บทที่ 215 ซ่อนคมมีดอยู่ในรอยยิ้ม
จ้าวอู่เจียงแต่งกายด้วยชุดสีดำ สวมหน้ากากทองแดง มือจูงสายบังเหียนม้า เมื่อเห็นกลุ่มคนกำลังมุ่งหน้ามายังสำนักไร้ขอบเขต เขาจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย
เจี๋ยเอ้อร์ซานกับเจี๋ยสือจิ่วโคจรพลังลมปราณในร่างกาย สัมผัสได้ถึงระดับพลังของฝ่ายตรงข้าม บุคคลทั้งห้าที่อยู่บนหลังม้าเป็นยอดฝีมือในจุดสูงสุดของขั้นสี่ไม่ผิดแน่ แต่ส่วนที่เหลือ มียอดฝีมือขอบเขตยอดยุทธ์อยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนคนอื่น ๆ ล้วนมีขอบเขตพลังต่ำต้อยทั้งสิ้น
หลี่หูเจ้าสำนักไหมฟ้า หยวนเยว่เจ้าสำนักหมึกทมิฬและเจ้าสำนักคนอื่น ๆ ต่างก็เห็นพวกของจ้าวอู่เจียงเช่นกัน พวกเขารีบควบม้าเข้ามาใกล้ หลี่หูสัมผัสได้ถึงพลังปราณอันแข็งแกร่งจากตัวของจ้าวอู่เจียงกับกู้เหนียนหยวน จึงสอบถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“พวกท่านอยู่ในสำนักนี้หรือ?”
“พวกท่านเป็นใคร?” จ้าวอู่เจียงตอบกลับด้วยคำถาม
หลี่หูไม่สามารถระบุตัวตนของจ้าวอู่เจียงได้
“ข้ามีนามว่าหลี่หูเป็นเจ้าสำนักไหมฟ้า สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งสำนักมิตรสหายของข้านามว่าฉีหลิน ภายหลังสถานที่แห่งนี้ได้ถูกผู้อื่นยึดครองไป ข้าจึงมาที่นี่เพื่อกำจัดมดปลวกเหล่านั้นให้สิ้นซาก ไม่ทราบว่าพวกท่านมาทำอะไรที่นี่?”
“พวกท่านเองก็มีขอบเขตพลังไม่ต่ำต้อย อย่าได้ตัดสินใจผิดพลาดเลย หากพวกท่านไม่มีอันใดเกี่ยวข้องกับสำนักไร้ขอบเขต ก็จงรีบถอยกลับไปให้เร็วไว” หยวนเยว่พูดพร้อมกับยิ้มกว้าง
จ้าวอู่เจียงเข้าใจดีถึงจุดประสงค์ที่หลี่หูกับพรรคพวกตั้งใจมายังสำนักไร้ขอบเขตในวันนี้ แต่ก็ต้องชื่นชมจริง ๆ ว่าอีกฝ่ายหาข้ออ้างได้สมเหตุสมผลนัก
จ้าวอู่เจียงยิ้มตอบกลับไปด้วยความอ่อนโยน
“พี่ฉีกับข้าก็เป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน พวกเราเองก็ต้องการมาดูว่าสำนักไร้ขอบเขตเป็นสำนักประเภทใด พวกมันกล้าดีอย่างไรถึงได้มายึดครองอาณาเขตของสำนักมังกรเกล็ดศิลาเช่นนี้! เอาเป็นว่าพวกเราเข้าไปดูด้านในพร้อมกันเลยดีหรือไม่…”
หลังจากนั้น เขากับกู้เหนียนหยวนก็เดินผ่านประตูเข้าไปในสำนักไร้ขอบเขต โดยไม่รอฟังคำตอบจากพวกของหลี่หูเลยสักนิด
“เจ้า!” หลี่หูรู้สึกประหลาดใจ บุรุษชุดดำคนนี้มีท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตน แต่พฤติกรรมกลับยโสโอหัง แม้ว่าจะมีขอบเขตพลังไม่ต่ำต้อย แต่ถึงกับกล้าบุกเข้าไปในสำนักไร้ขอบเขตโดยไม่รอคอยผู้ใดเชียวหรือ? เขาไม่แม้แต่สนใจปรึกษาหารือเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ด้วยซ้ำ?
หลี่หูกระโดดลงจากหลังม้า เดินผ่านประตูเข้าไป ใบหน้าบึ้งตึงคิ้วขมวด
หยวนเยว่และคนอื่น ๆ ก็กระโดดลงจากหลังม้าและเดินเข้าสู่สำนักไร้ขอบเขตเช่นกัน และไม่ลืมกำชับผู้ติดตามทั้งหลายว่าให้บุกเข้าไปทันทีหากได้ยินเสียงผิดปกติ
เจี๋ยเอ้อร์ซานซ่อนมืออยู่ในแขนเสื้อ ใบหน้ายังคงประดับรอยยิ้มใจดี เจี๋ยสือจิ่วผู้มีใบหน้าดุร้ายก็เดินตามทุกคนเข้าสู่ด้านในสำนักไร้ขอบเขตเช่นกัน
…
ผู้อาวุโสประจำสำนักไร้ขอบเขตอย่างซูเหลียงจิ่วกำลังปรึกษาหารือเรื่องการพัฒนาสำนักอยู่กับน้องชายอย่างซูซานชาง ฮั่วหรูอี้นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ นางวางข้อศอกลงบนโต๊ะประชุม นั่งเท้าคางด้วยจิตใจที่เหม่อลอย กำลังเป็นห่วงพวกจ้าวอู่เจียง
ในทันใดนั้น ทุกคนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้น ก่อนประตูจะเปิดออก
ผู้มาใหม่คือจ้าวอู่เจียงกับกู้เหนียนหยวนที่ก้าวเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุข ซูเหลียงจิ่วรู้สึกโล่งใจ ในที่สุด เจ้าสำนักไร้ขอบเขตก็กลับมาแล้ว
ฮั่วหรูอี้ลุกขึ้นยืนด้วยความประหลาดใจ กำลังจะเดินเข้าไปหา แต่ทันทีที่รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า นางก็พบว่าด้านหลังจ้าวอู่เจียงกับกู้เหนียนหยวนมีคนติดตามมาด้วยอีกห้าคน รอยยิ้มของนางจึงค่อย ๆ เลือนหายไป และถูกแทนที่ด้วยความมึนงง
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า