เข้าสู่ระบบผ่าน

ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า นิยาย บท 251

บทที่ 251 การฟ้องร้องที่อันตราย

ผ่านไปหนึ่งถ้วยชา การประชุมขุนนางรอบเช้าก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

ขุนนางทั้งหมดเดินเข้าสู่ท้องพระโรงอย่างเป็นระเบียบ พวกเขายืนแบ่งกันเป็นสองแถวตามลำดับขั้น

เมื่อฮ่องเต้เสด็จประทับบนบัลลังก์ เหล่าขุนนางก็พร้อมใจกันทยอยออกมารายงานเรื่องภารกิจของตนเองในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเก็บภาษี การควบคุมงานก่อสร้าง ความสัมพันธ์ทางการทูต ไปจนถึงการปกป้องแนวชายแดน และเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย

บรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด

ครึ่งชั่วยามให้หลัง หลินหรู่ไห่ก็ก้าวเดินออกมาจากแถวขุนนาง และยื่นจดหมายของตนออกมาข้างหน้า นี่เป็นจดหมายการแต่งตั้งเสนาบดีกรมคลังกับเสนาบดีกรมกลาโหม

“ข้าขอประกาศแต่งตั้งให้หลี่หยวนตงมือปราบจากเมืองเฉินโจวขึ้นดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมกลาโหมคนใหม่ เช่นเดียวกับแต่งตั้งให้หลิ่วว่านซานรักษาการเสนาบดีกรมคลังคนปัจจุบันให้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นเสนาบดีกรมคลังคนใหม่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”

เมื่อฮ่องเต้อ่านเนื้อหาในจดหมาย ก็เปลี่ยนพวกมันเป็นราชโองการโดยทันที

เมื่อได้ยินทั้งสองชื่อนั้น เหล่าขุนนางก็ส่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตื่นตระหนก

ไม่ว่าจะเป็นหลี่หยวนตงหรือหลิ่วว่านซาน ต่างก็ถือว่าเป็นรายชื่อที่น่าประหลาดใจทั้งคู่

เพราะทั้งสองคนนี้ไม่เคยเข้าร่วมฝ่ายบริหารมาก่อน

อีกทั้งพวกเขายังมีความตรงไปตรงมามากเกินไป ที่ผ่านจึงสร้างปัญหากับขุนนางระดับสูงไม่ใช่น้อย ทำให้พวกเขาไม่เคยได้เลื่อนตำแหน่งเลยสักครั้ง

จนเกิดการถกเถียงกันว่าผู้ใดจะได้นั่งตำแหน่งเสนาาบดีกรมคลังและกรมกลาโหมคนต่อไปในช่วงหลายวันมานี้

ดังนั้นบรรดาขุนนางจึงคิดไม่ถึงเลยว่า สุดท้ายฮ่องเต้จะเลือกผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเสนาบดีคนใหม่เรียบร้อยแล้ว

หลี่หยวนตงเป็นเพียงขุนนางชั้นผู้น้อย มีตำแหน่งมือปราบต่ำต้อยเสียจน…หากได้เข้าร่วมการประชุมในท้องพระโรง เขาก็คงต้องไปยืนต่อแถวอยู่นอกประตูเท่านั้น

และที่สำคัญก็คือเมื่อหกปีก่อน สมัยฮ่องเต้พระองค์ก่อนยังครองบัลลังก์ คนผู้นี้ก็คือแกนนำในการกล่าวหาว่าเซียวเหยาอ๋องมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม ทำให้ต้องถูกปลดออกจากศาลต้าหลี่และย้ายไปประจำการอยู่ในศาลเมืองเฉินโจวแทน

บัดนี้หลี่หยวนตงกำลังจะได้กลับสู่นครหลวงในรูปแบบนี้ เหล่าขุนนางน้อยใหญ่จึงสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไป

ส่วนเสนาบดีกรมคลังอย่างหลิ่วว่านซาน แม้ว่าจะไม่เคยมีข้อขัดแย้งกับใครในขั้นร้ายแรง แต่ก็ถือว่าเขาได้รับการเลื่อนขั้นอย่างก้าวกระโดดมากเกินไปจริง ๆ การที่หลี่หยวนตงได้แต่งตั้งขึ้นดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมกลาโหมนั้น ยังถือว่าเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ เพราะถึงอย่างไรหลี่หยวนตงก็เคยทำงานรับใช้ศาลต้าหลี่มาก่อน

แต่เมื่อหกเดือนที่แล้ว หลิ่วว่านซานยังเป็นเพียงขุนนางตัวเล็ก ๆ ในกรมคลังอยู่เลย การที่เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรักษาการเสนาบดีกรมคลังว่าน่าประหลาดใจแล้ว แต่การแต่งตั้งให้เป็นเสนาบดีกรมคลังอย่างเป็นทางการคือสิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่า

หากไม่มีแรงสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ยังจะมีผู้ใดกล้าเชื่อว่านี่เป็นความจริงอีก?

เสียงการพูดคุยดังมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับเสียงแสดงความยินดี

บรรดามิตรสหายของหลิ่วว่านซานต่างก็เข้ามาร่วมแสดงความยินดี หัวใจของเขารู้สึกเบิกบาน หลิ่วว่านซานเหลือบมองจ้าวอู่เจียง และพบว่าอีกฝ่ายยังคงมีสีหน้าเคร่งขรึมตามปกติ แต่หลิ่วว่านซานก็พอจะเดาได้ราง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

หลิ่วว่านซานไม่ซ่อนเร้นความยินดีของตน หลังจากที่ทุกคนถูกขัดจังหวะโดยขันทีหน้าบัลลังก์ หลิ่วว่านซานก็ก้าวเดินออกไปข้างหน้า คุกเข่าลงบนทำความเคารพ ก่อนจะยื่นมือออกไปข้างหน้ารับพระราชโองการมาจากฮ่องเต้ด้วยเนื้อตัวสั่นเทา

บทที่ 251 การฟ้องร้องที่อันตราย 1

บทที่ 251 การฟ้องร้องที่อันตราย 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า