บทที่ 22 พิธีเลือกคู่ครอง
ภายใต้แสงอาทิตย์อัสดง จ้าวอู่เจียงเดินทางกลับเข้าสู่วังหลวง และเมื่อไปถึงตำหนักหย่างซิน เขาก็พบว่าอวี้เอ๋อร์หญิงรับใช้คนสนิทของเซียวซูเฟยที่เพิ่งพบเมื่อเช้าได้มารออยู่ก่อนแล้ว
“จ้าวกงกง พระสนมเชิญท่านไปพบเจ้าค่ะ”
“เชิญนำทาง” จ้าวอู่เจียงตอบกลับอย่างไม่ขัดข้อง
ในเวลาเดียวกันนี้
พื้นที่ทางตะวันออกของเขตเจียงตู่ ภายในหอผิงคังอันเป็นสถานที่ในการดูแลของกรมพิธีการ พิธีเลือกคู่ครองระหว่างตัวแทนจากแคว้นต้าเซี่ยและองค์หญิงแห่งไป๋เยว่ก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
ขุนนางจำนวนหลายร้อยคนมารวมตัวกันอยู่ในโถงใหญ่ของตัวตึก เซวียนหยวนจิ้งนั่งอยู่บนบัลลังก์สูง ดวงตาเป็นประกายแวววาวด้วยความทรงอำนาจ
“องค์หญิงแห่งไป๋เยว่เสด็จแล้ว!” เสียงแหลมเล็กของขันทีตะโกนขึ้น
แล้วคณะทูตผู้คุ้มกันองค์หญิงอวี้เซวียนก็เดินเข้ามาภายในโถงใหญ่
เสียงอุทานด้วยความตกตะลึงดังขึ้นภายในตัวตึกโดยทันที
องค์หญิงแห่งไป๋เยว่มีคิ้วเข้ม ดวงตาสดใส ฟันขาวสะอาด มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น ดวงตาสีฟ้าเปล่งประกายราวกับอัญมณี
บัดนี้ นางกำลังยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่รัศมีแห่งความเย็นชาที่แผ่ออกมาจากร่างกาย ก็สามารถขับไล่ผู้คนให้ถอยหนีไปห่างไกลหลายพันลี้
องค์หญิงแห่งไป๋เยว่ไม่ต่างไปจากเทพธิดาภูเขาน้ำแข็ง ใบหน้าอันเคร่งขรึมและรอยยิ้มของนาง ประทับลงในหัวใจของบุรุษน้อยใหญ่ ตราบใดที่วันนี้พวกเขาสามารถสร้างความประทับใจให้แก่องค์หญิงได้ พวกเขาก็จะได้สร้างความดีความชอบอันใหญ่หลวงให้แก่ประเทศชาติ และยังได้มีโอกาสครอบครองหญิงงามอีกด้วย
“ทูลฝ่าบาท เงื่อนไขที่ทางหม่อมฉันเสนอมาเป็นอาหารหนึ่งแสนชั่ง ม้าพันธุ์ดีสองหมื่นตัว ม้าสำหรับใช้แรงงานอีกสามพันตัว ไม่ทราบว่าฝ่าบาทได้ลองพิจารณาดูแล้วหรือไม่เพคะ?” องค์หญิงอวี้เซวียนพูดตามบทบาทที่ตนเองได้รับการสั่งสอนมา
เซวียนหยวนจิ้งขมวดคิ้วด้วยความเย็นชา กำลังจะกล่าวอะไรบางอย่าง แต่เหล่าขุนนางก็ส่งเสียงแทรกเสียก่อน
“ต้าเซี่ยเป็นดินแดนอันกว้างใหญ่มีความอุดมสมบูรณ์มาแต่ไหนแต่ไร เงื่อนไขเพียงเท่านี้ หาได้เป็นอะไรไม่”
“บัดนี้ลมฝนทางด้านนอกกำลังรุนแรง ความสงบสุขคือสิ่งสำคัญที่สุด!”
“ใต้เท้าจี่พูดมีเหตุผล สิ่งสำคัญในตอนนี้คือความสงบสุข เมื่อสองแคว้นคิดผูกสัมพันธ์ทางการทูต ความสงบสุขของประชาราษฎร์ย่อมมาก่อนผลประโยชน์ พวกเราควรรับเงื่อนไขเหล่านี้โดยไม่มีข้อแม้พ่ะย่ะค่ะ!”
“เพื่อจะได้แต่งงานกับยอดหญิงงามเช่นนี้ มีเงื่อนไขใดที่รับไม่ได้ด้วยหรือ”
เมื่อได้เห็นว่าบรรดาขุนนางน้อยใหญ่ต่างก็เห็นด้วยกับเงื่อนไขเหล่านั้น และพยายามโน้มน้าวตนอย่างสุดความสามารถ เซวียนหยวนจิ้งก็มีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาในทันใด
“หุบปากเดี๋ยวนี้!”
หลังจากนั้น โถงใหญ่ในหอผิงคังก็ตกอยู่ในความเงียบ ฮ่องเต้แสดงความเดือดดาลออกมาโดยไม่ปิดบัง บรรยากาศจึงเงียบสงัดจนแทบได้ยินเสียงจั๊กจั่นกรีดปีก
“ข้าไม่เห็นด้วย!” เซวียนหยวนจิ้งจ้องมองกลุ่มคนด้วยแววตาเย็นชา



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า