บทที่ 97 ความลับของกระบี่มังกรฟ้า
หอการค้าเจียงตู่
เฟิงอวิ๋นไฉประมุขของหอการค้าเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงต้อนรับจ้าวอู่เจียงและพรรคพวก บรรยากาศของงานเลี้ยงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและการชนจอกสุรา
เฟิงอวิ๋นไฉและหลิ่วชิงซานดื่มคำนับให้แก่จ้าวอู่เจียงครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเขาพูดคุยกันถึงเรื่องการพัฒนาหอการค้าในอนาคต ภายใต้การดูแลของประมุขกิตติมศักดิ์คนใหม่
หลังจากเฟิงซิ่วเอ๋อร์ดื่มสุราไปหลายจอก ใบหน้าของนางก็กลายเป็นสีแดงระเรื่อ นางมีความใจกล้ามากขึ้น ตลอดเวลาเอาแต่คลอเคลียอยู่กับจ้าวอู่เจียงพร้อมทั้งถามคำถามไม่รู้จบ
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังร่ำสุรากันอย่างมีความสุข ฉีหลินก็เชิญหลี่หยวนเจิ่งออกไปประลองฝีมือ
ในฐานะมือกระบี่ ฉีหลินย่อมอยากเรียนรู้เกี่ยวกับตัวตนของหลี่หยวนเจิ่งผู้ยืนอยู่ข้างกายจ้าวอู่เจียง และอยากจะประลองฝีมือด้วยกันสักหลายกระบวนท่า
แต่ก่อนหน้านี้สถานการณ์ไม่เหมาะสม บัดนี้เมื่ออยู่ในงานเลี้ยงสุรา ความเมามายก็ทำให้ฉีหลินกล้าเชิญหลี่หยวนเจิ่งออกไปประลองฝีมือ
พวกเขาใช้ตะเกียบไม้แทนกระบี่และเริ่มต้นการต่อสู้ จิตสังหารที่แผ่ออกมาจากร่างกายทำให้กระแสลมปั่นป่วน ฉีหลินทำการโจมตียิ่งกว่าพายุลมฝนคลุ้มคลั่ง ในขณะที่หลี่หยวนเจิ่งก็ปักหลักป้องกันได้อย่างแข็งแกร่ง
พวกเขาผลัดกันรุกผลัดกันรับผลัดกันโจมตี
ความยอดเยี่ยมในการประลองของทั้งสองคนทำให้ผู้คนทั้งห้องโถงใหญ่ปรบมือด้วยความชื่นชม ในเวลาเดียวกันนี้ จ้าวอู่เจียงก็พยายามจดจำกระบวนท่าของมือกระบี่ทั้งสองให้ได้มากที่สุด
ผ่านไปหนึ่งถ้วยชา ฉีหลินกับหลี่หยวนเจิ่งก็ยุติการประลอง พวกเขาแค่อยากเรียนรู้ฝีมือของกันและกันเท่านั้น ไม่ได้หมายมั่นจะเอาชีวิต หลังจากประสานหมัดโค้งคำนับกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็กลับมานั่งประจำที่ ชนจอกสุราและพูดคุยกันอย่างมีความสุขดังเดิม
“น้องจ้าว ข้าขอดื่มให้กับเจ้า” หลี่หยวนเจิ่งเติมสุราใส่จอกให้ตนเองก่อนจะยกจอกขึ้น
“เวลาและวารีเป็นสิ่งที่ไม่เคยไหลย้อนกลับ มีโอกาสไม่มากนักที่พวกเราจะได้มานั่งสังสรรค์กันเช่นนี้ น่าเสียดายที่ยอดฝีมืออย่างพี่ฉีได้หายตัวไปจากยุทธจักร ไม่มีผู้ใดในแคว้นต้าเซี่ยจะพบเจอตัวเขาอีกแล้ว ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงของเขามานาน แต่ก็ไม่เคยได้พบเห็นตัวจริง อย่าว่าแต่จะได้มีโอกาสมาประลองฝีมือกันเช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะว่าน้องจ้าว ก็คงเป็นไปไม่ได้เลยที่ข้าจะมีโอกาสได้ผูกมิตรกับยอดฝีมือเช่นพี่ฉี ดังนั้น ข้าจึงต้องขอดื่มให้แก่เจ้า!”
หลังจากพูดจบ หลี่หยวนเจิ่งก็ยกจอกสุราดื่มรวดเดียวหมด
ฉีหลินก็ดื่มสุราให้แก่จ้าวอู่เจียงเช่นกันและคำพูดของเขาก็มีความหมายคล้ายคลึงกับหลี่หยวนเจิ่ง
บรรยากาศในงานเลี้ยงกลับมามีความรื่นเริงอีกครั้ง
…
หลังจากดื่มสุรากันได้พอประมาณ จ้าวอู่เจียงกับหลี่หยวนเจิ่งก็เดินกลับไปที่จวนซิงชิงหยวนซึ่งอยู่ติดกับวังหลวงด้วยกัน
หลี่หยวนเจิ่งมีกลิ่นสุราโชยออกมาจากร่างกาย แต่จิตใจของเขายังคงแจ่มใส ใบหน้าที่แดงเพราะฤทธิ์สุราแสดงความเป็นกังวลเล็กน้อย

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า