บทที่ 175 องครักษ์มังกรที่ซ่อนตัวอยู่
ตู้ม!
ปราณกระบี่ปะทะเข้ากับหอกของสองพี่น้องตระกูลซู เมื่อการต่อสู้ปะทุขึ้น อันผิงก็เป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด เขายิ้มมุมปาก ใช้วิชาฝ่าเท้าวิญญาณในการเคลื่อนไหว กระบี่ในมือทิ่มแทงตวัดฟาดฟัน เพียงพริบตาเดียว สองพี่น้องตระกูลซูก็ได้รับบาดเจ็บเลือดท่วมตัว
กู้เหนียนหยวนโบกสะบัดมือ ซัดอาวุธลับออกมาจากในแขนเสื้อ ฉีเล่อสามารถรับอาวุธลับเหล่านั้นได้อย่างไม่ยากเย็น และนางก็กระโจนเข้าประชิดตัวกู้เหนียนหยวนได้อย่างรวดเร็ว
กู้เหนียนหยวนพยายามเบี่ยงกายหลบ แต่ก็ถูกกำปั้นของอีกฝ่ายกระแทกเข้าอย่างแรง พลังลมปราณในร่างกายแตกกระจาย ส่งผลให้การเคลื่อนไหวช้าลงเรื่อย ๆ
สุดท้าย ฉีเล่อก็กระแทกกำปั้นอัดเข้าไปบริเวณหัวใจของกู้เหนียนหยวน แรงกระแทกทำให้กู้เหนียนหยวนแทบจะหมดสติ นางกระอักเลือดออกมาจากปากคำโตในขณะที่เซถอยหลังไปหลายก้าว
“คิดต่อต้านสำนักมังกรเงินก็จะมีแต่หายนะเท่านั้น เจ้าควรดีใจที่ผู้อาวุโสอู๋ชื่นชอบเจ้านะ” ฉีเล่อชักกระบี่อ่อนออกมาจากข้างเอว และกำลังจะใช้กระบี่ตัดเส้นเอ็นแขนขาของกู้เหนียนหยวนให้สะบั้น
กู้เหนียนหยวนหัวใจกระตุกวูบ นางหมดสิ้นเรี่ยวแรงแล้ว ไม่มีทางหลบหนีได้เลย
ห้องตำราอยู่ห่างไกลจากห้องพักทางด้านหลัง มิหนำซ้ำยังบุผนังป้องกันเสียงเล็ดลอดออกไปภายนอกเป็นอย่างดี กู้เหนียนหยวนรู้ดีว่า พวกของจ้าวอู่เจียงคงไม่มีทางรู้ว่ากำลังเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น เพราะพวกเขาจะไม่ได้ยินเสียงการต่อสู้ภายในห้องตำราแม้แต่น้อย แต่ก็นับว่าดีแล้ว เพราะพวกเขาอาจจะมีเวลาให้หลบหนีได้มากขึ้น
ความสิ้นหวังปรากฏขึ้นในหัวใจของกู้เหนียนหยวน คนของสำนักมังกรเงินแข็งแกร่งกว่าพวกนางมากนัก ช่องว่างที่ไม่อาจต่อกร ห่างออกไปไม่ไกล ชายชราในชุดขาวกำลังยิ้มออกมาอย่างลามก รอยยิ้มนั้นทำให้นางรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว
คมกระบี่กำลังจะเฉือนลงมาแล้ว กู้เหนียนหยวนทำได้เพียงถอยไปเรื่อย ๆ ด้วยความเชื่องช้าผิดปกติ ใบหน้าของนางมีแต่ความสิ้นหวัง พลังปราณจากฝ่ายตรงข้ามทำให้เส้นผมสีดำที่ปิดบังใบหน้าถูกเป่ากระจายไปทางด้านหลัง เปิดเผยให้เห็นถึงความงดงามอย่างหาตัวจับได้ยาก โดยเฉพาะไฝบริเวณข้างดวงตานั้นทำให้นางดูมีเสน่ห์มากทีเดียว
เคร้ง!
ชั่วพริบตาของความเป็นความตาย เข็มเงินสี่เล่มพุ่งแหวกอากาศเข้าปะทะกับกระบี่ในมือของฉีเล่อ ส่งผลให้คมกระบี่เบี่ยงทิศทางออกไป
แล้วเงาดำก็พุ่งเข้ามาเหมือนสายฟ้า รวบตัวของกู้เหนียนหยวนกระโดดหลบไปด้านข้าง
กระบี่ในมือของฉีเล่อจึงตัดผ่านเพียงความว่างเปล่า นางชักสีหน้าด้วยความเดือดดาล จิตสังหารทวีความรุนแรงมากขึ้น หญิงสาวยกกระบี่ และจ้องมองไปยังบุคคลผู้มาให้ พลันดวงตาก็เบิกโตด้วยความเหลือเชื่อ
บุคคลที่เข้ามานั้นแต่งกายด้วยชุดสีดำ มีความหล่อเหลาราวเทพบุตร นางรู้สึกคุ้นเคยกับหน้าตาของคนคนนี้ เนื่องจากเคยพบเขามาก่อนตอนที่ไปช่วยเหลืออันผิงออกมาจากคุกใต้ดินของกรมยุติธรรม และในภายหลัง ฉีเล่อก็ได้รู้ว่าคนผู้นี้มีนามว่า จ้าวอู่เจียง ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ครอบครองกระบี่มังกรฟ้าคนปัจจุบัน
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า