บทที่ 173 กวาดล้างสำนักไร้ขอบเขต
“รับทราบขอรับนายท่าน” บุรุษชุดดำตอบรับด้วยความเคารพ การกวาดล้างสำนักขนาดเล็กไปจนถึงสำนักขนาดกลางนั้นไม่ใช่เรื่องยากลำบาก บัดนี้เมื่อมีผู้อาวุโสผมขาวเข้ามาช่วยเหลือ สำนักใต้ดินในนครหลวงเหล่านั้นย่อมไม่สามารถต้านทานพวกเขาได้อีก
เซียวเหยาอ๋องออกคำสั่งต่อไป
“อันผิงกับฉีเล่อ พวกเจ้าก็ไปช่วยพวกเขาด้วย”
“ขอรับ”
“เจ้าค่ะ”
อันผิงกับฉีเล่อประสานมือคำนับ พลางรับคำอย่างแข็งขัน
บุรุษชุดดำดีใจเป็นอย่างยิ่ง บัดนี้เมื่อได้องครักษ์ข้างกายของนายท่านอย่างอันผิงกับฉีเล่อมาช่วยงานพร้อมกับผู้อาวุโสผมขาว พวกสำนักขนาดเล็กในนครหลวงจะต่อต้านได้อย่างไร? ดูเหมือนว่านี่จะเป็นภารกิจเร่งด่วนจากนายท่านจริง ๆ นายท่านคงต้องการให้พวกเขาทำภารกิจนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
…
ระหว่างทาง บุรุษชุดดำและลูกสมุนต่างก็รายงานสถานการณ์การกวาดล้างสำนักใต้ดินให้แก่พวกของอันผิงได้รับฟัง การรายงานนั้นประกอบไปด้วยขนาดของสำนักใต้ดินแต่ละแห่ง จำนวนสมาชิก ระดับความแข็งแกร่งของสมาชิกเหล่านั้น ไปจนถึงระดับความแข็งแกร่งของชนชั้นเจ้าสำนัก ฯลฯ
ผู้อาวุโสชุดขาวมีนามว่าอู๋ฉินหยาง หลังจากได้รับฟังรายงานจากบุรุษชุดดำแล้ว เขาก็ได้แต่ส่ายศีรษะ และถอนหายใจให้แก่ความอ่อนด้อยในขั้นพลังของชนชั้นเจ้าสำนักในนครหลวง
ในกลุ่มสำนักขนาดเล็กไปจนถึงสำนักขนาดกลางนั้น มียอดฝีมือที่อยู่ในขอบเขตยอดยุทธ์เพียงหนึ่งถึงสองคนเท่านั้น และที่สำคัญก็คือ เหตุผลที่สำนักขนาดเล็กเหล่านี้สามารถก่อตั้งในนครหลวงได้ ก็เพราะได้รับการหนุนหลังจากขุนนางในวังหลวงต่างหาก
บัดนี้ เมื่อมียอดฝีมือตัวจริงเสียงจริงมาทำการไล่ล่ากวาดล้าง ผู้คนในสำนักขนาดเล็กและขนาดกลางเหล่านั้นจึงไม่สามารถรอดพ้นความตายได้เลย
หากไม่ใช่เพราะว่าในขณะนี้สำนักมังกรเงินกำลังขาดกำลังคน นายท่านก็คงไม่มีทางส่งตัวองครักษ์ข้างกายมาช่วยงานพวกเขาอย่างเด็ดขาด
อันผิงกับฉีเล่อมีสถานะเป็นองครักษ์คอยเฝ้าอยู่ข้างกายเซียวเหยาอ๋องมาอย่างยาวนาน ทั้งสองคนได้รับการฝึกฝนโดยเซียวเหยาอ๋องมาตั้งแต่แรก ความแข็งแกร่งในวิทยายุทธจึงมีความสูงล้ำมากกว่าสมาชิกในสำนักทั่วไป การกวาดล้างสำนักขนาดเล็กเหล่านี้ จึงเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับพวกเขายิ่งกว่าการพลิกฝ่ามือเสียอีก
ว่าแต่ทำไมนายท่านถึงต้องรีบร้อนในการกวาดล้างสำนักเหล่านี้ด้วยเล่า?… อันผิงมีสีหน้าเบื่อหน่ายที่ตนเองกับฉีเล่อถูกส่งมาทำงานชั้นต่ำเช่นนี้
ตอนที่อันผิงบุกเข้าไปในสำนักมังกรเกล็ดศิลาพร้อมกับนายท่าน หลังจากที่นายท่านฆ่าฉีหลินอย่างง่ายดายแล้ว อันผิงก็รับช่วงต่อในการกวาดล้างสมาชิกส่วนที่เหลือของสำนักมังกรเกล็ดศิลา ซึ่งผู้อาวุโสที่มีขั้นพลังอยู่ในขอบเขตยอดยุทธ์ล้วนแต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยสักนิด
ฉีเล่อก็มีสีหน้ายุ่งเหยิงเช่นกัน การกวาดล้างสำนักเล็ก ๆ เหล่านี้ถึงกับต้องให้พวกนางมาลงมือ นี่แสดงให้เห็นว่าบุรุษชุดดำผู้นั้นไร้ประโยชน์อย่างยิ่ง
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า