บทที่ 532 ช่วงเวลาที่รอคอยมาเนิ่นนาน
เมื่อจ้าวอู่เจียงออกจากจวนซิงชิงหยวนก็เป็นเวลาเกือบยามโหย่วแล้ว
ท้องฟ้ามืดสลัว
จ้าวอู่เจียงเดินผ่านประตูวังหลวง กลุ่มราชองครักษ์ต่างรีบก้มศีรษะทำความเคารพ พวกเขาไม่ได้พบเห็นขุนนางคนสนิทของฮ่องเต้ผู้มีนามว่าจ้าวอู่เจียงผู้นี้มานานทีเดียว
จ้าวอู่เจียงเดินเข้าไปในส่วนลึกของวังหลวง ใบหน้าประดับรอยยิ้มอบอุ่น เพียงไม่นานเขาก็มาถึงตำหนักหย่างซิน
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปด้านในตำหนักหย่างซิน ฝีเท้าของชายหนุ่มก็เร่งความเร็วขึ้น เขาเดินตรงไปยังห้องบรรทมของฮ่องเต้หญิง ครั้นผลักประตูเปิด ก็ได้พบว่าฮ่องเต้หญิงกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านจดหมายในมือ หน้านิ่วคิ้วขมวด
เมื่อฮ่องเต้เห็นหน้าจ้าวอู่เจียง นางก็ผุดลุกด้วยความประหลาดใจ หัวคิ้วกระตุกขึ้นเล็กน้อย สีหน้าของนางผ่อนคลายมากขึ้น ฮ่องเต้หญิงยิ้มทัก
“กลับมาแล้วหรือ?”
เรือนร่างผอมเพรียวกับน้ำเสียงของนาง ทุกอย่างทำให้หัวใจของจ้าวอู่เจียงสั่นไหว
เขารีบก้าวเดินไปข้างหน้า สวมกอดฮ่องเต้หญิงแนบแน่น ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
“ข้าคิดถึงท่าน”
ความตื่นตระหนกและความเขินอายปรากฏขึ้นบนสีหน้าของฮ่องเต้หญิง นางกอดจ้าวอู่เจียงกลับ ซบลงบนหัวไหล่ของเขา ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า
“ข้าก็…คิดถึงเจ้าเหมือนกัน ไม่รู้ว่าทางเมืองจูเป่ยและที่อื่น ๆ เป็นอย่างไรบ้าง?”
นางอยากรู้ว่าเขาได้ไปชายแดนตะวันออกหรือไม่?
ฮ่องเต้หญิงไม่ได้รับข่าวจากชายแดนตะวันออกจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง นางได้รับเพียงการรายงานจากเสนาบดีกรมกลาโหมว่าเกาะตงจีแตกแล้วเท่านั้น
ถ้าจ้าวอู่เจียงเดินทางกลับมาถึงรวดเร็วเช่นนี้ ก็แสดงว่าเขาเดินทางทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ได้หยุดพักไม่ใช่หรือ?
“ปลอดภัยดี” ขณะตอบ จ้าวอู่เจียงก็อุ้มฮ่องเต้หญิงขึ้นจนนางส่งเสียงร้องอุทานด้วยความตกใจ แล้วเขาก็เดินตรงเข้าไปยังห้องทางด้านหลัง
“ช้าก่อน…เจ้าคิดจะทำกระไร? ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้” สีหน้าของฮ่องเต้หญิงแต่งแต้มสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย นางเตะเท้าอย่างรวดเร็ว รู้สึกได้ว่าลมหายใจของจ้าวอู่เจียงมีความถี่กระชั้นนัก
แม้ฮ่องเต้หญิงจะดิ้นรนขัดขืน กระนั้นจ้าวอู่เจียงก็ยังอุ้มนางเข้าไปในห้องด้านหลังและวางลงบนเตียงได้สำเร็จ
เขาวางนางลงอย่างนุ่มนวล ก่อนจะกดทับกายแนบชิด
ฮ่องเต้หญิงตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า