บทที่ 556 ฝนห่าใหญ่
เหล่าข้าราชบริพารและนางกำนัลที่รอดชีวิตมองเห็นชายผู้นี้แล้วจำได้ทันทีว่าคือ จ้าวอู่เจียง ผู้ดำรงตำแหน่งขันทีใหญ่และผู้ช่วยควบคุมหอคัมภีร์หลวงแห่งวังหลัง
พวกเขาตกใจกลัวสุดขีดทั้งกับแรงสั่นสะเทือนของพื้นดินที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันและพลังอำนาจอันมหาศาลของจ้าวอู่เจียง เมื่อมือของจ้าวอู่เจียงเคลื่อนไหวบรรดาข้าราชบริพารที่รอดชีวิตจำนวนมากก็ลอยขึ้นไปสู่ที่ปลอดภัย
หลายคนตะโกนขอบคุณ “ขอบคุณใต้เท้าจ้าว” และบางคนคำนับอย่างนอบน้อม
บรรดานางสนมมองจ้าวอู่เจียงด้วยความรู้สึกหลากหลาย
ตลอดเวลานั้นจ้าวอู่เจียงไม่กล่าวคำใด เพียงแต่มองไปยังท้องฟ้ามืดครึ้มที่มีสายฟ้าแลบ
เมืองหลิงหนาน สุสานกระบี่
อาณาเขตหมื่นขุนเขาในยามเช้าล้วนพังทลายสิ้น
ประมุขสุสานกระบี่หลี่ฉวนจวินตื่นจากความฝันครั้งใหญ่
นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขาตื่นขึ้นอย่างแท้จริงไม่ใช่การตื่นเพียงชั่วครู่เพื่อออกคำสั่งกับเหล่าบริวาร
เขาเปิดประตูหินออกเห็นโลกที่เสียหายย่อยยับ ดวงตาของเขามืดมนลงชั่วขณะ
ในที่สุดก็ถึงวันนี้จนได้
หลี่ฉวนจวินถอนหายใจยาวก้าวเท้าออกจากกระท่อมหิน รอบ ๆ มีภูเขาและป่าไม้พังทลาย ฟ้าดินมืดมิดและฝนห่าใหญ่ดูเหมือนจะไม่หยุดตกกระหน่ำลงมาจากท้องฟ้าทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในโลกที่ห่างไกลออกไป
ชายชรายกมือขึ้นโบกสะบัดดินโคลนรอบ ๆ กระจายตัว กระบี่นับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาหาเขาและเสียบลงข้างกาย
มีกระบี่ยาวสามฉื่อ กระบี่หักครึ่ง กระบี่หนักที่มือเดียวยกไม่ไหวและมีกระบี่เล็กขนาดเท่าฝ่ามือ…
เขาตื่นแล้ว หนี่ผูซาก็ตื่นเช่นกัน
หนี่ผูซาไม่มาหาเขาแสดงว่าไปหาจ้าวอู่เจียงแล้ว
เขาสะกิดปลายเท้า รูปร่างมั่นคงดั่งขุนเขาเหยียบกระบี่บินมุ่งหน้าสู่นครหลวง เบื้องหลังมีกระบี่นับไม่ถ้วนตามหลังราวกับมังกรลอยฟ้า


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า