บทที่ 266 ภาพอดีตที่คล้ายเกิดขึ้นเมื่อวาน (2)
ม่านหมอกขาวตรงหน้าจ้าวอู่เจียงสลายหายไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ชายหนุ่มพบว่าตนเองกำลังอยู่ในบ้านที่มีลักษณะแปลกประหลาด ภายในบ้านหลังนี้มีชั้นวางสมุนไพรอยู่มากมาย เช่นเดียวกับชั้นวางตำราที่มีตำรับยาสมุนไพรอยู่เต็มไปหมด
คนสามคนยืนอยู่รอบโต๊ะไม้ตัวหนึ่ง สายตาของทุกคนล้วนจ้องมองไปยังทารกน้อยจ้าวอู่เจียงที่กำลังแผดเสียงร้องไห้อยู่บนโต๊ะ
“นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการศึกษากู่พิษพวกนี้แล้ว”
อาสามจ้าวโส่วมีผมสีดำแซมขาวรำไร เขาขมวดคิ้วและวินิจฉัยร่างกายของจ้าวอู่เจียงในวัยทารก ตอนแรกสีหน้าก็ไม่เป็นกังวลสักเท่าไหร่ แต่ยิ่งตรวจอาการของทารกน้อยมากเพียงใด สีหน้าก็ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้นเท่านั้น
ทารกน้อยจ้าวอู่เจียงร้องไห้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยอยู่ในอ้อมแขนของจ้าวโส่ว ตอนนี้แม้แต่เสียงร้องแหลมเล็กของทารกน้อยก็เริ่มแหบแห้งขึ้นมาแล้ว
“กู่ตัวนี้กับอาอู่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว มันฝังตัวเข้าไปอยู่ในแผ่นหลังของอาอู่ และกำลังจะกลืนกินชีวิตของอาอู่ทีละน้อย” จ้าวโส่วถอนหายใจและขมวดคิ้วด้วยความหวาดวิตก
“แล้วอาสามช่วยถอนพิษไม่ได้หรือขอรับ?”
จ้าวชางหยวนมีสีหน้าไม่สู้ดี ส่วนเหยาเหยาก็ไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้เลย ยิ่งเห็นทารกน้อยส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด หัวใจของนางก็คล้ายกับมีคมมีดพุ่งเข้ามากรีดแทงซ้ำ ๆ
จ้าวโส่วยิ้มอย่างขมขื่นพลางส่ายหน้า
“ตัวกู่กับอาอู่รวมกันเป็นหนึ่งเดียวไปแล้ว หากอยากจะนำตัวกู่ออกมาก็จำเป็นต้องตัดกระดูกสันหลังของอาอู่ออกมาด้วย แล้วหากทำเช่นนั้น เขาจะมีชีวิตอยู่รอดได้อย่างไร?”
“เฮ้อ! ถ้าปล่อยไว้เช่นนี้ หากโชคดีเขาก็อาจจะมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้ แต่ก็ต้องมีกู่ตัวนี้อยู่ด้วยไปตลอดชีวิต และจะต้องพบกับความเจ็บปวดทรมานไปชั่วชีวิตด้วยเช่นกัน”
“อาสามขอรับ ข้าขอร้องท่าน ได้โปรดช่วยเหลืออาอู่ด้วยเถอะ ไม่ว่าต้องใช้วิธีใดก็ตาม มียาชนิดใดที่สามารถแลกเปลี่ยนชีวิตกันได้หรือไม่? ข้ายินดีแลกชีวิตของข้าให้กับอาอู่…” จ้าวชางหยวนกำหมัดแน่น ก่อนจะเอื้อมมือออกไปจับแขนของจ้าวโส่วอบ่างขอร้องอ้อนวอน
จ้าวโส่วถอนหายใจ
“ข้าจะไปที่หุบเขาเหยาหวัง บางทีพี่ซุนอาจจะมีหนทาง ส่วนพวกเจ้าก็อยู่ที่นี่และดูแลอาอู่ไปก่อนสักสองวันก็แล้วกัน”
“ข้าจะไปกับท่านด้วย อาสาม” จ้าวชางหยวนกล่าว
เหยาเหยาร้องไห้มานาน ทำให้ตอนนี้ดวงตาของนางบวมแดงขึ้นมาเล็กน้อย
“ข้าเองก็จะไปด้วยเช่นกันเจ้าค่ะ”
ตอนแรกจ้าวโส่วก็พยักหน้า แต่แล้วเขาก็ส่ายหน้า
“นี่ไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะเดินทาง”
ทันใดนั้นภาพทั้งหมดก็สลายหายไป ดวงตาของจ้าวอู่เจียงสั่นไหว แน่นอนว่าในใจเขามีวิธีช่วยชีวิตทารกน้อย แต่ชายหนุ่มก็รู้ดี นี่เป็นความทรงจำของตน ไม่ใช่โลกแห่งความจริง
อย่างไรทารกน้อยคนนั้นได้จะรับการช่วยชีวิตในที่สุด เพราะเขาได้เติบโตขึ้นมาเป็นจ้าวอู่เจียงอย่างทุกวันนี้
ทันใดนั้นหมอกขาวก็เริ่มเกิดการเคลื่อนไหว หมอกที่อยู่ใต้เท้าของจ้าวอู่เจียงสลายหายไป แล้วร่างของเขาก็ค่อย ๆ จมลงไปด้านล่างอย่างต่อเนื่อง
ในหูได้ยินเสียงสายลม ส่วนด้านล่างเป็นความว่างเปล่าที่กว้างใหญ่ไพศาล


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า