บทที่ 276 บุรุษในความมืด หลวงจีนใต้แสงจันทร์ (1)
เที่ยงคืน
จ้าวอู่เจียงย่องออกมาเปิดประตู
สายฝนหยุดโปรยปรายลงมาแล้ว ท้องฟ้ายามราตรีปราศจากเมฆครึ้ม
จันทร์เต็มดวงลอยสูงและส่องแสงสว่างลงมายังอารามหลานรั่ว
หลวงจีนจำวัดกันหมดแล้ว ทว่ายังคงมีธูปเทียนถูกจุดทิ้งไว้ในหอสวดมนต์
จ้าวอู่เจียงก้าวผ่านเฉลียงทางเดิน ย่องเข้าสู่ใจกลางอารามหลานรั่ว เขาเงยหน้ามองต้นไม้โบราณสูงใหญ่ จากนั้นก็มองรอบตัว เมื่อพบว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติก็ดีดตัวขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่นั่น เท้าแตะลงไปตามเส้นเถาวัลย์ มุ่งหน้าตรงไปยังหอเก็บคัมภีร์
ภายใต้แสงจันทร์ อารามเงียบสงบ ณ อีกฝั่งหนึ่งของต้นไม้ใหญ่ หลวงจีนชรานั่งอยู่ในความเงียบ สองมือพนม ส่งเสียงขับขานบทสวดออกมาแผ่วเบา
…
“ศิษย์น้อง เจ้าหลับแล้วหรือ? พอดีข้าเพิ่งนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้” หลี่เซวียนยกตะเกียงในมือข้างหนึ่งขึ้นสูง ส่วนมืออีกข้างเคาะลงไปบนประตูห้องพักของหยางเมียวเจิ้นกับเว่ยชิงหลิง ก่อนจะรอคอยในความเงียบ ใบหน้ายิ้มแย้มอบอุ่น
ผ่านไปพักใหญ่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ จากในห้อง หลี่เซวียนไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปหน้าตาเฉย
ภายในห้องมืดมิด เมื่อแสงจากตะเกียงสาดส่องเข้าไปก็เห็นหยางเมียวเจิ้นกับเว่ยชิงหลิงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง และดาบไม้ก็ถูกวางทิ้งไว้อยู่ข้างเตียง
หลี่เซวียนหันกลับมาปิดประตู วางตะเกียงลงบนโต๊ะ แม่ชีน้อยทั้งสองนางหลับสนิทด้วยฤทธิ์ของยานอนหลับที่เขาใส่เอาไว้ในน้ำชา
เดิมทีนี่เป็นยานอนหลับที่จะช่วยทำให้ผู้คนหลับสนิทเพื่อจะได้ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น แต่บัดนี้มันกลับถูกใช้ด้วยจุดประสงค์อื่น
แสงตะเกียงสาดส่องในความมืดสลัว หลี่เซวียนย่างเท้าก้าวเข้าไปพร้อมกับยิ้มอบอุ่น “ศิษย์น้อง อากาศยามราตรีหนาวเหน็บ พวกเจ้าระวังจะจับไข้เอาได้”
เขาเลิกผ้าห่มขึ้น จ้องมองเรือนร่างอันงดงามของแม่ชีน้อยทั้งสองที่อยู่ในชุดนอนบางเบา
ใบหน้าของหยางเมียวเจิ้นที่ปกติมีแต่ความเย็นชา บัดนี้ปรากฏความงดงามอย่างเป็นธรรมชาติ และผมอันยุ่งเหยิงก็ยิ่งทำให้นางมีเสน่ห์มากขึ้น
หลี่เซวียนแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ดวงตาเป็นประกายสีม่วงแวววาว ไฟแห่งราคะลุกโชนอย่างไม่คิดปิดบัง
สำนักศรัทธาราษฎรมีแนวทางการสอนให้สำรวจและทำความเข้าใจเจ็ดอารมณ์หกความปรารถนาอย่างลึกซึ้ง และด้วยความงดงามของหยางเมียวเจิ้น การที่นางฝึกฝนตามหลักคำสอนของสำนักศรัทธาราษฎร จึงทำให้นางมีรัศมีพิเศษเฉพาะตัวแผ่ออกมาตลอดเวลา
มันเป็นรัศมีที่ทำให้ผู้คนอยากจะเข้าใกล้ และสามารถปลุกไฟราคะขึ้นมาได้โดยที่นางไม่ต้องใช้ความพยายามใด ๆ เลย
ขอเพียงได้จ้องมองใบหน้างดงามของหยางเมียวเจิ้นเท่านั้น
ขณะนี้บริเวณหน้าอกของชุดนอนหยางเมียวเจิ้นกำลังพองนูนจนแทบจะระเบิดออก หากนางตื่นขึ้นมาในยามนี้ และก้มมองลงไปด้านล่าง หญิงสาวคงจะไม่สามารถมองเห็นปลายเท้าของตนเองได้แน่
เพราะสิ่งที่นางจะมองเห็นมีเพียงสองภูเขาขนาดมหึมาของตนเองเท่านั้น
หยางเมียวเจิ้นมีช่วงเอวโค้งเว้าอย่างสมบูรณ์ ทำให้ชุดนอนดูรัดตึงมากกว่าที่ควรจะเป็น ไม่สามารถซ่อนเร้นความงดงามในเรือนร่างของนางได้อีก
หลี่เซวียนไล่สายตามองเรือนร่างเย้ายวนตรงหน้าอย่างช้า ๆ เขาหมายจะจัดการปลุกไฟราคะให้แก่หยางเมียวเจิ้นเป็นคนแรก จากนั้นค่อยไปจัดการปลุกไฟราคะให้แก่เว่ยชิงหลิง



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า