เข้าสู่ระบบผ่าน

ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า นิยาย บท 94

บทที่ 94 ผู้ช่วยเหลือปรากฏตัวอย่างต่อเนื่อง

หน้าอกของเฟิงซิ่วเอ๋อร์กระเพื่อมขึ้นลงจากการหอบหายใจอย่างรุนแรง จ้าวอู่เจียงส่งยิ้มให้นางอย่างอบอุ่น ก่อนจะสวมกอดจากทางด้านหลัง พลางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“ฉินเฉินสมควรตายแล้ว หรือว่าตระกูลฉินต้องการจะล่วงเกินประมุขของหอการค้า?”

หลังจากพูดถึงตรงนี้ ป้ายประจำตัวของประมุขกิตติมศักดิ์แห่งหอการค้าเจียงตู่ก็ถูกโยนใส่ใบหน้าฉินซือโหยวอย่างแม่นยำ

ฉินซือโหยวเบิกตาโตด้วยความฉุนเฉียว ยกมือรับแผ่นป้ายประจำตัวนั้นไว้ กำลังจะโยนมันทิ้งไป แต่แล้วดวงตาของเขาก็ต้องสั่นไหวเมื่อเห็นตราสัญลักษณ์ของหอการค้าเจียงตู่อยู่บนแผ่นป้ายนั้น

นี่มัน… แผ่นป้ายประจำตัวของประมุขจริง ๆ เป็นไปได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้! ฉินซือโหยวหัวใจกระตุก จ้าวอู่เจียงมีป้ายประจำตำแหน่งประมุขกิตติมศักดิ์ติดตัวได้อย่างไร?

กลุ่มคนจากตระกูลฉินที่อยู่โดยรอบล้วนไม่เข้าใจว่าเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร พวกเขาพากันตัวสั่น และรู้สึกหมดเรี่ยวแรง เพราะสิ่งเดียวที่ทุกคนทราบกันดีคือ ป้ายประจำตำแหน่งนี้ไม่ใช่ของธรรมดา

ในเวลาเดียวกันนั้น เฟิงอวิ๋นไฉกับเฟิงซิ่วเอ๋อร์ก็ตกอยู่ในอาการมึนงงเช่นกัน

เฟิงอวิ๋นไฉจ้องมองไปที่ป้ายประจำตำแหน่งในมือของฉินซือโหยว ป้ายประจำตำแหน่งเช่นนี้มีอยู่ในหอการค้าเพียงห้าชิ้นเท่านั้น วิธีการทำถูกเก็บเป็นความลับสุดยอด ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะหลอมเลียนแบบขึ้นมาได้

แล้วจ้าวอู่เจียงมีป้ายประจำตำแหน่งนี้ได้อย่างไร? หรือว่าเขาคือหนึ่งในประมุขกิตติมศักดิ์ของหอการค้าเจียงตู่? เขาถึงได้มีป้ายนี้ในครอบครอง?

ไม่น่าเป็นไปได้ ทางหอการค้าไม่มีทางปล่อยให้คนหนุ่มอายุน้อยเพียงเท่านี้ขึ้นดำรงตำแหน่งอันสูงส่ง หรือว่ากลุ่มคนที่กำลังสนับสนุนจ้าวอู่เจียงจะมีสถานะสูงส่งมากกว่าบรรดาตระกูลใหญ่ทั่วไป?

เฟิงซิ่วเอ๋อร์อ้าปากค้าง ดวงตาสุกใสจ้องมองใบหน้าอันอ่อนโยนของชายหนุ่มไม่กะพริบ

ในขณะนี้ จ้าวอู่เจียงไม่ต่างจากหุบเหวลึกที่ดึงดูดสายตา และกำลังจะฉุดลากนางลงไป

นางไม่เข้าใจเลยว่าจ้าวอู่เจียงสามารถครอบครองป้ายประจำตำแหน่งนี้ได้อย่างไร และยิ่งสงสัยในตัวตนที่แท้จริงของคนผู้นี้มากขึ้นเรื่อย ๆ

ฉินซือโหยวกลับด้านป้ายประจำตำแหน่งดูอีกฝั่งหนึ่ง แล้วเขาก็ต้องตัวสั่น กัดฟันพูดว่า

“เจ้ามีป้ายประจำตำแหน่งจากตระกูลหลิ่วอยู่ในการครอบครองได้อย่างไร? เจ้าคงทำเรื่องชั่วช้าสามานย์ และขโมยมันมาจากพวกเขาใช่หรือไม่!”

รถม้าคันหนึ่งเร่งรีบออกมาจากหอการค้า บุรุษหนุ่มในชุดเสื้อคลุมปักลายดอก หลิ่วหมาง นั่งมาพร้อมกับบิดาของเขาผู้มีสีหน้าเคร่งขรึม หลิ่วชิงซาน

เมื่อสักครู่นี้ พวกเขาได้รับข่าวจากคนตระกูลฉิน ว่ากำลังจะมีการไปปิดล้อมสังหารบุคคลผู้หนึ่ง

ตอนแรก พวกเขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้นัก หลิ่วหมางยังคงเดินเล่นอยู่ในหอการค้าอย่างสบายอารมณ์ หลิ่วชิงซานก็จัดการเรื่องราวต่าง ๆ ในหอการค้าต่อไปตามปกติ

แต่เมื่อหลิ่วหมางได้ยินชื่อของจ้าวอู่เจียง เขาก็ต้องสะดุ้งโหยง หลังจากนั้นเขาก็เห็นประมุขหอการค้าอย่างเฟิงอวิ๋นไฉพร้อมด้วยบุตรสาว เฟิงซิ่วเอ๋อร์ ขึ้นรถม้าออกไปด้วยความเร่งรีบ

แน่นอนว่าชื่อของจ้าวอู่เจียงย่อมไม่ลบเลือนไปจากหัวใจของหลิ่วหมางง่าย ๆ หลังจากได้เผชิญหน้ากับความร้ายกาจของจ้าวอู่เจียงมาด้วยตนเอง หลิ่วหมางก็มีความเคารพชื่นชมต่อคนผู้นี้เป็นอย่างยิ่ง เขาตั้งเป้าว่าหากจะร้ายกาจเท่าผู้ใด อย่างน้อยเขาก็ต้องร้ายกาจให้ได้อย่างจ้าวอู่เจียง ถ้าจะรังแกผู้ใด ก็ไม่มีอะไรสนุกเท่ากับการรังแกคนที่มีอำนาจแล้ว

หลิ่วหมางจึงรีบไปบอกเรื่องนี้ต่อบิดาทันที

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า