บทที่ 61 ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นจากจวนซิงชิงหยวน
เขตซางซู สำนักที่ทำการหกกรมใหญ่ กรมคลัง
หลิ่วว่านซานเป็นขุนนางกรมคลังกำลังทำการคัดแยกเอกสาร
ช่วงนี้กรมคลังมีงานล้นมือ เขาจำเป็นต้องคัดแยกเอกสารให้ทันเวลา
“ท่านได้ข่าวหรือไม่? ฮ่องเต้ทรงพระราชทานจวนซิงชิงหยวนเป็นรางวัลให้แก่จ้าวอู่เจียง…”
“ว่าไงนะ พูดจริงหรือ?”
“ข้าได้ยินมาจากปากของท่านเสนาบดีด้วยหูตนเอง สีหน้าของท่านดูไม่ดีเป็นอย่างยิ่ง!”
“งั้นก็คงไม่ใช่เพียงข่าวลือ! สำหรับเรื่องนี้ เราต้องเร่งมือให้เร็วที่สุด…”
หลิ่วว่านซานเบิกตาโตระหว่างเงี่ยหูฟังบทสนทนาของขุนนางที่อยู่ด้านข้าง
หลิ่วหมางผู้เป็นหลานชาย ไปมีเรื่องขัดแย้งกับจ้าวอู่เจียงถึงขั้นต้องเขียนสัญญากู้ยืม! แต่ในเวลาเดียวกันนี้ จ้าวอู่เจียงกำลังจะได้รับรางวัลเป็นจวนหลังงาม หนำซ้ำ ยังต้องหาเงินหลายพันตำลึงทองมาชดใช้ให้แก่ขันทีหนุ่มอีกด้วย
เรื่องนี้เป็นเหมือนหนามแหลมทิ่มแทงหัวใจของหลิ่วว่านซาน ยิ่งจ้าวอู่เจียงได้รับความดีความชอบมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งกลัวว่าอีกฝ่ายจะกลับมาแก้แค้นอย่างหนักหน่วงมากเท่านั้น
การที่ฮ่องเต้มอบจวนซิงชิงหยวนเป็นรางวัลให้แก่จ้าวอู่เจียง ยิ่งเป็นสิ่งยืนยันความคิดของหลิ่วว่านซานก่อนหน้านี้
แม้หลิ่วว่านซานจะเป็นผู้มีอำนาจ แต่เขาทำงานอยู่ในกรมคลังมาหลายปีแล้ว จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้เลื่อนขั้น นั่นเป็นเพราะว่าเขาไม่มีเส้นสายใหญ่โตอยู่ในกรม จึงไม่มีโอกาสเลื่อนขั้นแม้แต่น้อย
แต่บัดนี้ ตนเริ่มมองเห็นแสงสว่างรำไร ทำไมจะต้องประจบเอาใจท่านเสนาบดีกรมคลังด้วย?
สู้ไปประจบเอาใจจ้าวอู่เจียงไม่ดีกว่าหรือ?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลังจากคัดแยกเอกสารเสร็จ หลิ่วว่านซานก็เดินออกไปจากจวนที่ทำการกรมคลังด้วยความรีบร้อน
เขากำลังจะไปแจ้งให้หลานชายเตรียมของขวัญ และเงินเพื่อนำไปใช้หนี้จ้าวอู่เจียง!
…
ที่ทำกรมกลาโหม
ปัง!
เฉินอันปังเสนาบดีกรมกลาโหมทุบโต๊ะด้วยความเกรี้ยวกราด ส่งผลให้พู่กันและขวดหมึกล้มกระจายเกลื่อนโต๊ะ
เขาเพิ่งได้รับข่าวว่าจ้าวอู่เจียงได้รับรางวัลจากฮ่องเต้เป็นจวนซิงชิงหยวน!?
เสนาบดีกรมกลาโหมจึงรู้สึกคับแค้นใจยิ่งนัก
เขาสำนึกอยู่แก่ใจว่าตนเองเป็นศัตรูกับจ้าวอู่เจียง ยิ่งอีกฝ่ายได้รับความดีความชอบมากเท่าไหร่ ตนก็ยิ่งตกอยู่ในอันตรายมากเท่านั้น
ไม่ได้การ เขาจะปล่อยให้เจ้านั่นเติบโตมากไปกว่านี้ไม่ได้! ถึงแม้ว่าจ้าวอู่เจียงจะเป็นเพียงหัวหน้าขันทีในวังหลัง แต่ถ้าไม่รีบสกัดขัดขวาง อีกไม่นานมันอาจเติบใหญ่จนไม่สามารถแตะต้องได้!
ดวงตาของเฉินอันปังวาวโรจน์ด้วยจิตสังหาร หนวดเคราสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
หลังจากนั้น เขาก็ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า