บทที่ 863 หุ่นเชิด
“เชิญพวกท่านเข้ามา”
นักบวชน้อยก้าวเข้าไปในวัดเป็นคนแรก
จ้าวอู่เจียงมองด้วยดวงตาที่ฉายแสงสีม่วง และก้าวเข้าไปตาม
เซวียนหยวนจิ้งและหลี่ฉวนจวินก้าวตามเข้าไป
เมื่อจ้าวอู่เจียงก้าวผ่านประตูวัด ดวงตาของเขาหรี่ลง เพราะนักบวชน้อยหายไปแล้ว ไม่ว่าจะด้านหน้าด้านหลังก็ไม่เห็นเงาของเซวียนหยวนจิ้งกับหลี่ฉวนจวิน
เบื้องหน้าคือวัดที่ดูค่อนข้างเก่าแก่
ต้นไม้โบราณสูงใหญ่แผ่กิ่งก้านกว้างไกลถูกเถาวัลย์พันเกี่ยวไปตามกิ่ง เถาวัลย์ชอนไชจนกลายเป็นตาข่าย ด้านซ้ายเชื่อมกับอาคารด้านข้างของวัด ส่วนด้านขวาเชื่อมกับโถงหลักของวัด
จ้าวอู่เจียงก้าวขึ้นบันไดหิน ก้าวขึ้นไปทีละขั้น
เขาเงยหน้ามองโถงหลักที่สีทาไม้หลุดลอกจนเก่า โถงมีสองชั้น ชั้นแรกสูงประมาณสองจั้ง ชั้นที่สองสูงประมาณหนึ่งจั้ง
หน้าโถงหลักมีหม้อทองแดงขนาดใหญ่ตั้งอยู่
ในหม้อมีเพียงธูปที่มอดดับไปแล้วเกือบหมด เหลือเพียงสามดอกที่ยังคงลุกไหวปลดปล่อยควันสีเขียว เหมือนเป็นธูปที่เพิ่งจุดได้ไม่นาน
จ้าวอู่เจียงก้าวเข้าไปในโถงหลัก ด้านในมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่สูงเกือบสามจั้ง เลยเกือบจรดถึงชั้นสองของโถงหลัก
พระพุทธรูปที่ใบหน้าเมตตาและเปี่ยมด้วยความสงบ
ทั้งสองข้างของพระพุทธรูปเป็นกระถางธูปขนาดเล็ก
ผืนผ้าแปดผืนที่จารึกคัมภีร์ด้วยตัวอักษรสีแดงห้อยลงมาจากชั้นสองฝั่ง ทำให้บรรยากาศดูเคร่งขรึม แฝงความลึกลับ
จ้าวอู่เจียงสังเกตรอบ ๆ ก็เห็นว่าบันไดที่ขึ้นไปชั้นสองพังไปแล้ว
เขาเดินไปยังประตูด้านข้างของโถงหลัก ก้าวข้ามธรณีประตูไปก็เจอกับทางเดินแคบ ๆ
เขาไม่ได้สังเกตเลยว่า ขณะที่เขาก้าวข้ามธรณีประตู ดวงตาของพระพุทธรูปพลันขยับ เหลือบมองเขา ใบหน้าเมตตาแปรเปลี่ยนเป็นความน่าสะพรึงกลัว
จ้าวอู่เจียงเข้าใจดีว่า ที่นี่คือดินแดนเต๋อเหลียน ไม่ใช่โลกภายนอก
เช่นนี้แล้วมีนักบวชอยู่ในวัดนี้จริงหรือ?
แต่นักบวชน้อยที่พูดถึง ‘วัฏสงสาร’ ทำให้จ้าวอู่เจียงรู้สึกผู้ชี้นำในเกมจากโลกที่เขาเคยจากมา
ตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ดินแดนเต๋อเหลียน เขาได้รับการชี้นำมากมายจนชิน เขาไม่อยากคิดมากกับเรื่องนี้แล้ว
จ้าวอู่เจียงเดินผ่านทางเดินที่มีไผ่แห้งเหี่ยวสองข้างทาง
สุดทางเดินมีห้องพักจำนวนสี่ห้อง

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า