บทที่ 479 คนในเรื่องราว
คนในเผ่าไม่กล้าขวางทางองค์หญิง จึงมาขวางนักรบผู้ยิ่งใหญ่ทาหนามู่ซัวแทน เพื่อสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น
ทาหนามู่ซัวไม่ต้องการอธิบายสิ่งใดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อองค์หญิงกับจ้าวอู่เจียงยังอยู่เบื้องหน้า ในเมื่อคนทั้งสองไม่สนใจสายตาของผู้คนทั้งหลาย มุ่งหน้าไปยังวิหารบรรพชนโดยไม่คิดจะอธิบาย
ทาหนามู่ซัวในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา เมื่อผู้เป็นนายไม่พูดอะไร เขาจะกล้าพูดเกินหน้าได้อย่างไร
กระนั้นฝูงชนก็มากขึ้นเรื่อย ๆ ครั้นมองไปที่อาถู่ปู้ ตอนนี้เขาถูกบังจนมิด แล้วคนเหล่านั้นก็เริ่มถามว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดองค์หญิงกลับมากับชายชาวต้าเซี่ย ทั้งยังจับมือถือแขนกัน? องค์หญิงไม่ได้ไปยังเผ่าจินจางหรอกหรือ?
ทาหนามู่ซัวอึดอัดใจมาก ด้วยชาวเผ่าอวี้จางที่กรูเข้ามาล้วนสนิทกับเขาทั้งสิ้น โดยเฉพาะเหล่านักรบด้วยกัน เขาล้วนรู้จักทั้งหมด
บางครั้งความคุ้นเคยมากเกินไปก็เป็นเรื่องยุ่งยาก เช่นเดียวกับตอนนี้
ทาหนามู่ซัวไม่อาจไล่ผู้คนที่ล้อมรอบอยู่ด้วยท่าทีเย็นชาได้
เขาจึงคอยเฝ้าดูจ้าวอู่เจียงกับกู่หลีเขอลี่เดินจากไป ระหว่างเดินห่างออกไปองค์หญิงก็เอนตัวใกล้ชิดจ้าวอู่เจียงเป็นครั้งคราว และบ่อยครั้งก็หัวเราะอย่างอ่อนหวาน
ทาหนามู่ซัวถอนหายใจ เมื่อเป็นเช่นนี้เผ่าอวี้จางย่อมต้องรู้ไม่ช้าก็เร็ว เขาเปิดเผยบางอย่างตอนนี้คงไม่เป็นไร อีกทั้งองค์หญิงกับจ้าวอู่เจียงต่างก็ไม่ได้ห้าม คงไม่เป็นไรจริง ๆ …กระมัง?
เมื่อคิดได้ดังนี้ ทาหนามู่ซัวก็กระแอมไอ เรียงร้อยเรื่องราวในหัวตามลำดับ
แล้วนักรบผู้ยิ่งใหญ่ก็เริ่มเล่า
“ทาหนามู่ซัว นักรบผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าอวี้จาง ผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดและดวงตาแหลมคมราวกับเหยี่ยวแห่งทุ่งหญ้า เขาพบว่ามีคนจากเผ่าจินจางแอบซุ่มรออยู่ด้านนอกเผ่าอวี้จาง คนเหล่านั้นทำทีเหมือนเฝ้ารออะไรบางอย่าง”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า