บทที่ 432 สายลับยี่สิบห้าคน
ค่ายถิงหัวโต่ว
ค่ายถิงหัวโต่วเป็นหนึ่งในค่ายทหารสำคัญประจำเมืองจูเป่ย เนื่องจากเป็นค่ายที่รับผิดชอบการขนส่งทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ อาหาร ไปจนถึงสัมภาระทุกชนิด
หลี่เอ้อร์อู่ เป็นคนเก่าแก่ของค่ายถิงหัวโต่ว เขาอยู่ในค่ายนี้มาเจ็ดถึงแปดปีแล้ว แม้จะขนส่งอย่างต่อเนื่อง แต่กลับทำงานผิดพลาดเพียงน้อยครั้งยิ่ง
ขณะนี้เขาเป็นรองผู้บัญชาการของค่ายถิงหัวโต่ว
ว่ากันว่าหลี่เอ้อร์อู่มีบ้านเกิดอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขาของเมืองหลิงหนาน ซึ่งอยู่ห่างไกลจากเมืองจูเป่ยหลายพันลี้
ตอนที่เข้าร่วมกองทัพแรก ๆ หลี่เอ้อร์อู่จะมีสำเนียงการพูดแตกต่างจากคนอื่น ๆ เสมอ เพราะพี่น้องทหารส่วนใหญ่ในกองทัพ ถ้าไม่ได้มาจากแดนตะวันตกเฉียงเหนือก็ต้องมาจากแดนตะวันออกเฉียงเหนือ พวกเขาจึงหยอกล้อสำเนียงท้องถิ่นเมืองหลิงหนานของหลี่เอ้อร์อู่กันอย่างสนุกสนาน เสียงของเขามีลักษณะแหลมเล็ก จนคล้ายกับเสียงพูดของสาวน้อยแสนเขินอายไปเสียอย่างนั้น
นับตั้งแต่นั้นมา หลี่เอ้อร์อู่ก็คล้ายกับเกิดเป็นปมในใจ ทำให้เขาไม่ค่อยพูดคุยกับผู้ใด เน้นทำงานหนักเสียมากกว่า
แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทราบว่าตัวตนที่แท้จริงของหลี่เอ้อร์อู่ว่าไม่ได้เป็นหลี่เอ้อร์อู่ และเขาก็ไม่ได้มาจากเมืองหลิงหนาน อย่าว่าแต่เป็นประชาชนของแคว้นต้าเซี่ยเลย
เขามาจากแคว้นหนานเจียง เป็นสายลับที่แคว้นหนานเจียงฝึกฝนมาหลายปี เขาต้องจ่ายเงินสินบนก้อนใหญ่ทีเดียวจึงสามารถลักลอบเข้ามาสู่เขตชายแดนใต้ของแคว้นต้าเซี่ยได้ กระทั่งเดินทางขึ้นมาอยู่ทางตอนเหนือของต้าเซี่ยได้สำเร็จ
เนื่องจากภาษาของชาวต้าเซี่ยไม่ได้มีเอกลักษณ์อันใด จึงทำให้เป็นเรื่องยากที่จะมีคนจับพิรุธได้ว่าหลี่เอ้อร์อู่เป็นชาวเผ่าหนานเจียง แต่ตอนที่เขากำลังเรียนภาษาต้าเซี่ยอยู่นั้น หลี่เอ้อร์อู่ก็ได้รู้ว่าตนเองพูดติดสำเนียงแผ่นดินเกิด จึงอาศัยสำเนียงของชาวเมืองหลิงหนาน กลบเกลื่อนร่องรอยความผิดปกติ
การพูดติดสำเนียงนั้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่เขาเป็นสายลับ จึงมักจะมีความระแวงและจำเป็นต้องระมัดระวังตัวมากกว่าผู้อื่น
หลี่เอ้อร์อู่กลัวว่าถ้ามีชาวเมืองหลิงหนานอยู่ในกองทัพด้วยละก็ ตัวตนของเขาจะต้องถูกเปิดโปงอย่างแน่นอนหากไม่ระมัดระวังมากพอ
ด้วยเหตุนี้เอง หลายปีที่ผ่านมาหลี่เอ้อร์อู่จึงเป็นคนเงียบขรึม ทำงานหนัก คอยเก็บข้อมูล และรอฟังคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาร่วมกับบรรดาสหายสายลับที่ซ่อนตัวอยู่ในกองทัพ เมื่อภารกิจเสร็จสิ้นลงเมื่อไหร่ พวกเขาก็จะได้กลับบ้านเกิดไปพร้อมเกียรติยศ
แต่ไม่นานหลังจากแดนเหนือเข้าสู่ฤดูหนาวประจำปี หลี่เอ้อร์อู่ก็ขาดการติดต่อกับผู้บังคับบัญชาของตนเอง เขาไม่ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้น หรือว่าตนจะถูกผู้บังคับบัญชาทอดทิ้งแล้ว?
แล้วแผนการที่เตรียมมานานหลายปีจะทำอย่างไรเล่า?


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า