บทที่ 192 คนเฝ้าสุสาน
พวกเขาเดินไปจนสุดปลายอุโมงค์
ก่อนจะพบกับประตูศิลาอีกบานหนึ่ง สองแก้มของกู้เหนียนหยวนที่อยู่ภายใต้หน้ากากทองแดงกลายเป็นสีชมพูขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อนางกลับมาถึงบ้าน นางก็กลายเป็นเพียงเด็กสาวตัวน้อย ไม่ใช่สตรีผู้เย็นชาในนครหลวงอีกต่อไป
กู้เหนียนหยวนล้วงมือเข้าไปในคอเสื้อ และคลำหาบางอย่างด้วยความไม่แน่ใจ
จ้าวอู่เจียงจ้องมองด้วยความพิศวง เนื่องจากคอเสื้อที่เปิดออกทำให้เขาสามารถมองเห็นด้านข้างของเต้าขาวอวบที่น่าภาคภูมิใจของนางได้ถนัดตา
“ท่านอย่ามอง…” กู้เหนียนหยวนส่งเสียงดุ ก่อนจะดึงเชือกออกมาจากคอเสื้อ ปลายเชือกเส้นนั้นมีกุญแจทองแดงดอกหนึ่งผูกติดอยู่
นางเสียบกุญแจลงไปในรูบนประตูศิลา แล้วหมุนกุญแจช้า ๆ หลังจากนั้น ประตูศิลาก็เลื่อนเปิดออกเสียงดังครืดคราด
เมื่อประตูเปิดออกจนสุด จ้าวอู่เจียงก็มองเห็นแสงไฟ ในเวลาเดียวกันนี้ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ชายหนุ่มดึงให้กู้เหนียนหยวนมาหลบอยู่ทางด้านหลังตนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เพียงพริบตาเดียว ชายชราร่างเตี้ยคนหนึ่งก็มาปรากฏตัวที่หน้าประตู ชายชราผู้นี้มีความสูงไม่ถึงหัวไหล่ของจ้าวอู่เจียงด้วยซ้ำ
ชายชราสวมใส่ผ้าเนื้อหยาบ หนวดเคราและเส้นผมเป็นสีดอกเลา ใบหน้ามีสง่าราศี แววตาคมกล้าดุดัน
“ท่านปู่!” กู้เหนียนหยวนปล่อยมือจ้าวอู่เจียง นางวิ่งเข้าไปสวมกอดชายชราด้วยความคิดถึง
“เหนียนหยวน?” กู้ชางเทียนทั้งมึนงงและประหลาดใจ ความดุดันในแววตาสลายไป ในขณะที่ใช้มือลูบแผ่นหลังกู้เหนียนหยวนแผ่วเบา
กู้เหนียนหยวนกลายเป็นเด็กน้อยที่ถูกตามใจ
“ท่านปู่ ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน”
“ปู่ก็คิดถึงเจ้าเช่นกัน” กู้ชางเทียนไอออกมาเบา ๆ ใบหน้ากลายเป็นซีดขาวไร้สีไปชั่วขณะ ก่อนที่จะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
“ท่านปู่ คนผู้นี้คือจ้าวอู่เจียง…” กู้เหนียนหยวนปลดหน้ากากทองแดงออก เปิดเผยให้เห็นใบหน้างดงาม และความเขินอายในแววตา
จ้าวอู่เจียงก็ถอดหน้ากากออกเช่นกัน และประสานมือทำความเคารพ “จ้าวอู่เจียงคารวะท่านผู้อาวุโส…”
รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้ชางเทียนจางหายไป ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นความเย็นชา เขาตอบกลับมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ข้าสัมผัสได้ถึงความเจ้าเล่ห์ของเจ้า…”
เมื่อจ้าวอู่เจียงได้ยินเช่นนี้ คิ้วของเขาก็ขมวดมุ่น
“เจ้าใช้หน้าตาอันหล่อเหลาล่อลวงเหนียนหยวนสินะ?” กู้ชางเทียนพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำมากขึ้นเรื่อย ๆ ปลดปล่อยพลังกดดันจากร่างกายใส่จ้าวอู่เจียงอย่างต่อเนื่อง
จ้าวอู่เจียงรู้สึกคล้ายกับมีกระแสน้ำที่มองไม่เห็นกำลังซัดใส่ตนเองอย่างบ้าคลั่ง นั่นทำให้เขาทนแทบไม่ไหว จนต้องถามกลับไปด้วยความสงสัย “ผู้อาวุโสหมายความว่าอย่างไร?”
“ท่านปู่!” กู้เหนียนหยวนรีบขยับเข้ามายืนขวางหน้าจ้าวอู่เจียง แววตาเต็มไปด้วยความร้อนใจ และมีความสงสัยไม่ต่างกัน
“เหนียนหยวนมีจิตใจที่บริสุทธิ์เกินไป ไม่รู้หรอกว่าคนภายนอกมีจิตใจที่ชั่วร้ายเพียงใด เจ้าหลอกให้นางพาเจ้ามาที่นี่!” กู้ชางเทียนจ้องมองจ้าวอู่เจียงด้วยแววตาดุดัน คล้ายกับว่าพยายามจะค้นหาอะไรบางอย่าง

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า