บทที่ 234 ความมึนเมา
ยิ่งเจี๋ยสือจิ่วคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งตื่นตระหนกมากเท่านั้น ในใจรู้สึกสับสน และเวลาเดียวกันนี้ เขาก็รู้สึกภูมิใจ
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด เพราะสิ่งสำคัญก็คือเขาประทับใจในความสามารถของจ้าวอู่เจียงจนสาบานว่าจะตั้งใจทำงานปกป้องคนผู้นี้ด้วยชีวิต หากเป็นในอดีต เจี๋ยสือจิ่วคงไม่มีทางคิดว่าตนเองจะใจอ่อนเด็ดขาด ไม่ว่าจ้าวอู่เจียงจะน่าชื่นชมอย่างไร คนเดียวที่เขาจะจงรักภักดีด้วยชีวิตก็คือฮ่องเต้เท่านั้น
แต่บัดนี้ จ้าวอู่เจียงกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่เขาจะจงรักภักดีด้วยชีวิตเช่นกัน
มิหนำซ้ำ ในบทกวีเมื่อสักครู่ ใต้เท้าจ้าวยังเรียกหาพวกเขาเป็นสหายอีกด้วย… เจี๋ยสือจิ่วสูดหายใจลึก ๆ พึมพำออกมาว่า
“สหายเอ้อร์ซาน พวกเรามาดื่มกันต่อเถอะ…”
แต่ไหนแต่ไรมา ระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ด้อยกว่ามักจะมีระยะห่างเสมอ เช่นเดียวกับฮ่องเต้และขุนนาง เจ้านายกับข้ารับใช้ แต่วันนี้ จ้าวอู่เจียงกลับบอกว่าตัวเขากับเจี๋ยเอ้อร์ซานเป็นสหาย แล้วจะไม่ให้หัวใจของเขาสั่นไหวได้อย่างไร?
เขาจ้องมองไปที่เจี๋ยเอ้อร์ซานซึ่งนั่งอยู่ทางซ้ายมือของจ้าวอู่เจียง ทั้งสองลอบมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดสิ่งใดอยู่
เจี๋ยเอ้อร์ซานมีสีหน้าและแววตาอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น เขาเองก็ตกตะลึงในพรสวรรค์ของจ้าวอู่เจียงไม่น้อยไปกว่าผู้ใด และยิ่งรับรู้ถึงความร้ายกาจของคนผู้นี้มากกว่าเดิม
ชายชราประทับใจในความสุภาพเช่นเดียวกับความฉลาดเฉลียว ความเป็นมนุษย์ และความเป็นจอมแผนการของจ้าวอู่เจียง เขาสามารถทำให้โฉมงามมาอยู่ข้างกายได้ด้วยความสมัครใจ แม้แต่ผู้ติดตามก็ยอมสละชีวิตให้ได้โดยไม่ลังเล…
ไห่ไป๋ฉวนเจ้าสำนักสมุทรหลวงดื่มสุราไปหลายจอกอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความตกตะลึง ปรากฏว่าเจ้าสำนักไร้ขอบเขตไม่ได้อับอายผู้คนอย่างที่เขาคิด
มิหนำซ้ำ ยังสามารถร่ายบทกวีออกมาได้อย่างน่าประทับใจ
เรียกเสียงชื่นชมจากผู้คนได้รอบทิศทาง
ไห่ไป๋ฉวนไม่เคยพบเจอบุคคลที่มีพรสวรรค์มากถึงขนาดนี้มานานแล้ว เขาประทับใจในพรสวรรค์ของเจ้าสำนักจ้าว และชายชราก็ไม่เชื่อเลยว่าบุรุษหนุ่มชุดดำผู้อยู่ตรงหน้าคนนี้จะมีสติปัญญาต่ำต้อยเกินกว่าจะไม่รู้ว่าถ้อยคำที่เขาพูดออกไปก่อนหน้านี้นั้น เป็นการเหยียดหยามตนเองโดยตรง
ไห่ไป๋ฉวนจึงนับถือในความใจใหญ่ของจ้าวอู่เจียงเป็นอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้ ไห่ไป๋ฉวนแค่ต้องการแสดงอำนาจข่มให้บุรุษหนุ่มรู้ว่า ภายในนครหลวงจะมีผู้ใดใหญ่ไปกว่าสามสำนักใหญ่ไม่ได้เด็ดขาด สำนักอื่น ๆ สามารถเป็นได้เพียงผู้ติดตามของพวกเขาเท่านั้น!
แต่สุดท้าย ไห่ไป๋ฉวนก็ต้องพ่ายแพ้ให้แก่สติปัญญาอันเฉียบแหลมของชายหนุ่ม
เขาไม่เคยคิดเลยว่าชายหนุ่มผู้นี้จะมีพรสวรรค์ในด้านบทกวีถึงเพียงนี้
ไห่ไป๋ฉวนนึกถึงบทกวีของจ้าวอู่เจียงขึ้นมาอีกครั้ง แล้วก็ต้องยิ้มออกมาด้วยความขมขื่นใจ ยิ่งนึกถึงก่อนหน้านี้ที่ตนมีจิตใจร้ายกาจ ประสงค์ร้าย ยินดีในคราเคราะห์ของผู้อื่น บทกวีของจ้าวอู่เจียงก็ยิ่งสะท้อนทุกอย่างกลับมาหาตัวเขามากเท่านั้น
ไห่ไป๋ฉวนจึงได้แต่ดื่มสุราจอกแล้วจอกเล่า ก่อนจะชูจอกสุราขึ้นด้วยความตื้นตันใจ
“เจ้าสำนักจ้าว ข้าอยากจะดื่มให้แก่ท่าน…”
จ้าวอู่เจียงชูจอกสุราตอบกลับไปด้วยความสุขุมดังเดิม
ชายหนุ่มต้องการจะเอาชนะใจกลุ่มสำนักใต้ดินในนครหลวงให้ได้ภายในวันนี้ให้ได้
ฤดูหนาวกำลังมาเยือน ปีหน้าฟ้าใหม่ใกล้มาถึง จ้าวอู่เจียงจำเป็นต้องเตรียมการทุกอย่างให้พร้อมมากที่สุดสำหรับการรับมือเหตุไม่คาดฝันในอนาคต


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า