บทที่ 578 โลกอันกว้างใหญ่
หลังฝนตก ท้องฟ้าเป็นสีเทาทะมึน ควันไฟที่ลอยขึ้นมาจากหมู่บ้าน ภูเขาสีเขียวที่พร่ามัวอยู่ไกลออกไป ทำให้รู้สึกสดชื่นหัวใจ
บนเส้นทางกลับหมู่บ้านตระกูลจ้าว
จ้าวต้าหลาง ชายร่างกำยำ กำลังชกหมัดกับอากาศ ฮึบๆ ฮับๆ ดูเข้มแข็งน่าเกรงขาม
จ้าวถิงถิง สาวหน้ากลม หยิบหมั่นโถวแห้งๆ ครึ่งก้อนออกมาจากที่ไหนไม่รู้ เคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ไม่พูดอะไร
จ้าวหวังโฮว ชายร่างผอมบาง ถือหนังสือที่มุมหน้าหนังสือม้วนงอเล็กน้อย อ่านอย่างเพลิดเพลิน
ส่วนจ้าวอู่เจียงสวมเสื้อผ้าที่ปะติดปะต่อจากผ้าหลากสี ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มเซ่อๆ ในดวงตาเต็มไปด้วยความโง่เขลาใสซื่อ แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปอีก จะพบว่าในส่วนลึกของดวงตานั้น ลึกล้ำดุจท้องฟ้ายามค่ำคืน
จ้าวอู่เจียงได้ย่อยความทรงจำในสมองของตนเองแล้ว
หนึ่งปีก่อน เขาถูกหัวหน้าหมู่บ้านตระกูลจ้าว จ้าวฝูกุ่ย เก็บตัวมาจากริมลำธารเล็กๆ ในป่าลึกขณะที่กำลังเก็บสมุนไพร
ตอนนั้นเขาหมดสติไป ชาวบ้านตระกูลจ้าวสองสามคนช่วยกันหามเขากลับมา
หลังจากตื่นขึ้นมา จ้าวอู่เจียงก็มีสายตาเหม่อลอย เหมือนไร้วิญญาณ ปัญญาอ่อน เหมือนคนโง่ ถามอะไรก็ไม่รู้ ถามมากๆ เข้าก็ปวดหัว
จ้าวฝูกุ่ยหัวหน้าหมู่บ้านผู้มีจิตใจดั่งพระโพธิสัตว์ จึงตัดสินใจรับจ้าวอู่เจียงไว้ และตั้งชื่อให้เขาว่า จ้าวอู่หยาง
หมายความว่า ถึงแม้จะปัญญาอ่อนไปหน่อย แต่ตัวคนไม่เป็นอะไร นั่นก็ถือเป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว
ดังนั้น จ้าวอู่เจียงผู้ถูกตั้งชื่อใหม่ว่าจ้าวอู่หยาง จึงกลายเป็นลูกของหัวหน้าหมู่บ้าน และเป็นเด็กคนที่เก้าที่หัวหน้าหมู่บ้านรับมาเลี้ยงในช่วงหลายปีมานี้
จ้าวอู่เจียงจึงใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านตระกูลจ้าว ที่ผู้คนใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่ายสมถะ
ในวันธรรมดา เมื่อเดินเล่นอยู่ในหมู่บ้าน หากมีงานที่ใดก็ตาม เพียงแค่ร้องเรียก “คนโง่” แล้ว จ้าวอู่เจียงก็จะรีบวิ่งไปช่วยอย่างกระตือรือร้น
ไม่ว่าจะเป็นการดำนา เพาะปลูก หว่านเมล็ดพันธุ์ เกี่ยวข้าว ซ่อมหลังคา หรืองานไม้ จ้าวอู่เจียงเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว และทำได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไถนา แม้แต่วัวตัวเก่าแก่ในหมู่บ้านก็ยังสู้ความเร็วของจ้าวอู่เจียงไม่ได้
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า