บทที่ 267 ภาพอดีตที่คล้ายเกิดขึ้นเมื่อวาน (3)
เมื่อทารกน้อยจ้าวอู่เจียงมีเข็มเงินปักอยู่บนแผ่นหลังครบเก้าเล่ม จ้าวโส่วก็นำมีดออกมาเล่มหนึ่ง ดวงตาของเขาสั่นไหวไม่น้อย ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าลึก ๆ
“ชางหยวน เร่งมือเข้าเถอะ”
จ้าวชางหยวนพยักหน้าพร้อมนำกระบี่ออกมาจากกล่องไม้ ก่อนจะวางกระบี่ลงบนเตาไฟที่อยู่เหนือหลุมกลางกระท่อมไม้
เพียงเสี้ยวอึดใจต่อมา เสียงของการตีเหล็กก็ดังขึ้น
และสะเก็ดไฟก็กระเด็นกระจายออกไปอย่างไร้ทิศทาง
จ้าวอู่เจียงรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ตอนนี้เขายืนอยู่ในม่านหมอกพลางเฝ้าจ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า พลางเขาก็เอื้อมมือไปสัมผัสกับแผ่นหลังและกระดูกสันหลังของตนเองโดยไม่รู้ตัว
จ้าวโส่วนำมีดในมือกรีดเปิดแผ่นหลังของทารกน้อยจ้าวอู่เจียง กรีดลึกพอ จนกระทั่งเห็นกระดูกสันหลัง
เพียงแต่ว่ากระดูกสันหลังของทารกน้อยไม่ได้เป็นสีขาวอีกแล้ว บัดนี้กระดูกสันหลังกลายเป็นสีดำที่ชุ่มเลือดและสั่นไหวเล็กน้อย
ทารกน้อยส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดและทรมานอย่างแสนสาหัส
“เจ้าปีศาจนรก!” จ้าวโส่วกัดฟันกรอดด้วยความเคียดแค้น เขาใช้การฝังเข็มปิดผนึกกู่พิษในตัวทารกน้อยเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้จ้าวโส่วจึงใช้มีดในมือตัดกระดูกสันหลังออกมาจากร่างของทารก และในกระดูกสันหลังที่ถูกตัดออกมาชิ้นนั้นก็มีกู่พิษแห่งโหลวหลานแฝงตัวอยู่ ก่อนที่จ้าวโส่วจะจัดการโยนมันทิ้งไปด้านข้าง…
หลังจากนั้นจ้าวโส่วก็ต้องสูดหายใจเข้าลึก ๆ อีกหลายครั้ง พลันร่างกายของเขาก็ซวนเซถอยหลังไปหลายก้าว
เมื่อกระดูกสันหลังถูกตัดออกไป ทารกน้อยจ้าวอู่เจียงก็เงียบเสียงลงทันที ราวกับหลับใหลอย่างไรอย่างนั้น
“ชางหยวน” ริมฝีปากของจ้าวโส่วสั่นระริก เหยาเหยายังคงร้องไห้อยู่ตลอดเวลาด้วยความทุกข์ทรมานใจอย่างแสนสาหัส
กระบี่ที่ได้รับการตีขึ้นรูปใหม่ถูกนำไปแช่ในอ่างน้ำ หมอกควันสีเขียวลอยโขมงขึ้นมา หลังจากนั้นกระบี่เหล็กร้อนสีแดงก็กลับกลายเป็นสีดำในพริบตา
จ้าวโส่วรับโลหะวิเศษชิ้นนั้นมา พลางใส่ลงไปแทนที่กระดูกสันหลังในร่างทารกน้อย
ทารกน้อยจ้าวอู่เจียงที่เคยส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดมาอย่างยาวนาน บัดนี้ยังคงเงียบงันและไร้การเคลื่อนไหวใด ๆ
จ้าวอู่เจียงผู้ยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดตัวสั่นระริก ชายหนุ่มคุกเข่าลงในม่านหมอกขาว เหงื่อออกท่วมตัว ความเจ็บปวดที่กระดูกสันหลังทวีความรุนแรงมากกว่าเดิมหลายร้อยเท่า
เม็ดเหงื่อเย็นเฉียบที่ผุดขึ้นมาบนหน้าผากไหลเข้ามาในดวงตาของจ้าวอู่เจียง จนเกิดเป็นความเจ็บปวดคล้ายกับมีเข็มแหลมนับพันทิ่มแทงดวงตา ชายหนุ่มพยายามเบิกตามองเหตุการณ์ที่อยู่เบื้องหน้า แต่น้ำตาที่ไหลซึมออกมาก็ทำให้ทุกอย่างพร่ามัว
ม่านหมอกเริ่มก่อตัวหนาแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ จ้าวอู่เจียงอ้าปากหอบหายใจ ความเจ็บปวดนี้ดูเหมือนจะคงอยู่ตลอดกาล
บางทีนี่อาจจะเป็นความเจ็บปวดที่จ้าวอู่เจียงเก็บสะสมมาตลอดระยะเวลาอันยาวนาน นับตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นทารกจนถึงปัจจุบันนี้ก็เป็นได้
หูของเขาได้ยินเสียงผู้คนพูดคุยกันวุ่นวายและสับสน ราวกับว่าสรรพสิ่งทั้งหมดดังขึ้นพร้อม ๆ กัน
“จ้าวชางหยวน เจ้าแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ แต่คิดว่าจะช่วยชีวิตบุตรชายได้ด้วยคำขอโทษอย่างนั้นหรือ?”
“บุตรชายของเจ้า จ้าวอู่เจียงจะต้องกลายเป็นหนึ่งในสิบสามยอดฝีมือแห่งสุสานกระบี่ และเขาจะต้องเป็นทาสรับใช้ที่นี่ตลอดไป!”
“ศิษย์พี่หลี่ พวกเราปล่อยศิษย์พี่จ้าวไม่ดีหรือ… สุสานกระบี่…”
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า