บทที่ 90 คืนนี้ไม่เลือก
หลังจากใช้เวลาฝึกวิชาผ่านไปหลายชั่วยาม ในที่สุด จ้าวอู่เจียงก็สามารถปลุกมาได้สองจิตแล้ว และความคิดของเขาก็มีความปลอดโปร่งแจ่มใสมากขึ้น
ฮ่องเต้หญิงกำลังรับประทานอาหารอย่างเหม่อลอย ในช่วงที่ผ่านมา จ้าวอู่เจียงจะมานั่งรับประทานกับนางเสมอ และระหว่างมื้ออาหาร พวกเขาก็จะพูดคุยกันมากมายหลากหลายประเด็น
แต่ด้วยความบาดหมางเรื่องการตั้งครรภ์ของตู๋กูหมิงเยว่ ตั้งแต่วันนั้นพวกเขาก็ไม่ได้พูดคุยกันเช่นเดิมอีก
สำหรับทารกที่จะเป็นตัวแปรสำคัญในการเขย่าบัลลังก์ของตน เซวียนหยวนจิ้งรู้ดีว่านางจะใจอ่อนไม่ได้เด็ดขาด และจ้าวอู่เจียงก็ประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วเช่นกัน
ในเรื่องนี้ พวกเขามีความคิดเห็นไม่ตรงกัน จึงเกิดเป็นสงครามแห่งความเย็นชาดำเนินไปไม่หยุดยั้ง แม้กระทั่งความสัมพันธ์ที่เคยสนิทสนมกันมาก็แตกหักหมดสิ้น
…
จ้าวอู่เจียงฝึกวิชาอยู่ในห้องพักทางด้านข้างในตำหนักหย่างซิน เมื่อสามารถปลุกสองจิตขึ้นมาได้แล้ว เขาจึงตัดสินใจลองโคจรพลังลมปราณดูโดยทันที
ชายหนุ่มโคจรพลังลมปราณในร่างกาย ลมหายใจมีความเชื่องช้าและยาวนานมากขึ้น
ภายในห้องบรรทมของตำหนักหย่างซิน ฮ่องเต้หญิงอยู่เพียงลำพังในความมืด นางสั่งไม่ให้ขันทีน้อยหรือนางกำนัลจุดตะเกียง หญิงสาวเพียงนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้แกะสลักลวดลายมังกร ดื่มด่ำกับความมืดยามราตรี และจ้องมองไปยังบานประตูด้วยความว่างเปล่า
จ้าวอู่เจียงเป็นเหมือนก้อนหินที่ถูกโยนลงสู่ทะเลสาบในหัวใจของเซวียนหยวนจิ้ง ยามหินกระทบน้ำ ตอนแรกเกิดเป็นเพียงระลอกคลื่นเล็ก ๆ เท่านั้น แต่แล้วคลื่นน้ำก็ยิ่งขยายตัวเป็นวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า
จ้าวอู่เจียงกลายเป็นสหายคู่คิดเพียงหนึ่งเดียวที่นางมีในวังหลวง
แต่นางจะหยุดยั้งเพียงเพราะสหายผู้หนึ่งไม่ได้
นางเป็นถึงฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าเซี่ย บนสองบ่าแบกทั้งแว่นแคว้นเอาไว้ นาง… ดวงตาของฮ่องเต้หญิงแวววับในความมืด นางได้แต่บอกตนเองอยู่ในใจว่าหน้าที่ต้องมาก่อนเรื่องส่วนตัว
ใบหน้าของหญิงสาวยิ่งทวีความเย็นชามากขึ้นและมากขึ้น ตอนแรกที่นางขึ้นครองบัลลังก์ รอบกายของเซวียนหยวนจิ้งก็เต็มไปด้วยศัตรู ตอนนั้นนางก็จ้องมองทุกคนด้วยสายตาเย็นชาเช่นนี้เองเหมือนกัน
ก๊อก ก๊อก
เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ ความคิดอันวุ่นวายในสมองพลันสลายหายไปจนสิ้น ร่างกายส่งสัญญาณเหนื่อยล้าขึ้นมาทันที
“ฝ่าบาท คืนนี้พระองค์ยังไม่ได้เลือกพระสนมเลยพ่ะย่ะค่ะ” เสียงของเสี่ยวหลี่จือดังขึ้นหน้าประตู
ฮ่องเต้หญิงยกมือนวดขมับ และตอบกลับไปเสียงเย็นชา
“คืนนี้ไม่เลือก!”
“กระหม่อมรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ” เสี่ยวหลี่จือตอบรับด้วยความเคารพ รู้สึกเสียดายเล็กน้อย บรรดานางสนมน้อยใหญ่ต่างก็เร่งเร้าให้เขามาสอบถามพระองค์ แต่เมื่อได้ยินน้ำเสียงแห่งความเดือดดาลและเย็นชาจากฮ่องเต้ เสี่ยวหลี่จือก็ทำได้เพียงโค้งตัวคำนับ และล่าถอยกลับไปเท่านั้น
ฮ่องเต้หญิงนั่งอยู่ในความมืดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ นางเริ่มเกิดความเป็นกังวลว่าจะทำเช่นไรดีหากจ้าวอู่เจียงทำให้นางสนมคนอื่น ๆ ตั้งครรภ์ตามมาอีก นั่นคงจะเป็นปัญหาใหญ่หลวงแน่แล้ว ดังนั้นเซวียนหยวนจิ้งจึงปฏิเสธการเรียกตัวนางสนมเข้ามารับใช้อย่างไร้เยื่อใย
แต่นางก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่า นี่ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาว วันมะรืนนี้นางก็ต้องแต่งงานกับองค์หญิงจากแคว้นไป๋เยว่แล้ว และนางก็คงไม่สามารถปล่อยให้องค์หญิงผู้นั้นนอนเดียวดายในห้องหอได้ใช่หรือไม่เล่า?
หากทำเช่นนั้น จะต้องได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยเป็นแน่
หนทางเดียวคือต้องร้องขอให้จ้าวอู่เจียงช่วยทำหน้าที่นั้นแทนนางต่อไป

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า