เข้าสู่ระบบผ่าน

ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า นิยาย บท 39

บทที่ 39 สัญญากู้ยืม

จ้าวอู่เจียงมีทักษะทางการแพทย์เป็นเลิศ แต่ไม่เป็นวิชายุทธ์ หลังจากต่อยหน้าอีกฝ่าย มือขวาของเขาก็เต็มไปด้วยเลือด มีทั้งเลือดของตนเองและเลือดของหลิ่วหมาง แต่ส่วนใหญ่แล้วเห็นจะเป็นเลือดของหลิ่วหมางมากกว่า

จ้าวอู่เจียงลดกำปั้นลงและยืดหลังตรง “ส่งเงินมา!”

“จะส่งมอบเดี๋ยวนี้ขอรับ” หลิ่วหมางนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นดิน ใบหน้าบวมปูด จมูกบวมช้ำ ล้วงตั๋วเงินออกมาจากในแขนเสื้อด้วยมืออันสั่นเทา ก่อนจะยื่นส่งให้แก่จ้าวอู่เจียงด้วยสองมืออย่างนอบน้อมยิ่ง

จ้าวอู่เจียงถูนิ้วมือของตน พลางพูดเบา ๆ ว่า

“ก่อนหน้านี้ ข้าได้ยินเจ้าบอกว่าผู้ใดกล้าต่อยหน้าเจ้าหนึ่งครั้ง เจ้าก็จะให้เงินหนึ่งร้อยตำลึง เมื่อสักครู่ข้าต่อยเจ้าไปทั้งหมด 13 หมัด รวมเป็นเงิน 1,300 ตำลึง! บัดนี้ มือของข้าได้รับบาดเจ็บ ข้าจึงต้องคิดค่าเสียหายอีก 2,758 ตำลึง รวมเป็นเงินทั้งหมด 4,058 ตำลึง! และเจ้าทำให้ข้าต้องเสียเวลามาบวกเลขอีก สรุปก็คือ เจ้าต้องจ่ายข้ามาทั้งหมดหนึ่งหมื่นตำลึง! เข้าใจหรือไม่?”

“หา?” หลิ่วหมางเงยหน้าขึ้นด้วยความไม่อยากเชื่อ แต่เมื่อเห็นดวงตามุ่งมั่นของอีกฝ่าย เขาก็ต้องพยักหน้าด้วยความร้อนรน

กลุ่มชาวบ้านตกอยู่ในความเงียบงันเพราะมัวแต่ตกตะลึง พวกเขากลืนน้ำลายพลางยกมือปาดเหงื่อ นี่คือครั้งแรกที่ได้พบเจอการข่มขู่รีดไถเงินที่ท่าเรืออย่างไร้ยางอายถึงเพียงนี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำธุรกิจค้าขายหรือธุรกิจขนส่ง ก็ยังไม่เคยมีผู้ใดหน้าด้านถึงขนาดนี้มาก่อน

จ้าวอู่เจียงรับตั๋วเงินไปดู พบว่ามันมีมูลค่าหนึ่งพันตำลึง จึงกล่าวต่อไปว่า

“เจ้ายังติดหนี้ข้าอยู่อีกเก้าพันตำลึง! นำกระดาษและพู่กันมาเดี๋ยวนี้!”

บุคคลปริศนาก้าวเดินออกมาจากกลุ่มชาวบ้าน และยื่นกระดาษกับพู่กันทันที ที่นี่คือย่านตะวันออกของเขตเจียงตู่ ทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมสำหรับการใช้งานเสมอ

หลิ่วหมางเขียนสัญญากู้ยืม ‘ด้วยความเต็มใจ’ หลังจากนั้นจึงประทับลายนิ้วมือของตนลงไปภายใต้การจ้องมองของจ้าวอู่เจียง

“ทีนี้เจ้าก็ไปได้แล้ว” จ้าวอู่เจียงหยิบสัญญากู้ยืมขึ้นมาผึ่งหมึกให้แห้ง

หลิ่วหมางติดหนี้จ้าวอู่เจียงอยู่ถึงเก้าพันตำลึง

หลิ่วหมางโกรธแค้นจนตัวสั่น อีกฝ่ายมีนามว่าจ้าวอู่เจียงใช่หรือไม่? เขาจะไม่ปล่อยให้คนผู้นี้ลอยนวลอย่างแน่นอน มันจะต้องตาย! ทว่าตอนนี้หลิ่วหมางได้แต่ก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองหน้าผู้ใด ในขณะที่ข้ารับใช้ทั้งสี่ช่วยกันประคองเขาเดินจากไปในสภาพน่าอเนจอนาถเป็นอย่างยิ่ง

จ้าวอู่เจียงพับสัญญากู้ยืมเก็บใส่ในแขนเสื้อ ก่อนจะเดินเข้าไปหาหลี่หยวนเจิ่งและส่งตั๋วเงินให้เขา

“ข้าขอซื้อกระบี่ของเจ้า”

หลี่หยวนเจิ่งยืนถือกระบี่ด้วยมืออันสั่นเทา เขาไม่กล้ารับตั๋วเงิน แต่พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“พี่ชาย ข้าน้อยต้องขอบคุณท่านมาก แต่หนึ่งพันตำลึงมันมากเกินไป ท่านรีบออกไปจากที่นี่เถอะ ตระกูลหลิ่วไม่ปล่อยท่านเอาไว้แน่”

“กระบี่คู่กายของหลี่จัว ย่อมมีราคามากกว่าหนึ่งพันตำลึง” จ้าวอู่เจียงพูดพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ

หลี่หยวนเจิ่งดวงตาสั่นไหว จ้องมองจ้าวอู่เจียงอย่างไม่อยากเชื่อ ไม่เข้าใจเลยว่าอีกฝ่ายรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาได้อย่างไร

จ้าวอู่เจียงยื่นตั๋วเงินไปตรงหน้าหลี่หยวนเจิ่งอีกครั้ง

“ลูกหลานสมควรนำศพบิดามารดาไปกลบฝัง บัดนี้เจ้าไม่มีเงิน หรืออยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก? รับเงินไปเถอะ”

ความขมขื่นปรากฏขึ้นในหัวใจของหลี่หยวนเจิ่ง เขายอมส่งมอบกระบี่ในมือ และรับตั๋วเงินจากอีกฝ่าย ก่อนจะประสานหมัดคำนับ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น

“ขอบคุณพี่ชาย ข้าน้อยจะไม่ลืมบุญคุณที่ท่านช่วยเหลือในครั้งนี้”

จ้าวอู่เจียงรับกระบี่ที่มีฝักสีเขียวมรกตมาถือ เขาชักกระบี่ออกจากฝัก เผยให้เห็นว่าคมกระบี่ก็เป็นสีเขียวมรกตเช่นกัน มันกำลังสะท้อนประกายกับแสงตะวันระยิบระยับ

ดูอำมหิตน่าเกรงขาม!

แม้จ้าวอู่เจียงจะไม่ค่อยรู้เรื่องวิชายุทธ์สักเท่าไหร่ แต่เขาก็สัมผัสได้ว่ากระบี่เล่มนี้มีจิตสังหารแรงกล้า เขาจึงรีบสอดมันกลับเข้าฝักอย่างเยือกเย็น

“กระบี่ดี”

บทที่ 39 สัญญากู้ยืม 1

บทที่ 39 สัญญากู้ยืม 2

บทที่ 39 สัญญากู้ยืม 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า