บทที่ 34 ฟ้าครามสิ้นแล้ว ฟ้าเหลืองขึ้นแทน
จ้าวอู่เจียงหยิบเบี้ยทองคำขึ้นมายัดใส่มือให้แก่เหล่าขันทีผู้เป็นคนยกหีบ เหล่าขันทีล้วนได้รับค่าจ้างเป็นเงินคนละสามตำลึงทอง*[1]
จ้าวอู่เจียงยิ้มออกมาเล็กน้อย รอยยิ้มของเขาทำให้ผู้คนรู้สึกอบอุ่นหัวใจ
“ขอบคุณสำหรับการทำงานหนัก”
ตุบ!
บรรดาขันทีผู้เป็นคนยกหีบรีบคุกเข่าลงเนื้อตัวสั่นเทา พวกเขาแค่ยกของมาตามหน้าที่ แต่กลับได้รับรางวัลอย่างงาม นี่คือสิ่งที่ขันทีน้อยเหล่านี้ไม่เคยกล้าคิดฝัน พวกเขาจึงทำได้เพียงประสานมือคำนับจ้าวอู่เจียงด้วยความเคารพหมดหัวใจ
“ขอบคุณใต้เท้าจ้าวขอรับ! ขอบคุณใต้เท้าจ้าว!”
“ลุกขึ้นเถอะ ถ้าพวกเจ้าทำงานให้ข้า เงินเหล่านี้ก็ถือเป็นของเล็กน้อยยิ่ง”
จ้าวอู่เจียงพูดออกมาด้วยความเยือกเย็น เขาไม่ได้พูดกับขันทีเหล่านี้เท่านั้น แต่ชายหนุ่มตั้งใจพูดกับทุกคนที่รวมตัวกันอยู่ ณ ที่แห่งนี้อีกด้วย
เหล่านางกำนัลและขันทีที่ยืนอยู่โดยรอบต่างก็รู้สึกอิจฉาริษยาขันทีผู้ยกหีบเป็นอย่างยิ่ง แต่หลังจากได้รับฟังคำพูดของจ้าวอู่เจียง แววตาของทุกคนก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความคาดหวังที่จะได้ทำงานรับใช้คนผู้นี้ในอนาคต
“ใต้เท้าจ้าว ท่านอย่าลืมของขวัญจากนายหญิงของข้านะเจ้าคะ” ชิงเอ๋อร์เขย่าแขนจ้าวอู่เจียง ขยิบตาให้ด้วยท่าทางมากเสน่ห์ เป็นสัญญาณบอกให้เขาอย่าลืมเลือนนายหญิงของตน
ขันทีหนุ่มบีบเอวของนางด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ข้าขอตัวกลับก่อนนะเจ้าคะ อย่าลืมนะเจ้าคะ” ชิงเอ๋อร์พูดออกมาด้วยความแง่งอน
จ้าวอู่เจียงพยักหน้า หลังจากนั้นอวี้เอ๋อร์ก็ขอตัวกลับบ้าง และก่อนกลับนางก็ยังไม่ลืมกระซิบข้างหูแผ่วเบา
“เมื่ออวี้เอ๋อร์มีเวลาว่าง อวี้เอ๋อร์จะมาร่วมมื้ออาหารกับท่าน”
เยี่ยนเอ๋อร์เป็นเพียงคนเดียวที่ยังยืนอยู่ที่เดิม ดวงตาหวานหยดย้อยจ้องมองจ้าวอู่เจียงด้วยความเคารพสูงสุด
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แม่นางเยี่ยนเอ๋อร์ เจ้าก็มาส่งมอบของขวัญเหมือนกันสินะ” จ้าวอู่เจียงจับมือนางหน้าตาเฉย
สัมผัสจากมือของขันทีหนุ่มทำให้ใบหน้างดงามของเยี่ยนเอ๋อร์กลายเป็นสีแดงระเรื่อขึ้นมาทันที แต่หลังจากถูกจับมือ นางก็รีบยัดกล่องไม้ประทับตราประจำตัวของนายหญิงใส่มือเขา และชักมือกลับมาด้วยความรวดเร็ว
“หากมีโอกาสในอนาคต พวกเรามาพบเจอกันอีกเถอะ ฝากแม่นางกลับไปบอกนายหญิงของท่านให้ข้าที ว่าข้าจะไม่มีทางลืมบุญคุณผู้ใดเป็นอันขาด”
มือใหญ่ของจ้าวอู่เจียงลูบแผ่นหลังเยี่ยนเอ๋อร์ต่ำลงไปจนเกือบจะถึงบั้นท้ายงอนงาม แต่กลับหยุดมือกะทันหัน และผลักให้นางออกเดิน
เยี่ยนเอ๋อร์เหลียวมองกลับมา ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เปลี่ยนใจวิ่งหนีไปในที่สุด
หลังจากนางกำนัลชื่อดังทั้งสามนางกลับไปแล้ว จ้าวอู่เจียงก็ได้จัดการปิดหีบที่บรรจุทองคำ เงิน หยก และผ้าไหมผ้าแพรให้เรียบร้อย ก่อนจะใช้หีบใบหนึ่งนั่งแทนเก้าอี้ กวาดสายตามองผู้คนด้วยความกระตือรือร้น พูดพลางถูนิ้วมือยิ้ม ๆ
“บัดนี้ข้าจ้าวอู่เจียงได้กลายเป็นหัวหน้าขันทีคนใหม่ ข้าเป็นผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการควบคุมขันทีแห่งวังหลัง นับจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าพวกเจ้าได้ยินอะไรแปลก ๆ หรือพบเห็นคนแปลกหน้า ให้รีบมารายงานข้าทันที และทุกครั้งที่มารายงาน ข้าก็จะมีรางวัลมอบให้เจ้า”
“ใต้เท้าจ้าวพูดจริงหรือเจ้าคะ?”
