บทที่ 99 ทุกคนย่อมมีความคิดเป็นของตนเอง
เขตเจียงตู่ จวนตระกูลตู๋กู
ในห้องตำราของตู๋กูอี้เหอเต็มไปด้วยจดหมายลับ
เขากำลังนั่งอ่านจดหมายลับเหล่านั้น ในเวลาเดียวกันนี้ มือข้างหนึ่งก็ถือพู่กันหมึกแดง ทำการวาดเค้าโครงอะไรบางอย่าง
อาฝูพ่อบ้านชราจวนตู๋กูคอยฝนหมึกให้อยู่ที่ด้านข้าง
“นายท่านขอรับ ทางการพร้อมสำหรับตรวจค้นจวนตระกูลเฉินแล้วใช่หรือไม่? พวกเราสามารถตรวจค้นได้เลยไหมขอรับ?”
“ยังไม่ได้ ถ้าพวกเราอยากจะตรวจค้นจวนของเสนาบดีกรมกลาโหม ว่ากันตามกฎหมายของแคว้นต้าเซี่ย ขุนนางที่บุกตรวจค้นจะต้องมีตำแหน่งเหนือกว่าขั้นสี่ขึ้นไปเท่านั้น” ตู๋กูอี้เหอส่ายศีรษะ
“แต่ปัจจุบันนี้มีขุนนางขั้นสี่ไม่กี่คน หากไม่ใช่ขุนนางในฝ่ายบริหาร หรือเป็นแม่ทัพใหญ่ในสนามรบ แล้วยังจะมีผู้ใดอีก? สุดท้าย ผู้ที่จะรับหน้าที่บุกตรวจค้นจวนในครั้งนี้ก็ต้องผ่านการคัดเลือกมาโดยกลุ่มขุนนางที่อยู่ในลำดับขั้นเดียวกับเสนาบดีกรมกลาโหมทั้งสิ้น…”
“นายท่านขอรับ ขุนนางขั้นสามเองก็มีจำนวนไม่มากเช่นกัน…ข้าน้อยเกรงว่าพวกเขาคงแย่งชิงกันแทบตายแล้ว เพื่อให้ได้รับหน้าที่นี้” อาฝูถอนหายใจ
“เพื่อผลประโยชน์อันใหญ่หลวง ย่อมมีการแย่งชิงกันเป็นธรรมดา น่าเสียดายที่นี่ไม่ใช่ภารกิจแห่งความร่ำรวยเท่านั้น แต่มันยังเป็นภารกิจแห่งความตายอีกด้วย…” ตู๋กูอี้เหอส่ายศีรษะ และยิ้มออกมา
“ในแคว้นต้าเซี่ยของเราไม่มีองค์ชายอื่น จึงไม่มีการแย่งชิงบัลลังก์กันในราชสำนัก แต่ลำพังชนชั้นขุนนางก็แย่งชิงอำนาจกันแทบตายแล้ว ผู้คนต่างก็มีความคิดเป็นของตนเอง หลิวเจ๋อในสำนักราชเลขาเป็นจิ้งจอกเฒ่า คงไม่ลงมาแทรกแซงภารกิจในครั้งนี้ เช่นเดียวกับเก้าขุนนางจิ่วชิง… คนของศาลต้าหลี่ ข้าเองก็ไม่สามารถแน่ใจได้เช่นกัน ส่วนที่เหลือก็จะเป็นการแย่งชิงอำนาจของเสนาบดีประจำกรมทั้งหกแล้ว”
“แต่อย่างไรก็ตาม เฉินอันปังเกี่ยวพันกับการฉ้อราษฎร์บังหลวง และต้องสงสัยว่าจะสมคบคิดกับกลุ่มคนต่างแดน ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเขาแอบสมคบคิดกับเสนาบดีและขุนนางจำนวนมากสร้างเครือข่ายการฉ้อโกงอันใหญ่หลวง แต่ประเด็นสำคัญก็คือมีเสนาบดีผู้ใดเกี่ยวข้องบ้าง? เฉินอันปังได้ทิ้งบันทึกหรือจดหมายใดไว้บ้างหรือไม่? หากมีผู้ใดค้นพบบันทึกหรือจดหมายฉบับนั้น รับรองว่าย่อมเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน!”
อาฝูสูดลมหายใจลึก เบิกตาโต ทราบแล้วว่าเฉินอันปังย่อมต้องกุมความลับอันใหญ่หลวงเอาไว้ไม่น้อย
“คนบางคนต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง! แต่คนบางคนต้องต่อสู้เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้!” ตู๋กูอี้เหอมีดวงตาเป็นประกายแวววาว
“เมื่อคนดีและคนชั่วมาผสมรวมกัน ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะตัดสินว่าผู้ใดเหมาะสมสำหรับการรับภารกิจตรวจค้นจวนของเสนาบดีกรมกลาโหมในครั้งนี้”
“นายท่านขอรับ หากบรรดาขุนนางพากันแย่งชิงเช่นนี้ ไม่แน่ว่าฮ่องเต้จะทรงแต่งตั้งคนของพระองค์ มารับภารกิจนี้โดยตรง เป็นไปได้หรือไม่ขอรับ?” อาฝูสอบถาม
ตู๋กูอี้เหอส่ายหน้า
“แทบเป็นไปไม่ได้เลย ขุนนางส่วนพระองค์มีจำนวนน้อยมาก อีกอย่าง พวกเขาล้วนเป็นขุนนางระดับล่าง จะให้มาทำภารกิจสำหรับขุนนางระดับสูงได้อย่างไร? ผู้คนจะคิดอย่างไรที่ให้ขุนนางชั้นล่างมารับภารกิจที่เกี่ยวข้องกับคดีของเฉินอันปัง?”
พ่อบ้านชราอาฝูพยักหน้า คิดว่านายท่านของตนช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกล และคงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีขุนนางซึ่งมีตำแหน่งต่ำกว่าขั้นที่สี่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ได้
…
เขตเจียงตู่ จวนของเสนาบดีกรมคลัง
ข้ารับใช้ในจวนกำลังตื่นกลัวเป็นอย่างยิ่ง
ในขณะนี้ ท่านเสนาบดีกรมคลังกำลังระบายโทสะอยู่ในห้องตำรา เขาทุบทำลายขวดหมึก พู่กัน แผ่นหิน โต๊ะ เก้าอี้ และม้านั่ง เสียงดังโครมคราม
รองเสนาบดีกรมคลังกำลังก้มหน้าต่ำและรายงานว่า


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า