บทที่ 212 พบกับธิดาศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง
จ้าวอู่เจียงเปิดประตูเข้าไป ก็พบโฉมงามที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะน้ำชาภายในห้อง
นางสวมใส่ชุดสีขาวสะอาดตา ดวงตาไม่ได้เป็นประกายมุ่งร้าย แต่ออกจะให้ความรู้สึกอ่อนโยนนุ่มนวลเสียด้วยซ้ำ
เส้นผมสีดำขลับถูกรวบไปทางด้านหลังด้วยผืนผ้าสีชมพูและสีขาว ยาวสลวยลงไปถึงช่วงเอว
“มาแล้วหรือ…” ซูฮัวอีกัดริมฝีปากสีแดงอิ่มของตนเองเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้ากากทองแดงที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพร้อมด้วยร่างกายอันสูงโปร่ง และกระแสปราณอันอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมา
จ้าวอู่เจียงเดินไปนั่งลงตรงข้ามนางอย่างเยือกเย็น
“ท่านให้ข้ามาพบมีเรื่องอันใด?”
“เจ้าทำลายความบริสุทธิ์ของข้า ยังจะต้องถามว่าทำไมอีกหรือ?” ดวงตาของซูฮัวอีที่จ้องมองชายหนุ่มวาวโรจน์ขึ้นมาทันที
จ้าวอู่เจียงตอบรับกลับไปหน้าตาย
“เป็นท่านไม่ยอมปล่อยข้าไปเอง… หากท่านไม่ลอบโจมตีข้า เรื่องราวก็คงไม่เลยเถิดมาถึงขั้นนี้”
“ข้าถึงเรียกเจ้ามาชำระความผิดบาปไงเล่า!”
ซูฮัวอีย่นจมูก ยกมือขึ้น และกระแทกฝ่ามือ ระเบิดพลังลมปราณใส่จ้าวอู่เจียง
จ้าวอู่เจียงไม่ได้ประหลาดใจเลยสักนิด ดวงตาเรืองประกายสีทอง ชายหนุ่มยกมือขึ้น กระแทกฝ่ามือออกไปสวนการโจมตีของอีกฝ่าย
ตราประทับรูปดอกบัวที่อยู่ตรงกลางหน้าผากของซูฮัวอีกลับกลายเป็นสีแดงอมชมพูขึ้นมาทันที ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ เป็นสีน้ำเงินเข้มมาโดยตลอด
ขอบเขตพลังของซูฮัวอีเพิ่มในพริบตา ฝ่ามือแข็งแกร่งมากขึ้น สามารถทำการโจมตีจ้าวอู่เจียงได้หลายกระบวนท่า
เกิดการต่อสู้กันภายในห้องพักอย่างดุเดือด โต๊ะและเก้าอี้ล้มโครมคราม เก้าอี้บางตัวถึงกับแตกกระจาย
ในระหว่างที่ต่อสู้กันนี้ จ้าวอู่เจียงก็ได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจว่า ทำไมซูฮัวอีต้องมาสู้กับเขาด้วย แม้ว่านางจะเปิดฉากโจมตีด้วยความดุร้ายเกรี้ยวกราด แต่สัมผัสถึงจิตสังหาารไม่ได้เลย?
กลับกลายเป็นว่าเขาสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจอะไรบางอย่าง? ชายหนุ่มเคลื่อนไหวร่างกายด้วยความรวดเร็ว ยกแขนขึ้นป้องกันฝ่ามือของซูฮัวอี ก่อนที่จะขยับไปข้างหน้า ใช้แขนอีกข้างรวบร่างบอบบางที่แสนอบอุ่นเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
ซูฮัวอีทั้งเขินอายและโกรธแค้น นางยกขาขึ้นพยายามจะตีเข่าใส่กล่องดวงใจอีกฝ่าย แต่จ้าวอู่เจียงก็ยกขาขึ้นมาปัดป้องได้ทันเวลา ด้วยเหตุนี้เอง ทั้งสองฝ่ายจึงสูญเสียการทรงตัว ก่อนจะพากันล้มลงไปบนเตียงด้วยกันทั้งคู่
จ้าวอู่เจียงกดร่างของธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งสำนักกลิ่นบุปผาไว้เบื้องล่าง นางรู้สึกอับอาย ตราประทับรูปดอกบัวกลางหน้าผากทอประกายสว่างไสว เป็นสัญญาณว่านางกำลังจะโจมตีอีกครั้ง
แต่จ้าวอู่เจียงมีสายตาเฉียบแหลมและมือที่ว่องไว หลังจากฝึกวิชาทองคำไร้พ่าย ฝ่ามือของเขาก็มีพละกำลังมหาศาล จึงสามารถจับข้อมือทั้งสองข้างของซูฮัวอีก่อนจะยกพวกมันขึ้นไปอยู่เหนือศีรษะของนางด้วยมือเพียงข้างเดียว
“คนชั่ว ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ!” ใบหน้างดงามของซูฮัวอีกลายเป็นสีแดงก่ำ
จ้าวอู่เจียงจ้องมองริ้วแดงที่เกิดจากความเขินอายบนใบหน้าของซูฮัวอี พลางแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
“ท่านเรียกข้ามาที่นี่เพื่ออะไร? ต้องการจะครอบครองร่างกายของข้าอีกครั้งหรือ?”
“เจ้า! ข้าจะฆ่าเจ้า!” ซูฮัวอีพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่จ้าวอู่เจียงมีความแข็งแรงมากเกินไป
ชายหนุ่มจ้องมองเข้าไปในดวงตาไหวระริกของซูฮัวอี ก่อนจะพยักหน้า
“ข้าเข้าใจแล้ว…”
“เจ้าเข้าใจอันใด?”
ดวงตาซูฮัวอีฉายแววอับอายและตื่นตระหนก ลมหายใจต่อมา ดวงตาของนางก็ถูกปิดด้วยผ้าขาว ทำให้ประสาทสัมผัสอื่น ๆ เด่นชัดขึ้น แล้วนางก็รับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่ทาบทับลงมาบนริมฝีปากอวบอิ่ม



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า