เข้าสู่ระบบผ่าน

ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า นิยาย บท 227

บทที่ 227 เตาหลอมกระบี่

“เหนียนหยวน ท่านกำลังทรมานจากความเจ็บปวดแบบใด?” ดวงตาของจ้าวอู่เจียงทอประกายลุ่มลึก

กู้เหนียนหยวนโน้มตัวอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง ใบหน้างดงามซีดเซียวดูน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง

“ทุกครั้งที่ข้ามีรอบเดือน ร่างกายก็จะร้อนดั่งไฟแผดเผา ข้ารู้สึกเหมือนมีเปลวไฟเผาผลาญอยู่ภายในร่างกาย เป็นเช่นนี้มาหลายปีแล้ว… จนข้า… คุ้นเคยกับพวกมันแล้ว…”

เมื่อได้ยินคำตอบของกู้เหนียนหยวน จ้าวอู่เจียงก็นึกถึงคำทำนายของท่านย่าจินฮวาแห่งสำนักหุ่นเชิดอเวจีขึ้นมาทันที ทำให้ดวงตาเขาทอประกายเคร่งเครียดมากขึ้น

“เหนียนหยวน ไม่ทราบว่าปราณกระบี่และไฟพวกนั้นในร่างท่านมาจากที่ใด?”

“มาจากการที่ที่ข้าฝึกฝนวิชาในสุสานกระบี่” กู้เหนียนหยวนตอบช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“บรรดาศิษย์พี่ที่สุสานกระบี่ต่างก็พากันบอกว่าข้ามีกระดูกที่แข็งแกร่ง ดังนั้นจึงแนะนำให้ข้าฝึกวิชาลับของสุสานกระบี่ นั่นเรียกว่าวิชากระบี่กายทิพย์ เป็นวิชาที่ใช้ร่างกายเป็นเตาหลอมในการสร้างปราณกระบี่ขึ้นมาโจมตีศัตรู ยิ่งฝึกฝนวิชานี้นานมากเท่าไหร่ ปราณกระบี่ก็ยิ่งสะสมมากขึ้นตามกาลเวลา”

“นอกจากจะใช้โจมตีผู้ที่มีขอบเขตสูงกว่าตนเองได้แล้ว ข้ายังสามารถใช้พลังเหล่านี้ช่วยเพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้แก่ผู้อื่น และช่วยทลายจุดคอขวดในการเลื่อนขอบเขตได้อีกด้วย แต่การจะทำเช่นนั้นได้ บุคคลทั้งสองต้องมีจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกัน และต้องหลอมรวมพลังหยินหยางเข้าด้วยกันเสียก่อน…”

นี่มันไม่ต่างอะไรจากการตัดชุดแต่งงานให้ผู้อื่น*[1]เลยไม่ใช่หรือ เกรงว่าสิ่งที่กู้เหนียนหยวนร่ำเรียนมาจะไม่ใช่วิชาลับอะไรทั้งนั้น แต่เป็นวิถีแห่งการเป็นเตาหลอม… จ้าวอู่เจียงหรี่ตาลงเล็กน้อย นึกถึงคำพูดของหญิงชราขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าจำเป็นต้องให้บุคคลทั้งสองมีจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่หลังจากที่หลอมรวมพลังหยินหยางเข้าด้วยกันแล้ว ฝ่ายหนึ่งก็จะทำหน้าที่เป็นเหมือนเตาหลอมกระบี่ ช่วยหลอมรวมพลังให้อีกฝ่ายมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

เขารู้สึกได้ถึงแรงกอดรัดรอบเอวที่กระชับแน่นขึ้นและเสียงที่นุ่มนวลของนางก็เอื้อนเอ่ยอย่างมีเสน่ห์

“พี่จ้าว ช่วยรับตัวข้าด้วยเถอะ ข้าจะมอบให้ท่านทั้งตัวและหัวใจ… ดีหรือไม่?”

