บทที่ 77 จับตะพาบในไห*[1]
รุ่งเช้า ฮ่องเต้ขึ้นบัลลังก์ว่าราชกิจตามปกติ ทางด้านของจ้าวอู่เจียงก็ออกจากตำหนักหย่างซิน เดินตรวจตราตามตำหนักต่าง ๆ ของนางสนมตามปกติเช่นกัน แต่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ได้พูดคุยกันแม้เพียงครึ่งคำ
จ้าวอู่เจียงเดินไปบนถนนปูแผ่นหิน สองมือซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ ก่อนอื่นเขาจะไปส่งเทียบยาที่เขียนเสร็จเมื่อคืนนี้ให้แก่ตู๋กูหมิงเยว่ และต้องไม่ลืมกำชับให้นางรับยาจากตระกูลตู๋กูเท่านั้น ห้ามรับยาจากโรงหมอหลวงเด็ดขาด
จ้าวอู่เจียงตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อไป
การตั้งครรภ์ของตู๋กูหมิงเยว่ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเขากับเซวียนหยวนจิ้ง ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะสามารถแก้ไขได้ในเวลาอันสั้น
อย่างไรเสียแม้ฮ่องเต้หญิงจะเป็นคนใจแข็งดั่งหินผา แต่นางก็ไม่ใช่คนจิตใจอำมหิตถึงเพียงนั้น เขามองเห็นแววตาลังเลใจของเซวียนหยวนจิ้ง จึงรู้ดีว่ายังมีโอกาสเกลี้ยกล่อมได้สำเร็จ เพียงแต่ต้องใช้เวลาเท่านั้น
จ้าวอู่เจียงไม่สามารถรั้งรอได้อีกแล้ว เขายังมีงานอีกมากที่ต้องทำ
ก่อนอื่น เฉินอันปังผู้เป็นเสนาบดีกรมกลาโหมต้องถูกสังหารในวันนี้ เขาได้เตรียมกับดักไว้สำหรับเฉินอันปังโดยเฉพาะ และเขาก็คำนวณสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
อย่างที่สอง เขาต้องหาเส้นสายในโรงหมอหลวง
ตอนที่จ้าวอู่เจียงตอบโต้เฉินอันปังกลับไปต่อหน้าบัลลังก์ในข้อหาที่ว่า เป็นผู้ยักยอกสมุนไพรหลวงออกไปขาย จ้าวอู่เจียงได้เปิดเผยความจริงว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็คือหวังอวี้ข่าย แต่ไม่ได้สืบสาวไปถึงตัวของผู้ควบคุมโรงหมอหลวงอย่างซุนอี้ขู่ นั่นเป็นเพราะว่าทั้งจ้าวอู่เจียงและฮ่องเต้หญิงอยากจะไล่ต้อนซุนอี้ขู่ให้จนมุมเสียก่อนจึงค่อยวางกับดักเล่นงาน แต่ในเวลาเดียวกันนี้ พวกเขาก็จับตามองซุนอี้ขู่อยู่ตลอดเวลา
ไม่ว่าจะเป็นการวางยาพิษ หรือการยักยอกสมุนไพรออกไปข้างนอก ทั้งหมดย่อมเป็นเรื่องที่มีผู้คนเข้ามาเกี่ยวข้องไม่น้อย ดังนั้น ขั้นตอนการสืบสวนจึงต้องใช้เวลาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ในสายตาของจ้าวอู่เจียง การใช้พิษจากกู่พิษแห่งโหลวหลานซึ่งพบในตัวขององค์หญิงแห่งแคว้นไป๋เยว่นั้น นอกจากจะมีการร่วมมือกันระหว่างคนของโรงหมอหลวงกับคนของกรมพิธีการแล้ว ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวอันชั่วร้ายครั้งนี้ น่าจะต้องสมคบคิดกับคนนอกทางชายแดนใต้ของแคว้นต้าเซี่ยเป็นแน่แท้
เมื่อประกอบกับการเสียชีวิตของแม่ทัพจ้าวในชายแดนเหนือ ซึ่งส่งผลให้กองทัพแดนเหนือได้รับความเสียหายอย่างหนัก ก็เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนการร้ายที่ถูกวางเอาไว้อย่างรอบคอบรัดกุมเพื่อทำลายแคว้นต้าเซี่ย… ไม่ว่าศัตรูจะเป็นผู้ใด แต่พวกมันก็กำลังโอบล้อมโจมตีเข้ามาจากทั้งทางฝั่งเหนือและฝั่งใต้ ถึงกับคิดจะวางแผนลอบสังหารองค์หญิงอวี้เซวียนเพื่อผลักแคว้นต้าเซี่ยให้ตกลงสู่ภาวะวิกฤติ…
แต่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังแผนการอันชั่วร้ายนี้เป็นผู้ใดกันแน่? จ้าวอู่เจียงเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าตึกที่ทำการของโรงหมอหลวง ดวงตาของเขาเป็นประกายดุดัน ก่อนที่จะหมุนตัวเดินจากไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
เขาจะฆ่าเฉินอันปังก่อน แล้วค่อยตามด้วยคนผู้นั้น…
…
เขตเจียงตู่ จวนที่พักของเฉินอันปัง
เฉินอันปังนั่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ฮูหยินของเขากำลังช่วยตัดเล็มหนวดเคราอันดกหนาและผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า เมื่อครู่นี้ เขาเพิ่งได้รับจดหมายจากสำนักมังกรเกล็ดศิลา
ในจดหมายระบุว่าจ้าวอู่เจียงถูกจับตัวมาแล้ว และพวกเขาอยากจะให้เฉินอันปังเดินทางไปที่สำนักมังกรเกล็ดศิลา เพื่อทำการชำระแค้นตามสัญญา
“เฮอะ เป็นเพียงขันทีต่ำต้อย คิดว่าจะมาดูหมิ่นข้าได้ง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ?”
เฉินอันปังเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ภาคภูมิใจกับความสวยงามของหนวดเคราบนใบหน้ายิ่งนัก


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า