บทที่ 992 กลุ่มดาวกระบวยใหญ่
จ้าวอู่เจียงยืนอยู่ตรงจุดเชื่อมต่อระหว่างลานเสาหินและสะพานโซ่เหล็ก เงยหน้ามองท้องฟ้าเบื้องบน
แสงดาวระยิบระยับอย่างงดงาม
ช่างเป็นการออกแบบที่ยิ่งใหญ่ สุสานโบราณแห่งนี้ซ่อนท้องฟ้าไว้อย่างแนบเนียน
แตกต่างอย่างมากจากสุสานโบราณที่ถูกฝังลึกใต้ดินตามที่เขาจินตนาการ
เขากะพริบตา รู้สึกราวกับจับบางสิ่งบางอย่างได้ เขาจ้องมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอย่างตะลึงงัน
ดวงดาวหลายดวงส่องสว่าง ประกอบกันเป็นรูปทรงคล้ายกระบวยที่ไม่สมมาตร
“จ้าวอู่เจียงพึมพำเบา ๆ อย่างไม่อยากเชื่อสายตา “เหยากวาง ไคหยาง อวี้เหิง เทียนเฉวียน เทียนจี เทียนเสวียน เทียนซู…”
เหมือนกับกลุ่มดาวกระบวยใหญ่ที่เขาเคยเห็นตอนเงยหน้ามองท้องฟ้าสมัยยังเด็กแทบจะไม่มีผิดเพี้ยน
ไยท้องฟ้าในสุสานโบราณของเผ่าโหย่วอวี๋ถึงมีกลุ่มดาวกระบวนใหญ่?
จ้าวอู่เจียงเซถอยหลังไปสองสามก้าว
หมายความว่า ยุคโบราณที่เขารู้จักตอนนี้กับเผ่าโหย่วอวี๋ที่เขารู้จักในโลกสีน้ำเงิน แคว้นหัวเซี่ย เป็นเผ่าโหย่วอวี๋เดียวกัน?
ภายในสมองของเขาคาดเดาไปต่าง ๆ นานา
โลกคู่ขนานหรือ?
อารยธรรมโบราณที่หายไปในประวัติศาสตร์?
ยุคตำนานของสามจักรพรรดิและห้าราชาไม่ได้จบลง แต่สืบทอดต่อในอีกที่หนึ่ง?
โลกที่เขาอยู่ตอนนี้เป็นดาวดวงหนึ่ง อยู่ใกล้กับระบบสุริยะพอดี?
หรือว่าเขายังอยู่บนโลกสีน้ำเงิน เพียงแต่อยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บางแห่งที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก?
เป็นสถานที่ลึกลับบางแห่งของเขาคุนหลุน?
ดินแดนชางอู่?
หรือบางแห่งของเทือกเขาเทียน? หรือว่ายุคเทพนิยายที่เขารู้จัก แท้จริงแล้วเป็นเพียงช่วงเวลาที่ผู้แข็งแกร่งจากโลกใบนี้บังเอิญเดินทางไปยังดาวสีน้ำเงิน และถูกบรรพบุรุษโบราณของดาวสีน้ำเงินจับภาพและบันทึกไว้?
ความคิดอันซับซ้อนและไม่สิ้นสุดหลากหลายแวบผ่านในห้วงความคิดของจ้าวอู่เจียง
เขาไม่สามารถหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลได้


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละขันทีอันดับหนึ่งในใต้หล้า