บทที่ 394 แมวและสุนัข
ท้องฟ้าและผืนดินกว้างใหญ่ จ้าวอู่เจียงไม่สุขหรือเศร้า เขานั่งอยู่บนม้านั่งอย่างเยือกเย็น ไม่ต่างจากยามนั่งชมงิ้วประจำหมู่บ้านครั้งยังเป็นเด็ก ในตอนนั้นเขาก็นั่งหน้าเวทีเช่นนี้ เฝ้ามองนักแสดงงิ้วบนเวทีร่ายรำ ขับร้องไปตามเรื่องราว
ยามนี้มือพระกาฬทั้งห้าปลดปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างแรงกล้า พลังกดดันของพวกเขาหนักหน่วง จ้าวอู่เจียงรู้ได้โดยทันทีว่า บุคคลทั้งห้าจะต้องมาจากสุสานกระบี่อย่างแน่นอน
จ้าวอู่เจียงไม่รู้ชื่อจริงของบุคคลทั้งห้า แต่เท่าที่ได้ยินบทสนทนาของคนกลุ่มนี้ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายดูถูกเหยียดหยามเขาเป็นอย่างยิ่ง
ชายหนุ่มได้ยินกลุ่มคนทั้งห้าจากสุสานกระบี่เรียกกันตามลำดับตัวเลขว่าอาซื่อ อาอู่ อาลิ่ว อาชี และอาปา จ้าวอู่เจียงยิ้มออกมาเล็กน้อย นี่นับเป็นชื่อที่เรียบง่ายคล้ายการตั้งชื่อให้แมวและสุนัขจริง ๆ
เมื่อแมวและสุนัขทั้งห้าหยุดยืนห่างจากเขาประมาณสามจั้ง พวกมันก็โต้เถียงกันว่าผู้ใดจะเป็นคนสังหารจ้าวอู่เจียงก่อน คล้ายกับว่าชายหนุ่มเป็นเพียงปลาที่ถูกจับมาวางพาดอยู่บนเขียง พร้อมให้เชือดทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้…
จ้าวอู่เจียงสัมผัสขวดน้ำเต้าที่ยังคงร้อนอุ่น แต่เกรงว่าสายลมและหิมะที่รุนแรงเช่นนี้ อีกไม่นานสุราก็คงเย็นชืดหมดแล้ว
ขณะเดียวกันเขาก็รับรู้ขอบเขตพลังของคนทั้งห้าแล้ว เนื่องจากอีกฝ่ายไม่มีเจตนาปิดบังความแข็งแกร่งแม้สักนิด หนำซ้ำพวกมันยังพยายามแสดงขอบเขตพลังของออกมา เพื่อประกาศให้คนที่อาจอยู่ในบริเวณนี้ทราบว่า
‘พวกเราชนชั้นปรมาจารย์มาฆ่าคน ผู้ใดไม่เกี่ยวข้องก็จงไสหัวไปให้พ้น!’
มือสังหารขอบเขตปรมาจารย์ขั้นสูงระดับเจ็ดจำนวนสี่คน และขอบเขตปรมาจารย์ขั้นสูงระดับแปดอีกหนึ่งคน ต้องการจะสังหารผู้อยู่ในขอบเขตปรมาจารย์ขั้นสูงระดับเก้าอย่างนั้นหรือ?
สิ่งสำคัญคือ ยอดฝีมือขอบเขตปรมาจารย์ขั้นสูงระดับเก้าผู้นี้ยังเป็นถึงผู้ครอบครองคัมภีร์ทองคำไร้พ่าย คัมภีร์ปราณไร้วิญญาณ และคัมภีร์มหาเทพดูดดาวอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นในร่างกายของเขามีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ฝังอยู่ถึงครึ่งหนึ่ง
นี่คงเป็นการต่อสู้ที่น่ารับชมมากเลยทีเดียว จ้าวอู่เจียงลูบมือไปบนขวดน้ำเต้า พลางจ้องมองแมวและสุนัขทั้งห้าตัวที่กำลังยืนโต้เถียงกันไม่หยุดยั้ง ในที่สุดเขาก็เปิดจุกขวดน้ำเต้า ค่อย ๆ เทสุราในขวดน้ำเต้าราดลงบนพื้นหิมะตรงหน้า
สุราค่อย ๆ ไหลซึมลงไป หิมะละลายในทันที หลังจากนั้นสุราก็จับตัวเป็นน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว
“วันนี้เป็นวันดี ได้เวลาถวายเครื่องเซ่นแล้ว” จ้าวอู่เจียงยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน หมุนมือกลับขึ้นมา และใช้จุกปิดขวดน้ำเต้ากลับคืนดังเดิม
มือพระกาฬทั้งห้าจากสุสานกระบี่หยุดโต้เถียงกันทันที พวกเขาจ้องมองจ้าวอู่เจียงด้วยความเกรี้ยวกราด ความหมายและคำพูดของจ้าวอู่เจียงเหมือนจะเป็นการบอกอย่างชัดว่า วันนี้พวกเขาทั้งหมดต้องตายตกตามกันไปที่นี่
ยิ่งไปกว่านั้น ขณธจ้าวอู่เจียงพูดถ้อยคำเหล่านั้นเหล่านั้นด้วยความจริงจัง น้ำเสียงคล้ายกับเป็นการสั่งสอน ทว่าบนใบหน้าก็ยังประดับด้วยรอยยิ้มอบอุ่นอ่อนโยน



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า