บทที่ 557 จะเข้ามาทีละคนหรือเข้ามามาพร้อมกัน?
มู่เชียนเชียนยิ้ม
ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางไม่มีความไร้เดียงสาของเด็กสาวแต่กลับมีความสงบนิ่งและความรู้สึกที่ไม่สมกับวัย
แต่ความสงบนั้นหายไปอย่างรวดเร็วเปลี่ยนเป็นความคมกริบ โหดเหี้ยมและเยือกเย็น
นกอินทรียักษ์ที่นางขี่ร้องครวญครางก่อนจะสลายกลายเป็นม่านหมอกเลือดผสมกับสายฝน
นางเดินย่ำสายฝนกลางอากาศราวกับเดินบนพื้นแห้งตรงเข้าหาจ้าวอู่เจียงทีละก้าว
ทางทิศเหนือของนครหลวงใกล้กับซากปรักหักพังมีกองทัพใหญ่ของชาวเผ่าโหลวหลานกำลังใกล้เข้ามา โดยมีชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งเป็นราชาและบุตรีแห่งสวรรค์ประจำชนเผ่าเป็นผู้นำ
ในอ้อมแขนของราชาแห่งชาวเผ่าโหลวหลานมีลูกสุนัขขนฟูสีขาวนวลตัวหนึ่ง ลูกสุนัขนั้นมีสายตาทรงพลังและซับซ้อนมองมู่เชียนเชียนที่พุ่งไปข้างหน้าแล้วมองจ้าวอู่เจียงที่ยังคงนิ่งเฉย
ท้องฟ้าเหนือศีรษะปั่นป่วนมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทันใดนั้น ก้อนเมฆบนท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้ามนุษย์ขนาดใหญ่จนเต็มท้องฟ้า ใบหน้านั้นมองลงมาด้วยความเยือกเย็น
มู่เชียนเชียนหยุดห่างจากจ้าวอู่เจียงราวสิบจั้ง ดวงตาของนางเย็นชาและดุดันมองไปยังใบหน้าบนท้องฟ้า
ใบหน้านั้นแปรเปลี่ยน อ้าปากกว้าง ก้อนเมฆพุ่งตรงไปหาจ้าวอู่เจียงพร้อมกับเสียงหวีดร้องของสายลม
จ้าวอู่เจียงยื่นมือซ้ายออกไปคว้ากระบี่ยาวสามฉื่อจากสายฝนแทงไปยังก้อนเมฆ พลังปราณกระบี่พลุ่งพล่านดั่งคลื่นยักษ์แผ่รัศมีเกรียงไกร
ก้อนเมฆใหญ่ปั่นป่วนและหายไปในพริบตา
ที่ซากปรักหักพังห่างไปสิบจั้งปรากฏเงาของชายวัยกลางคน
เขาสวมชุดยาวสีขาวเหมือนหยกบริสุทธิ์ ใบหน้าหล่อเหลาดวงตาเย็นชาปนยิ้มแย้ม ศีรษะสวมหมวกทรงสูงมือถือสร้อยลูกประคำที่เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
จ้าวอู่เจียงรู้ทันทีว่านี่คือหนี่ผูซา
ไม่เหมือนที่เขาคิดไว้เลย



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า