บทที่ 364 ไม่เจอกันหลายวัน
เมื่อแน่ใจแล้วว่าสูตรการผสมดินปืนของจ้าวอู่เจียงสามารถใช้งานได้จริง ผู้ดูแลโรงหมอหลวงก็รีบสั่งให้คนขนย้ายกำมะถัน ดินประสิว ผงถ่าน ขี้เถ้าไม้ และส่วนผสมอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการใช้งานมาให้ที่ทำการของหกกรมใหญ่คอยดูแลต่อไป
ตอนนี้เยียนอันเสิ่นได้รับการรักษาแล้ว เขาไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งในใจยิ่งหลงใหลในอานุภาพการทำลายล้างของดินปืนมากกว่าเดิม
ส่วนเสนาบดีกรมกลาโหมที่สลบก็ฟื้นสติขึ้นมาหลังจากได้ทานยาชุดใหญ่
จ้าวอู่เจียงมาเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสอง คนของทั้งหกกรมใหญ่ต่างก็ต้อนรับเขาด้วยความเคารพเลื่อมใส และรีบพาชายหนุ่มเข้าไปหาเยียนอันเสิ่นอย่างรวดเร็ว
หลังเยียนอันเสิ่นฟังคำแนะนำของจ้าวอู่เจียง เขาก็รู้สึกไม่ต่างจากคนที่ถูกปลุกขึ้นมาจากความฝัน ก่อนที่หลังจากนั้นจะเพิ่มสายชนวนเข้าไปในหม้อดิน เพื่อทำการกำหนดระยะเวลาในการระเบิดของดินปืน
หลังทดลองการระเบิดอยู่หลายครั้ง เยียนอันเสิ่นก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น เขาเริ่มต้นจากการสั่งให้เจ้าหน้าที่ของกรมโยธาธิการก่อสร้างบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาตามการออกแบบของตนเอง
เยียนอันเสิ่นนำทุกคำพูดของจ้าวอู่เจียงมาถ่ายทอดถึงเจ้าหน้าที่ของกรมโยธาธิการ ทั้งยังกำชับไม่ให้ใช้ความร้อนในระหว่างการผสมดินปืน เช่นเดียวกับต้องระมัดระวังขั้นตอนในการขนส่งเป็นอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้คนของอีกห้ากรมใหญ่จึงได้เข้ามาช่วยงานกรมโยธาธิการ จัดการขนส่งดินปืนเหล่านั้นไปยังชายแดนใต้โดยเร็วที่สุด
จากนั้นเยียนอันเสิ่นก็ยังคงพัฒนาต่อ เขาวิ่งวุ่นทำการทดลองอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และเริ่มใช้น้ำมันศิลาร่วมกับการทำระเบิดตามคำแนะนำของจ้าวอู่เจียง ครั้นได้ประจักษ์ถึงประโยชน์ของน้ำมันศิลา เยียนอันเสิ่นก็ยิ่งเคารพเทิดทูนจ้าวอู่เจียงมากขึ้น เรียกได้ว่าแทบจะเทิดทูนให้เป็นเทพเซียนแล้ว…
เยียนอันเสิ่นเกิดมาเป็นบัณฑิตก็จริง แต่กลับมีความหลงใหลในงานก่อสร้างและชื่นชอบการประดิษฐ์สิ่งของหลากหลายชนิด ดังนั้นเขาจึงเปี่ยมล้นไปด้วยความคิดสร้างสรรค์อยู่เต็มหัวใจ เมื่อเริ่มต้นคิดถึงสิ่งหนึ่งสิ่งใดแล้วก็จะไม่สามารถหยุดยั้งได้
ดังนั้นจึงมีสิ่งประดิษฐ์มากมายถูกขนย้ายขึ้นเกวียนบรรทุกและขนส่งไปยังชายแดนใต้
จ้าวอู่เจียงปฏิเสธคำเชิญทานอาหารค่ำจากบรรดาขุนนางทั้งหลาย และเลือกเดินทางไปที่สำนักไร้ขอบเขตแทน
ในฐานะเจ้าสำนักไร้ขอบเขต จ้าวอู่เจียงไม่ได้รับผิดชอบสำนักมากนัก เรื่องราวน้อยใหญ่ของสำนักมีผู้อาวุโสทั้งหลายคอยดูแลให้ทั้งหมด กระนั้นเขาก็ยังกลับมาที่นี่เป็นระยะ
หลังได้ทราบว่าท่านเจ้าสำนักกลับมาแล้ว เหล่าผู้อาวุโสก็มีท่าทีตื่นเต้น พวกเขารีบทิ้งงานที่กำลังทำ และต่างก็พากันเข้ามาทำความเคารพชายหนุ่มภายในห้องอ่านตำรา
บัดนี้ผู้อาวุโสของสำนักไร้ขอบเขตไม่ได้มีเพียงซูเหลียงจิ่ว ซูซานชางและกู้เหนียนหยวนแค่สามคนอีกแล้ว ด้วยมีผู้อาวุโสที่รับตัวเข้ามาใหม่อีกสี่คน สามในสี่มีพลังอยู่ในขอบเขตยอดยุทธ์ ส่วนอีกคนก็มีพลังอยู่ในขอบเขตปรมาจารย์ขั้นสามระดับต้น
เมื่อจ้าวอู่เจียงต้อนรับเหล่าผู้อาวุโสพอเป็นพิธีเสร็จ กู้เหนียนหยวนก็ลากเขาเข้าไปในห้องทางด้านหลังด้วยความโกรธเคือง นางบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะปรึกษาหารือด้วย
ภายในห้องพัก
กู้เหนียนหยวนปิดประตูและหน้าต่างอย่างแน่นหนา นางมีสีหน้าเคร่งเครียด คล้ายกับว่ากำลังปิดบังเรื่องราวสำคัญบางประการ

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า