บทที่ 63 พยายามเอาชนะใจ
เมื่อเห็นหลิ่วหมางคุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว หลิวเฟิงก็ได้แต่ตกตะลึงอยู่ตรงนั้น เขาเล่าควรจะทำเช่นไรดี? ไม่ทันไรก็เห็นว่าอีกฝ่ายหันมาส่งสายตาอย่างผู้ชนะ ยิ่งทำให้เขาก็รู้สึกร้อนรนขึ้นไปอีก
หลิวเฟิงไม่เคยพ่ายแพ้ให้แก่ผู้ใดมาก่อน! เขาหัวเราะเยาะหยันอยู่ในใจ รีบคลานดิ๊ก ๆ เข้าไปคุกเข่าลงตรงหน้าจ้าวอู่เจียง สองมือถนอมประคองส่งถุงผ้าออกไปด้วยความอ่อนน้อม เลียนแบบท่าทางของหลิ่วหมางเสียทุกประการ
“ใต้เท้าจ้าว วันนี้ข้าน้อยมีของขวัญมามอบให้ท่าน…”
จ้าวอู่เจียงยืนทำหน้าประหลาดใจไม่คลาย รับของที่ทั้งสองคนส่งมาให้ ก่อนจะกล่าว
“พวกท่านลุกขึ้นเถอะ”
“ใต้เท้าจ้าวช่างมีจิตใจเมตตาอารี ขอบคุณมากขอรับ ใต้เท้าจ้าว!” หลิ่วหมางชิงพูดก่อน และลุกขึ้นยืน
หลิวเฟิงก็รีบพูดออกมาเช่นกัน
“ขอบพระคุณใต้เท้าจ้าวมากขอรับ”
เจ้าเชื่องช้ามากกว่าข้ามากนัก…หลิ่วหมางคิดด้วยความภาคภูมิใจขณะหันไปมองหน้าหลิวเฟิงด้วยสายตาเหยียดหยาม หลิวเฟิงจ้องมองกลับไป ในหัวใจรู้สึกโกรธแค้นยิ่งนัก
จ้าวอู่เจียงเปิดดูของที่บุรุษทั้งสองมอบให้ ก็ได้พบว่ากล่องไม้ของหลิ่วหมางบรรจุตั๋วแลกเงินมูลค่า 15,000 ตำลึงทอง พร้อมด้วยแผ่นป้ายที่ทำจากหยกและทองคำบริสุทธิ์แกะสลักเป็นคำว่า ‘หลิ่ว’ อยู่ด้านหน้า แกะสลักเป็นคำว่า ‘จิงซาง’ อย่างโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหลัง
ส่วนในถุงผ้าของหลิวเฟิงภายในนั้นมีเพียง แผ่นป้ายทองคำดำขนาดเท่าฝ่ามือ แผ่นป้ายนี้ให้ความรู้สึกยามสัมผัสเย็นเฉียบราวกับหลอมขึ้นมาจากเหล็กทมิฬ บนแผ่นป้ายแกะสลักคำว่า ‘หลาง’ เอาไว้ทั้งสองฝั่ง
“ใต้เท้าจ้าว”
“จ้าวกงกง”
เสียงทักทายดังขึ้นจากหน้าประตู ย่อมต้องเป็นราชเลขาฝ่ายขวาหลิวเจ๋อกับหลิ่วว่านซานที่เดินเข้ามา
จ้าวอู่เจียงส่งยิ้มตอบกลับไป
“ใต้เท้าหลิ่ว ใต้เท้าหลิว”
ใต้เท้าหลิ่วอย่างนั้นหรือ? เฮอะ! ราชเลขาหลิวอดหัวเราะเย้ยหยันอยู่ในใจไม่ได้ มิน่าเล่า เขาจึงรู้สึกคุ้นหน้าอีกฝ่ายเหลือเกิน!
…
หลิ่วว่านซาน ขุนนางจากกรมคลังก็หันมามองอีกฝ่ายเช่นกัน หัวใจของเขาพลันกระตุกวูบ ราชเลขาฝ่ายขวาหลิวเจ๋อถึงกับเดินทางมาหาจ้าวอู่เจียงด้วยตนเองเชียวหรือ?
“ข้าน้อยหลิ่วว่านซาน ขุนนางจากกรมคลัง ขอคารวะท่านราชเลขาฝ่ายขวาหลิวเจ๋อ” เขาพยายามระงับความตระหนกในหัวใจ และประสานมือคำนับทำความเคารพราชเลขาหลิว
หลิวเจ๋อพยักหน้า และออกคำสั่ง
“พวกเจ้าถอยไปก่อน ข้ามีเรื่องต้องพูดคุยกับใต้เท้าจ้าว”
“ขอรับ” หลิ่วว่านซานประสานมือคำนับ และลากหลิ่วหมางผู้เป็นหลานกลับออกไปทางประตู พวกเขายืนรออย่างเงียบงันอยู่ที่ด้านนอก
เมื่อหลิวเฟิงเห็นพวกตระกูลหลิ่วต้องไปยืนซึมอยู่ด้านนอกก็ยกยิ้มมุมปาก สุดท้าย เขาก็เป็นผู้ชนะอยู่ดี… หัวใจของคุณชายหลิวพองโตด้วยความภาคภูมิใจ จนกระทั่งได้ยินท่านปู่ของตนเองกล่าวออกมา

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า