู่เจียงใหม่ทั้งหมดเช่นกัน

เมื่อเห็นประมุขกิตติมศักดิ์ตระกูลฉินนิ่งเงียบ หลิ่วชิงซานก็มีสีหน้าภาคภูมิขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่อไป

“เมื่อสองวันก่อน ท่านราชเลขาหลิวเจ๋อได้จัดงานเลี้ยงชุมนุมขุนนางใหญ่ พี่ชายของข้าไปร่วมงานเลี้ยง และที่งานเลี้ยงนั้น ใต้เท้าจ้าวอู่เจียงได้ขอความร่วมมือให้ขุนนางทั้งหลายบริจาคเงินเพื่อเติมท้องพระคลัง…”

“พวกท่านก็คงรู้ดีว่า การจะทำให้ขุนนางเหล่านั้นยอมบริจาคเงินเป็นเรื่องที่ยากลำบากเพียงใด แต่ในงานเลี้ยงครั้งนี้ ขุนนางหลายร้อยคนต่างก็ร่วมบริจาคเงินกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา รวบรวมแล้ว ได้เงินมาประมาณหนึ่งล้านตำลึงเห็นจะได้เชียวล่ะ!”

บทที่ 167 คำถามของประมุขกิตติมศักดิ์ 1

บทที่ 167 คำถามของประมุขกิตติมศักดิ์ 2

บทที่ 167 คำถามของประมุขกิตติมศักดิ์ 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า