บทที่ 329 เติบโตเป็นพญามังกร
บนภูเขา สายลมโชยพัด
จ้าวอู่เจียงกับหยางเมียวเจิ้นเดินไปตามเส้นทางที่เชื่อมต่อกันระหว่างยอดเขา ยอดเขางดงามตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางกลุ่มเมฆ ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับกำลังเดินอยู่กลางดินแดนแห่งห้วงฝัน
เมื่อเข้าร่วมพิธีสาบานตนเป็นคู่รักเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาหาฤกษ์ยามสำหรับจัดพิธีแต่งงานต่อไป
บรรดาผู้อาวุโสในสำนักร่วมกันคำนวณหาฤกษ์งามยามดี แต่ก็พบว่าในช่วงนี้ยังไม่มีฤกษ์เหมาะสมให้ทั้งสองคนได้จัดพิธีไปจนถึงสิ้นปี
หมายความว่าพิธีแต่งงานต้องหาฤกษ์ยามใหม่ในปีหน้า
ชายเสื้อคลุมสีดำของจ้าวอู่เจียงปลิวไสวไปตามสายลม ชายหนุ่มวางมือลงบนเส้นเชือกที่ขึงเป็นราวกั้นทางเดิน ก่อนจะก้มมองลงไปยังหุบเขาที่อยู่เบื้องล่าง ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“มีอะไรหรือ?” หยางเมียวเจิ้นรวบเส้นผมไปไว้ทางด้านหลัง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นสูง
จ้าวอู่เจียงส่ายหน้าช้า ๆ ก่อนจะนั่งลงบนทางเดิน เขายิ้มออกมาเล็กน้อย
“แค่คิดอะไรบางอย่างน่ะ”
…
“กองทัพของพวกคนเถื่อนทางแดนเหนือยกพลบุกโจมตีเมืองจูเป่ยแล้วพ่ะย่ะค่ะ และส่วนใหญ่เป็นการโจมตีเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของพวกเรา” เสนาบดีกรมกลาโหมคนใหม่รายงานสถานการณ์ทางเขตชายแดนของต้าเซี่ยด้วยความเคารพ
ณ ห้องอ่านตำรา เซวียนหยวนจิ้งนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้มังกรตัวใหญ่ ด้วยใบหน้าสงบสุขุม พร้อมกำลังอ่านม้วนรายงานในมือ
เบื้องหน้าโต๊ะไม้ในขณะนี้มีขุนนางใหญ่สี่ท่านยืนอยู่ ประกอบไปด้วย หลิวเจ๋อ ผู้ดำรงตำแหน่งพระราชเลขาฝ่ายขวา ตู๋กูอี้เหอ ผู้ดำรงตำแหน่งขุนนางมหาดเล็ก หลินหรู่ไห่ เสนาบดีกรมมหาดไทย และหลี่หยวนตง ผู้เป็นเสนาบดีกรมกลาโหมคนใหม่
ช่วงหลังมานี้ พื้นที่ทางเขตชายแดนของต้าเซี่ยต้องรับมือกับการโจมตีเป็นระยะ แม้จะไม่ได้รับความเสียหายใหญ่หลวงหรือเกิดความโกลาหลขึ้นแต่อย่างใด แต่ทุกคนก็รู้ดีว่านี่คือเค้าลางของการเริ่มต้นสงคราม และนี่คือการทดสอบความแข็งแกร่งของกองทัพแห่งต้าเซี่ย
“แม่ทัพเซียวหยวนซานส่งข่าวมาว่า ทางแคว้นหนานเจียงได้เปิดฉากโจมตีด้วยสัตว์ร้ายจำนวนมากแล้ว สัตว์ร้ายเหล่านี้ล้วนแต่มีความป่าเถื่อนโดยสัญชาตญาณ พวกมันต้องถูกควบคุมโดยหนอนผีสางเป็นแน่”
“ส่วนสถานการณ์ทางชายแดนตะวันออก กองทัพของเราส่งข่าวรายงานมาว่าชนกลุ่มน้อยทั้งหลายในโพ้นทะเลเริ่มรวมตัวกันและเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว คล้ายกับว่าพวกเขาพร้อมจะข้ามทะเลมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า