นางกำนัลผู้หนึ่งอุทานขึ้นมา
“ย่อมจริงแท้แน่นอน” จ้าวอู่เจียงยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ไม่สำคัญว่าพวกเจ้าจะเป็นคนของตำหนักใด ขอเพียงข้อมูลของเจ้ามีประโยชน์ เจ้าก็จะได้รับรางวัลอย่างงาม และข้าจะไม่มีทางเปิดเผยตัวตนแหล่งข่าวอย่างแน่นอน”
จ้าวอู่เจียงกวาดสายตามองกลุ่มผู้คนที่รวมตัวกันอยู่โดยรอบ รู้ดีว่านางกำนัลและขันทีเหล่านี้ทำงานรับใช้อยู่ในตำหนักใดบ้าง ซึ่งคนกลุ่มนี้จะกลายเป็นสายข่าวสำคัญให้แก่เขานับจากนี้ไป
ความหมายในประโยคสุดท้ายของชายหนุ่มก็คือ ตราบใดที่ทุกคนทำงานให้เขาอย่างมีประสิทธิภาพ จ้าวอู่เจียงก็จะไม่สนใจว่าใครทำงานรับใช้ผู้ใด และจะตบรางวัลให้อย่างงามอีกด้วย!
กลุ่มคนรับคำ หลายคนแสดงความตื่นเต้นออกมาอย่างชัดเจน
จ้าวอู่เจียงหันกลับมาเปิดหีบอีกใบหนึ่งที่อยู่ข้างกาย ด้านในอัดแน่นด้วยเบี้ยทองคำและเบี้ยเงินจำนวนมาก ชายหนุ่มเตะหีบใบนั้นเลื่อนออกมาข้างหน้า
“นี่คือหลักฐานยืนยัน ถ้าพวกเจ้าทำงานให้ข้า พวกเจ้าก็จะได้รับผลประโยชน์เช่นกัน นำทองคำและเงินเหล่านี้ไปแบ่งกันเถอะ”
บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบ ก่อนที่กลุ่มขันทีและนางกำนัลจะตั้งสติได้ พวกเขารีบวิ่งกรูเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณใต้เท้าจ้าวมากขอรับ”
“ขอบคุณใต้เท้าจ้าวมากเจ้าค่ะ!”
“ขอบคุณใต้เท้า ขอบคุณใต้เท้า”
จ้าวอู่เจียงยังคงนั่งเงียบ ๆ อยู่บนหีบใบเดิม หีบที่เต็มไปด้วยทองคำ เงิน และอัญมณี ดวงตาของเขามีความลึกล้ำดั่งมหาสมุทร
อาสาม ท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะขอรับ หลานผู้นี้จะต้องเปิดโปงความจริงออกมาอย่างแน่นอน ไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่มันฆ่าท่าน อย่าหวังเลยว่ามันจะหนีรอด!
…
ตำหนักหย่างซิน ห้องบรรทมของฮ่องเต้
เซวียนหยวนจิ้งนั่งประจำตำแหน่ง และใช้นิ้วมือเคาะโต๊ะส่งสัญญาณ
กึก กึก
เงาร่างสีฟ้าครามเคลื่อนผ่านวูบไหว ก่อนที่เจี๋ยสืออู่จะมาคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยความเคารพ
“ถวายบังคมฝ่าบาท!”
“เจี๋ยสืออู่หลังจากนี้ไปไม่ต้องรายงานการเคลื่อนไหวของจ้าวอู่เจียงแล้ว”
ฮ่องเต้มีสีหน้าขึงขัง ถูนิ้วมือของตนเองอยู่ตลอดยามใช้ความคิด



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า