บทที่ 70 ขอบเขตพลัง
หลังจากที่เฉินอันปังกลับไปแล้ว จ้าวอู่เจียงก็รอคอยอยู่ในห้องตำราอย่างเงียบงัน พร้อมกับชื่นชมกระบี่ในห้องด้วยความตื่นตาตื่นใจ
ฉีหลินเป็นมือกระบี่อันดับที่ 11 ในยุทธจักร ไม่รู้เลยว่าจะมีวรยุทธ์ขั้นใด แต่หากสามารถขึ้นมาเป็นเจ้าสำนักใต้ดินอันดับหนึ่งแห่งเขตเจียงตู่ได้ ย่อมหมายความว่าชายผู้นี้ทรงพลังไม่น้อย เพียงแต่ไม่รู้ว่าแข็งแกร่งมากเพียงใด
จ้าวอู่เจียงยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นเท่านั้น เขาฝึกเคล็ดวิชาทองคำไร้พ่ายไปค่อนข้างมากแล้ว แต่ก็ไม่รู้เลยว่าตนเองมีความแข็งแกร่งทางด้านวิทยายุทธอยู่ในระดับใด
ครึ่งชั่วยามให้หลัง ฉีหลินผู้เป็นเจ้าสำนักมังกรเกล็ดศิลาก็กลับมา
ทันทีที่เขาเปิดประตู ก็ได้พบกับบุรุษหนุ่มชุดดำผู้กำลังชื่นชมกระบี่ของตนอยู่ภายในห้องตำรา
“น้องจ้าว?” ฉีหลินหรี่ตาลงเล็กน้อย
จ้าวอู่เจียงหันกลับมาพร้อมดวงตาเป็นประกาย ชายผู้ปรากฏตัวเบื้องหน้าเขาเป็นคนมีคิ้วเรียวงาม ใบหน้ายาวมีหนวดอยู่เหนือริมฝีปาก สายตาลุ่มลึกที่ใช้จ้องมองผู้คนเต็มไปด้วยประสบการณ์ชีวิตอันโชกโชน
ขันทีน้อยประสานมือคำนับด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน “คารวะท่านเจ้าสำนักฉี?”
“ฮ่า ๆๆๆ” เมื่อฉีหลินได้รับคำยืนยันว่าคนผู้นี้คือจ้าวอู่เจียง เขาก็หัวเราะออกมาอย่างสำราญใจ
“น้องจ้าวเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์ ข้าได้ยินเกี่ยวกับเจ้ามานานแล้ว และอยากจะพบเจอตัวจริงของเจ้ามาโดยตลอด”
ผู้ฟังเลิกคิ้วขึ้นสูง
“ข้าน้อยเองก็ชื่นชมมือกระบี่อันดับที่ 11 แห่งยุทธจักรอย่างท่านมานานแล้วเช่นกัน เมื่อได้มาพบเจอตัวจริงในวันนี้ ข้าน้อยก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่า ข้าได้พบสุดยอดมือกระบี่ตัวจริงเข้าแล้ว”
“แหม ข้าก็แค่มือกระบี่อันดับที่ 11 เท่านั้น จะเรียกว่าเป็นสุดยอดมือกระบี่ได้อย่างไร?” ฉีหลินส่ายศีรษะ และถอนหายใจ พลางผายมือเชื้อเชิญให้แขกนั่งลง “ข้ารอที่จะได้พบเจอน้องจ้าวมานานแล้ว”
จ้าวอู่เจียงนั่งลง สายตาเป็นมิตรถูกส่งไปหาเจ้าสำนัก พร้อมรอยยิ้มอบอุ่น
“เมื่อสักครู่นี้ ท่านเจ้าสำนักฉีถอนหายใจออกมาหนักหน่วงยืดยาว ดูเหมือนจะมีเรื่องกังวลใจ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ?”
ฉีหลินประสานมือคำนับชายหนุ่มด้วยความชื่นชม ก่อนจะหัวเราะออกมาอีกครั้ง
“ว่ากันว่าแพทย์ที่ดีแค่เพียงใช้สายตาดูคนไข้ก็รู้อาการป่วย นับว่าน้องจ้าวมีทักษะทางการแพทย์สูงล้ำสมดังคำเล่าลือจริง ๆ…”
ฉีหลินได้รับข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับขันทีหนุ่มมาจากตู๋กูเทียนชิง จึงรู้ว่าอีกฝ่ายมีความชำนาญเรื่องการแพทย์ในระดับสูง และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เขาเชิญตัวจ้าวอู่เจียงมาที่นี่ในวันนี้
“น้องเทียนชิงเป็นคนแนะนำน้องจ้าวให้ข้าได้รู้จัก เขาบอกว่าข้าสามารถเชื่อใจเจ้าได้ ไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป” ฉีหลินตบหัวเข่าของตนพลางขมวดคิ้ว
“เหตุผลที่ข้ามาต้อนรับน้องจ้าวช้าถึงเพียงนี้ ก็เพราะข้าได้รับข่าวว่ากระบี่มังกรฟ้าถูกส่งเข้าสู่หอการค้าเจียงตู่แล้ว…”
“กระบี่มังกรฟ้า?”
จ้าวอู่เจียงเบิกตาโตขึ้นมา ชื่อกระบี่นี้คุ้นหูยิ่ง เขาเหมือนจำได้ราง ๆ ว่าเจี๋ยเอ้อร์ซานเคยเล่าให้ฟัง นี่เป็นชื่อกระบี่ของมือกระบี่อันดับสองของยุทธจักรมิใช่หรือ
ฉีหลินพยักหน้า และพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“กระบี่อันดับสองในใต้หล้า คือกระบี่มังกรฟ้าเป็นกระบี่ของหลี่ชางเฟิง!”
แล้วอาวุธคู่กายของมือกระบี่อันดับสองมาอยู่ในหอการค้าเจียงตู่ได้อย่างไรกัน?


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า