บทที่ 497 พายุหิมะ
จ้าวอู่เจียงไม่ได้เดินทางอย่างเร่งรีบเหมือนขามา เขานั่งอยู่บนหลังของเสี่ยวหง ชื่นชมทัศนียภาพสองข้างทางท่ามกลางสายลมและหิมะ
การเดินทางเข้าสู่เขตแดนของชาวเผ่าโหลวหลานครั้งนี้ จ้าวอู่เจียงมีโอกาสได้ชื่นชมสาวงามถึงสองคน
ไม่สิ ถ้าพูดให้ถูกต้องก็คือพวกนางได้มีโอกาสชื่นชมเขาต่างหาก
จ้าวอู่เจียงยึดถือหลักการเสียตัวได้ แต่ห้ามเกิดความหวั่นไหวเด็ดขาด แต่การเดินทางเที่ยวนี้ นอกจากเขาจะเสียตัวแล้ว จิตใจของเขายังเกิดความรู้สึกผูกพันกับพวกนางขึ้นมาอีกด้วย
ความจริง ความรักจากสตรีทั้งสองนางนั้นเป็นความรักที่บริสุทธิ์ลึกซึ้ง เขาก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร จ้าวอู่เจียงจึงทำได้เพียงยอมรับความรักจากพวกนางเอาไว้
และพลังในตัวเขาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
หลังจากฝึกวิชาสองผสานร่วมกับบุตรีแห่งสวรรค์หลินหลาง จ้าวอู่เจียงก็ได้บรรลุขอบเขตเทวะอย่างเป็นทางการ
จ้าวอู่เจียงไม่รู้เลยว่าพลังของขอบเขตเทวะนั้นเป็นอย่างไร เขารู้สึกเพียงแต่ว่าตนเองมีความแข็งแกร่งมากกว่าตอนอยู่ในขอบเขตปรมาจารย์ระดับสูงหลายร้อยล้านเท่า
ก่อนออกเดินทางจากมา เขาได้รับหยกชิ้นหนึ่งมาจากบุตรีแห่งสวรรค์หลินหลาง มันเป็นหยกที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและชัดเจน หลินหลางกำชับว่าเขาสมควรพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา
ความจริง หลินหลางมีความผูกพันกับหยกชิ้นนี้ นี่คือหยกที่เก็บความทรงจำของหลินหลางเอาไว้
ช่วงเวลาเดียวกันนั้น จ้าวอู่เจียงก็ยังได้รับแผ่นยันต์ที่เขียนโดยจางหลินต้าว หมอดูเทวดาผู้เป็นเจ้าสำนักศรัทธาราษฎร
จ้าวอู่เจียงต้องยอมรับเลยว่าแผ่นยันต์วิเศษที่เขียนโดยเจ้าสำนักศรัทธาราษฎรนั้น มีอาคมแรงกล้ามากกว่าแผ่นยันต์ที่เขาเขียนด้วยตนเองก่อนหน้านี้
จ้าวอู่เจียงเกิดความเข้าใจขึ้นมาทันทีว่า เขาต้องเดินทางไปที่สำนักศรัทธาราษฎรเพื่อหาตัวท่านเจ้าสำนัก เขาอยากรู้นักว่าเจ้าสำนักท่านนี้ต้องการจะทำอะไรกับเขา หรือมีอะไรอยากจะบอกเขาหรือไม่
เพราะดูเหมือนว่าเจ้าสำนักศรัทธาราษฎรจะมีความเกี่ยวข้องกับความวุ่นวายทั้งหมดนี้อย่างลึกซึ้งมากเกินไป
แม้แต่ตัวของจ้าวอู่เจียงก็ยังกลายเป็นเบี้ยของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว
แน่นอนว่าตามข้อมูลที่กู่ฮั่นผู้เป็นหัวหน้าเผ่าอวี้จางบอกออกมานั้น ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นการแลกเปลี่ยนกัน
จ้าวอู่เจียงจึงพยายามคาดเดาอยู่หลายอย่าง แต่เขาก็รู้ดีว่าการคาดเดาของตนเองอาจจะผิดก็ได้
บัดนี้เขายังมองไม่เห็นภาพรวมทั้งหมด หลายอย่างที่เขาได้รับทราบมายังไม่อาจระบุชัดได้ว่าเป็นเพียงการคาดเดาหรือเป็นความจริงกันแน่
เจ้าม้าเสี่ยวหงส่งเสียงฟืดฟาด บ่งบอกว่ากำลังหิว
จ้าวอู่เจียงถอนหายใจ ปลดห่อของสัมภาระลงจากแผ่นหลัง ก่อนจะนำหญ้าออกมาจำนวนหนึ่ง แล้วโยนไปข้างหน้าเสี่ยวหง
เสี่ยวหงก้มหัวลงกินหญ้า บนหัวของเจ้าม้ามีขนสีขาวจำนวนหนึ่งวางอยู่บนนั้นโดดเด่นเป็นสง่ากลางสายลม ปรากฏว่านี่เป็นขนของเจ้าหมาป่าหิมะเสี่ยวไป๋ที่แวะมาหาก่อนออกเดินทาง
เสี่ยวไป๋บอกว่ามันตั้งใจมอบขนเหล่านี้ให้พวกเขา เนื่องจากขนของหมาป่าเทพเจ้านั้นจะบรรจุพลังมงคลเอาไว้มาก
หลังจากเสี่ยวหงได้ยินเช่นนั้น มันก็ขอให้จ้าวอู่เจียงช่วยนำขนมาโปรยไว้บนหัว เพื่อจะได้รับพลังมงคลระหว่างการเดินทาง

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า