“ท่านจำสิ่งที่ท่านย่าจินฮวาพูดได้หรือไม่? ข้ารู้ว่าคนผู้นั้นต้องเป็นท่านอย่างแน่นอน…” พูดจบ นางก็ยิ่งกอดรัดจ้าวอู่เจียงแน่นขึ้นและแน่นขึ้น

ชายหนุ่มเองก็สวมกอดนางอย่างอ่อนโยน แต่เขาไม่ได้ทำอะไรรีบร้อน ตอนนี้กู้เหนียนหยวนกำลังอ่อนไหว เขาไม่อยากจะฉวยโอกาสจากนาง

บางทีหลังจากที่ได้หลอมรวมพลังหยินหยางเข้าด้วยกัน เมื่อจ้าวอู่เจียงดูดซับไฟเตาหลอมออกจากร่างของกู้เหนียนหยวนแล้ว นางก็อาจจะไม่ต้องทรมานอีก

แต่ชายหนุ่มก็เกิดสังหรอัปมงคลขึ้นในหัวใจ เขารู้สึกเหมือนมีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองมาจากในความมืด

นี่คือความรู้สึกที่เกิดขึ้นตั้งแต่เขาเดินทางไปที่เมืองหวังโจว

ในทันใดนั้น จ้าวอู่เจียงก็ได้ยินเสียงของการตีเหล็ก เช่นเดียวกับเสียงเด็กทารกร้องไห้ไม่รู้จบ

จิตใจพลันเกิดความปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่กระดูกสันหลัง ราวกับมีใครบางคนกำลังบดขยี้กระดูกทีละนิด…ทีละนิด จนความเจ็บปวดทบทวีไม่อาจควบคุมได้

“พี่จ้าว ท่านเป็นอะไรไป?” กู้เหนียนหยวนสังเกตเห็นบางสิ่งผิดปกติ ดวงตานางฉายแววกังวลและตื่นกลัว

จ้าวอู่เจียงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกอยู่ในมหาสมุทรเพลิง ได้ยินเสียงผู้คนกู่ร้องด้วยความร้อนใจดังขึ้นจากด้านนอกกองไฟ

“เร็วเข้า อู่เจียงทนไม่ไหวแล้ว!”

สุสานกระบี่

อาณาเขตของสุสานกระบี่นั้นกว้างใหญ่ไพศาล

กินพื้นที่เทือกเขาเขียวขจียาวไกลนับสิบลี้

นอกจากนี้ภายในป่าไผ่และต้นไม้เขียวชอุ่มที่ปรากฏขึ้นหนาแน่นทั่วเทือกเขา บนพื้นดินยังคงปรากฏกระบี่จำนวนมากถูกปักทิ้งเอาไว้เป็นอนุสรณ์สถาน ไม่ต่างจากเป็นหลุมฝังศพที่กินอาณาเขตยาวไกลสุดลูกหูลูกตา

มีทั้งกระบี่สีเขียวสดใหม่ มีทั้งกระบี่สีเหลืองอ่อนโบราณที่ถูกกัดกร่อนตามกาลเวลา

มีทั้งกระบี่ขนาดใหญ่ยักษ์ที่ปราศจากคม มีทั้งกระบี่ขนาดเล็กจิ๋วที่ซ่อนคมของพวกมันเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน

มีทั้งกระบี่ที่ยังสมบูรณ์ และก็มีทั้งกระบี่ที่แตกหัก บางส่วนหักครึ่ง บางส่วนเหลือเพียงด้ามจับ หรือบางส่วนก็เหลือเพียงปลายที่ถูกปักอยู่บนพื้นดินเท่านั้น

ทั่วทุกพื้นที่ของเทือกเขาแห่งนี้ล้วนมีกระบี่ถูกปักอยู่บนพื้นดิน กระเหล่านั้นสะท้อนประกายไม่ต่างจากดวงดาวบนฟากฟ้า

บทที่ 227 เตาหลอมกระบี่ 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า