บทที่ 9 ทางลัดในการมีบุตร
นางต้องการจะให้ขันทีน้อยช่วยสอนวิธีในการทำให้พญามังกรตื่นตัวอย่างรวดเร็ว
จ้าวอู่เจียงมีสีหน้าตะลึงงันเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ในขณะที่จ้องมองหญิงสาวผู้เขินอาย เขานึกย้อนถึงภาพความสัมพันธ์ใกล้ชิดเมื่อคืน ขันทีหนุ่มจึงแสดงสีหน้าแปลกประหลาดออกมาโดยไม่รู้ตัว
นางคงอยากหาวิธีตั้งครรภ์โดยเร็วที่สุด?
ก็ถ้าทำมากพอ เดี๋ยวก็ท้องเองนั่นแหละ
จ้าวอู่เจียงถูนิ้วมือ ฉากความทรงจำปรากฏขึ้นในห้วงความคิดนับไม่ถ้วน หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็กล่าวด้วยสีหน้าเข้มขรึม
“นับว่าพระสนมมาถามได้ถูกคนแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อหลิวเหม่ยเอ๋อร์ได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของนางก็เปล่งประกายระยิบระยับ พูดด้วยความคาดหวังในตัวของจ้าวอู่เจียงอย่างยิ่ง
“ข้าได้ยินมาว่าที่ฝ่าบาทสามารถกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้งก็เป็นเพราะขันทีจ้าว ขันทีจ้าวมีฝีมือด้านการแพทย์เก่งกาจยิ่งกว่าหมอหลวงเสียอีก ดังนั้น ได้โปรดชี้แนะข้าด้วย!”
จ้าวอู่เจียงจ้องมองพระสนมด้วยสายตาจริงใจ
“อย่างแรกที่สำคัญคือท่วงท่าพ่ะย่ะค่ะ”
“ท่วงท่าอย่างนั้นหรือ?”
“หนึ่งท่วงท่า หนึ่งการเคลื่อนไหว หนึ่งความรู้สึก!”
จ้าวอู่เจียงมีดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ สีหน้าจริงจัง ขันทีหนุ่มลุกขึ้นยืนเอามือไขว้หลังไว้หนึ่งข้าง หันกายเข้าหาแสงไฟ ก่อนจะหันหน้ากลับมามองที่หลิวเหม่ยเอ๋อร์เล็กน้อย
“ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาหรือเจ้าฟ้าเจ้าสวรรค์ เวลาที่คนเราทำการบูชาสวรรค์ ก็มักจะยื่นมือออกไปข้างหน้าในท่วงท่าของการส่งมอบสิ่งของเสมอ นี่คือท่วงท่าที่เราจะแสดงออกถึงการเคารพสวรรค์อย่างสูงสุดพ่ะย่ะค่ะ แล้วเทพเจ้าบนสวรรค์ก็จะรับรู้ได้ถึงความจริงใจของมนุษย์ แผ่นดินจะสงบสุข ประชาราษฎร์ใช้ชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย”
“และในขณะที่เราทำการคำนับบรรพบุรุษเวลากลับบ้าน คนเราก็จะประกบสองมือเข้าด้วยกันและคุกเข่าลงบนพื้น นี่คือท่วงท่าที่เราใช้ทำความเคารพบรรดาบรรพบุรุษ และบรรพบุรุษก็จะคอยดูแลพวกเราอยู่ในความมืด”
“แต่การให้กำเนิดบุตรนั้นคือการสร้างสรรค์จากความว่างเปล่า เมื่อท่านอยู่ในท่วงท่าที่ไม่เหมาะสม จิตใจไม่บริสุทธิ์ สวรรค์จึงสัมผัสถึงความต้องการของท่านไม่ได้ แล้วพระสนมจะตั้งครรภ์ได้อย่างไร?”
ทุกคำพูดไม่ต่างจากไข่มุกราตรีที่ส่องแสงสว่างไสวอยู่กลางใจหลิวเหม่ยเอ๋อร์
หญิงสาวจ้องมองจ้าวอู่เจียงด้วยความตกตะลึง และก็พบว่าขันทีหนุ่มกำลังหันมายิ้มมุมปากให้นาง สะท้อนกับแสงสว่าง ไม่ต่างจากเทพเจ้าผู้ควบคุมความรักของโลกมนุษย์
“ขันทีน้อยพอจะรู้หรือไม่ว่าฝ่าบาทชื่นชอบท่วงท่าใด?”
