บทที่ 219 การผจญภัยย่อมทำให้หมดแรงเป็นธรรมดา
แม่น้ำและทะเลสาบต่างก็มีกิ่งก้านสาขามากมาย
เช่นเดียวกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน
เมื่อมีความสุข ก็ต้องมีความทุกข์ เมื่อมีคนที่ซื่อสัตย์ ย่อมมีคนที่เจ้าเล่ห์
มือกระบี่พเนจรหลี่จัวเป็นมือกระบี่อันดับที่สิบหกในยุทธภพ เขาทำการป่าวประกาศข่าวลือให้ทุกคนได้ทราบโดยทั่วกันว่าตัวจริงของบุรุษไร้หน้านั้นก็คือเซวียนหยวนอวี้เหิง ผู้เป็นเสด็จอาของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันแห่งแคว้นต้าเซี่ย นี่คือคลื่นสั่นสะเทือนที่แผ่กระจายออกไปเป็นวงกว้างโดยที่มีอารามผู่ถัวเป็นจุดศูนย์กลาง
การกระจายข่าวได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดีโดยเจียงเมิ่งลี่ นางอาศัยช่องทางตระกูล ป่าวประกาศข้อความตามที่จ้าวอู่เจียงต้องการ และบัดนี้ บุรุษไร้หน้าก็กลายเป็นผู้ที่มีภาพลักษณ์ชั่วร้ายในยุทธภพไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากเขาจะขโมยคัมภีร์ปราณไร้วิญญาณไปครอบครองแต่เพียงผู้เดียว บุรุษไร้หน้ายังเป็นผู้ฝึกฝนวิชามหาเทพดูดดาว ระหว่างการเดินทางในครั้งนี้ เขาสังหารยอดฝีมือที่ขวางทางไปเป็นจำนวนมาก และยังร่วมมือกับบรรดาคนเถื่อนแห่งแคว้นหนานเจียง คิดก่อการกบฏทรยศบ้านเมือง
แม้ฉากหน้าจะเป็นยอดฝีมือผู้ผดุงความยุติธรรม แต่เนื้อแท้นั้น บุรุษไร้หน้าเป็นคนโหดร้ายอำมหิต เมื่อมีการเปิดเผยชื่อเสียงและหน้าตาที่แท้จริงของบุรุษไร้หน้าออกไป ผู้คนในยุทธจักรก็เริ่มต้นสืบหาอดีตของบุรุษไร้หน้า และในไม่ช้า พวกเขาก็นำเบาะแสทั้งหมดมาปะติดปะต่อเข้าด้วยกันจนได้ภาพรวมที่สมบูรณ์
ใช้เวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น บุรุษในยุทธจักรก็ได้สืบพบว่าบุรุษไร้หน้าไม่ใช่แต่เพียงเป็นสมาชิกของสำนักมังกรเงินเท่านั้น แต่เขายังเป็นถึงเจ้าสำนักผู้ไม่เคยปรากฏตัวให้ผู้ใดพบเห็นมาก่อน และนี่ก็เป็นการยืนยันว่าทั้งสองคนนั้นก็คือคนคนเดียวกัน
ที่สำคัญก็คือ สำนักมังกรเงินก่อตั้งขึ้นเมื่อห้าปีก่อน และบุรุษไร้หน้าก็ปรากฏตัวขึ้นเมื่อห้าปีก่อนเช่นกัน ในภายหลัง สำนักมังกรเงินก็กลายเป็นหนึ่งในสำนักชื่อดังที่สุดของยุทธจักร ส่วนบุรุษไร้หน้าก็กลายเป็นมือกระบี่อันดับหนึ่ง และเป็นหนึ่งในยอดฝีมือที่น่าเกรงขามที่สุด
นั่นประจวบเหมาะกับช่วงเวลาเดียวที่มีการเปลี่ยนผ่านราชบัลลังก์พอดี พระอนุชาของฮ่องเต้องค์ก่อนถูกเนรเทศออกจากนครหลวง ตัดสินใจออกเดินทางท่องยุทธภพ ช่างบังเอิญเหลือเกินที่นั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่บุรุษไร้หน้าปรากฏตัวขึ้น
ห้าปี? คนเราสามารถใช้เวลาห้าปีทำสิ่งใดได้บ้าง?
บัดนี้ ทุกคนในยุทธจักรล้วนรู้แล้วว่าเซวียนหยวนอวี้เหิงร่วมมือกับผู้คนจากแคว้นหนานเจียงตลอดห้าปีที่ผ่านมา และก่อตั้งสำนักมังกรเงิน อีกทั้งยังสังหารยอดฝีมือไปเป็นจำนวนมาก เพื่อดูดซับพลังลมปราณทั้งหมดนั้นมาเป็นของตนเอง
เซวียนหยวนอวี้เหิงสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ตนเองผ่านถนนซากศพและมหาสมุทรโลหิต แต่ฉากหน้าก็ปั้นแต่งเป็นบุคคลที่รักอิสระ เข้าใจประชาชน มีจิตใจอ่อนโยน และไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องการเมือง
ทว่าสุดท้าย ความจริงกลับกลายเป็นเรื่องหลอกลวง และเรื่องหลอกลวงกลับกลายเป็นความจริง
ไม่ว่าอย่างไร คำโกหกย่อมต้องถูกเปิดโปงในสักวันหนึ่ง
ดังนั้น ตลอดสองวันที่ผ่านมา ผู้คนในยุทธจักรจึงเอาแต่กล่าวถึงเรื่องราวความชั่วร้ายของเซวียนหยวนอวี้เหิงไม่หยุดหย่อน
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สายลมก็พัดพาข่าวทั้งหมดนั้นมาถึงหูของผู้คนในนครหลวงอย่างรวดเร็ว
…
นครหลวง ณ ตำหนักหย่างซิน ห้องบรรทมฮ่องเต้
“ทูลฝ่าบาท ผู้ต่ำต้อยเสี่ยวหลี่จือขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”
เสียงบีบเล็กแหลมสูงของเสี่ยวหลี่จือดังขึ้นหน้าประตู ในสองวันที่ผ่านมา จ้าวอู่เจียงออกเดินทางเข้าสู่ยุทธภพ และไม่ได้อยู่ในนครหลวง ดังนั้น ฮ่องเต้หญิงจึงต้องหาข้ออ้างในการไม่เรียกตัวนางสนมเข้ามารับใช้
เสี่ยวหลี่จือถูกบรรดานางสนมเร่งเร้าให้มาสอบถามฮ่องเต้อยู่ทุกคืน

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า