บทที่ 372 เขามาพร้อมกับหิมะ!
สายลมและหิมะยิ่งรุนแรงมากขึ้น
จ้าวอู่เจียงนั่งอยู่เงียบ ๆ ข้างเตาไฟ เปลวไฟสะท้อนประกายอยู่ในดวงตา ชายหนุ่มยังคงไม่พูดคำใดออกมา
จ้าวอู่เจียงไม่ทราบเลยว่า ‘เขา’ ที่ถูกเอ่ยถึงในจดหมายนั้นเป็นผู้ใด แต่เห็นได้ชัดว่าคงไม่ใช่คนธรรมดา
กระนั้นก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันที่จ้าวอู่เจียงจะปล่อยให้เซวียนหยวนจิ้งเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้!
อีกนานเพียงใดจึงจะถึงช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ…?
ห่างนับจากวันนี้ ก็คงเหลือราวหนึ่งร้อยวันเท่านั้นเอง!
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ หากไม่สามารถหาวิธีแก้คำสาปได้สำเร็จ เซวียนหยวนจิ้งก็จะมีชีวิตอยู่ในอีกเพียงหนึ่งร้อยวันข้างหน้า
บางทีเซวียนหยวนจิ้งอาจมีลางสังหรณ์บางอย่าง นางจึงได้มีท่าทางซึมเศร้าเช่นที่ผ่านมา
จ้าวอู่เจียงพอจะมีแผนการอยู่ในใจแล้ว แต่ก็เป็นเพียงแผนการที่เลือนลาง เขาจำเป็นต้องรู้ข้อมูลให้มากกว่านี้และยังมีอีกหลายคำถามที่ต้องการคำตอบ
จนถึงตอนนี้ ทำไมถึงไม่เคยมียอดฝีมือขอบเขตเทวะปรากฏตัวออกมาเลย? หรือถ้าจะกล่าวให้ถูกต้องก็คือ เพราะเหตุใดยอดฝีมือระดับขอบเขตเทวะจึงเลือกที่จะเก็บตัวเงียบ?
อีกทั้งสุสานกระบี่มีกลุ่มยอดฝีมืออยู่มากมาย แต่เหตุใดจึงไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผู้คน?
เซวียนหยวนจิ้งก็เป็นสายเลือดของตระกูลเซวียนหยวนเช่นกัน แล้วทำไมนางถึงมีอายุได้ไม่ถึงสี่สิบปี?
ทำไมเจ้าอาวาสของอารามหลานรั่วถึงทำเช่นนี้? แล้วบรรดาผู้คนที่คอยช่วยเหลือเขานั่นอีก? สิ่งที่คนกลุ่มนี้ต้องการจากเขาคืออะไร?
แล้วทำไมบรรดายอดฝีมือในยุทธจักรถึงไม่ยื่นมือเข้ามาขัดขวางสงคราม? เพียงเพราะว่ามีการทำข้อตกลงเอาไว้ล่วงหน้ารึ? แต่หน้าที่ของผู้กล้าคือการปกป้องคนบริสุทธิ์ไม่ใช่หรือ?
…
จ้าวอู่เจียงไม่เข้าใจสิ่งใดทั้งสิ้น ขณะนี้แคว้นต้าเซี่ยกำลังจะเผชิญหน้ากับสงครามครั้งใหญ่ ทุกสิ่งอย่างเป็นปัญหาไปหมด และมีแต่ต้องหาทางชะลอสงครามให้ได้เท่านั้น จ้าวอู่เจียงจึงจะมีเวลาไปหาคำตอบ
แต่ยิ่งได้รับรู้และเห็นมากเท่าไหร่ จ้าวอู่เจียงก็ยิ่งไม่เข้าใจมากเท่านั้น
สิ่งเดียวที่ชายหนุ่มรู้ก็คือ ต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้มากกว่านี้ ด้วยไม่ว่าโลกนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่ถ้าแข็งแกร่งมากพอ ก็จะสามารถยืนหยัดท้าสายลมและเกลียวคลื่นได้
จ้าวอู่เจียงถอนหายใจออกมาเล็กหน่อย ดื่มสุราร้อนอุ่นอีกครั้ง แต่ในทันใดนั้น เขาก็ขมวดคิ้วและจ้องมองไปนอกตำหนัก

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า