คำถามนี้ไม่ควรถามว่าฝ่าบาทชื่นชอบท่วงท่าใด
แต่ท่านควรถามว่าข้าชื่นชอบท่วงท่าใดมากกว่า
จ้าวอู่เจียงได้แต่คิดอยู่ภายใน ก่อนจะถอนหายใจตอบกลับไปว่า “การสอดส่องความลับสวรรค์เช่นนี้ ถือเป็นการทำผิดกฎฟ้าดิน”
“หากท่านหวาดกลัว ข้าหลิวเหม่ยเอ๋อร์จะปกป้องขันทีจ้าวตลอดเวลาที่อยู่ในวังหลวงแห่งนี้เอง!”
หลิวเหม่ยเอ๋อร์กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงใจและมุ่งมั่น
“ก็ได้ขอรับ แต่ท่านต้องรับปากก่อนว่าจะไม่นำเรื่องนี้ไปบอกต่อผู้ใด”
จ้าวอู่เจียงจ้องมองสตรีตรงหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียดแต่หล่อเหลา
หลิวเหม่ยเอ๋อร์รู้สึกมีความสุขและร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง ความลับสำคัญเช่นนี้นางจะเอาไปบอกต่อผู้อื่นได้อย่างไร?
ขันทีหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นสูงพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ฝ่าบาทเปรียบดังผู้กุมชะตาฟ้าดินเอาไว้ในพระหัตถ์! เมื่อพระสนมอยู่ในห้องเดียวกับฝ่าบาท ท่านต้องเอาขาโอบรัดเอวพระองค์ให้แน่นมากที่สุด แบบนี้เรียกว่ากระบวนท่าจับหลังมังกร! จากนั้นใช้มือของท่านคล้องคอพระองค์ นี่เรียกว่ากระบวนท่ากุมเศียรมังกร! เมื่อฝ่าบาททะยานเข้าสู่ภายในกายท่าน พระสนมก็ต้องเปล่งเสียงร้องออกมาตอบสนองอย่างจริงใจ นี่เรียกว่ากระบวนท่าเสียงครางมังกรสะท้าน! ”
“จับหลังมังกร กุมเศียรมังกร และเสียงครางมังกรสะท้าน…”
หลิวเหม่ยเอ๋อร์พึมพำกับตนเอง ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
นางมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง เร่งรีบชื่นชมจ้าวอู่เจียงด้วยความตื่นเต้น
“ขอบคุณขันทีจ้าวมาก!”
“แหม ไม่ต้องรีบขอบคุณกระหม่อมหรอกพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมีสูตรลับที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษอีกหลายอย่างทีเดียว”
จ้าวอู่เจียงประสานมือทำความเคารพหลิวเหม่ยเอ๋อร์ด้วยความอ่อนน้อม จากนั้นจึงขยับเข้าไปกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูนาง เพราะกลัวว่าจะมีผู้อื่นได้ยิน
ใบหูสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อน ใบหน้างดงามของหลิวเหม่ยเอ๋อร์กลายเป็นสีแดงระเรื่อขึ้นมาในพริบตา หลังจากได้รับฟังเสียงกระซิบของขันทีหนุ่ม นางก็หันไปมองหน้าเขาด้วยความสงสัย และถามด้วยความไม่แน่ใจ
“มันจะเป็นไปได้จริงหรือ?”
เมื่อถูกถามเช่นนี้ จ้าวอู่เจียงก็วางมือไว้บนหัวไหล่กลมมน และกล่าวด้วยความกระตือรือร้น
“พระสนมต้องจำเอาไว้ให้ดี ร่างกายของคนเรามีช่วงที่เติบโตอยู่เสมอ ท่านย่อมสามารถทำได้อย่างแน่นอน! ในวังหลวงอันลึกล้ำและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมเช่นนี้ ยิ่งท่านมีความได้เปรียบมากเพียงใด ท่านก็มีโอกาสที่จะเป็นผู้ชนะมากเท่านั้น!”
สีหน้าจริงจังของจ้าวอู่เจียงทำให้สัมผัสได้ถึงความห่วงใยที่ห่างหายไปนาน ถ้อยคำแห่งความห่วงใยของขันทีน้อยก็ทำให้รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้างดงาม

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า