คลั่งรักร้ายนายวิศวะ นิยาย บท 14

ด้านริวหลังจากเดินกลับสนามอีกครั้งร่างสูงกับรู้สึกหัวเสียสุดๆ แม่ง จูบนิดจูบหน่อย ขอกำลังใจก่อนลงสนามแข่งเป็นไม่ได้ไง ยัยบ้าเลือดนั้นเล่นกัดปากเขาถึงกับเลือดซึม หน้าหล่อๆ ของเขาถึงกับเสียหมด ริวเดินเข้ามาในสนามพร้อมกับใช้ฝ่ามือหนาลูบเข้าที่รอยแผลด้วยความเจ็บใจ ฝากไว้ก่อนเถอะยัยเจนิส ยัยหน้าหยิ่ง คราวหน้าครางหลังอย่างให้ถึงทีฉันบ้างเถอะ พ่อจะเล่นให้ต้องร้องขอชีวิตเลย ร่างสูงได้แต่นึกกล่าวคาดโทษให้กับคนตัวเล็กด้วยท่าทีไม่พอใจ

อีกเพียงสิบนาทีก็จะถึงการแข่งขันจริง สายตาคมกวาดมองไปยังบริเวณโดยรอบๆ ของสนามแต่ก็ยังไร้เงาของเจนิส

หึ...อย่าบอกนะว่าโดนเขาจูบแค่นี้ถึงกับหนีหาย เขาลงแข่งทั้งทีไม่คิดจะให้กำลังใจกันหรือไง อ่า...ทำไมทั้งที่ในขอบสนามมีสาวๆ คอยให้กำลังใจอย่างล้นหลามแต่เขากับรู้สึกต้องการให้เธอนั้นนั่งอยู่ในสนามตรงนี่ด้วย เขาไม่ได้จริงใจอะไรกับเธอ แต่ก็ไม่ปฎิเสธไม่ได้ว่าเริ่มหวั่นไหวกับยัยหน้าหยิ่ง

เมื่อคิดเช่นนั้นได้ไม่นาน ร่างบางอันคุ้นตาของเจนิสก็เดินเข้ามานั่งตรงแสตนที่เดิมของเธอ ผมมองไปแสตนเชียร์ที่เจนิสนั่งอยู่ในระยะไกล ร่างบางหันมาสบตาเข้ากับผมพร้อมสีหน้านิ่งๆของเธอ ตามฉบับคนสวยหน้าหยิ่งอย่างเจนิส เราสบตากันไม่นาน จากนั้นไอ้ริกก็วิ่งเข้ามาหาผม ผมจึงยอมละสายตาของจากยัยหน้าหยิ่งและหันไปมองไอ้ริก

"เชี่ย...ไอ้ริว นั้นปากมึงโดนไรมาวะสัส" ริกที่เลี้ยงลูกบาสเข้ามาหาริวถึงกับชะงักที่เห็นรอยแผลที่ปรากฎขึ้นที่มุมปากหยักของริวเห็นได้อย่างชัดเจน

"เมื่อกี้ไปดูดน้ำมา เผลอกัดปากตัวเองไปวะ แม่งเจ็บชิบหาย" ริวแกล้งโกหกพี่ชายมาด้วยความหัวเสียสุดๆ เขาจะกล้าบอกไอ้ริกได้ไงว่าโดนยัยเจนิสกัดปากมา แบบนั้นมีหวังไอ้ริกล้อเขาตาย

"แม่ง โง่ชิบหาย" เสียงของไอ้ริกมันว่าให้กับผม แต่ก็ยังดีวะ ที่มันเชื่อสนิทไม่ซักถามอะไรไปมากกว่านี้

ผมยืนคุยกับไอ้ริกได้ไม่นาน จากนั้นก็ถึงเวลาที่พวกเราแข่งขันบาสกันจริง และวันนี้ก็เหมือนเดิมชิงแชมป์กับคณะโลจิสติก โดยทีมพวกผมมีไอ้เรียวตะเป็นคนที่ชู๊ตลูกนำเข้าไปก่อน เรียกได้ว่าเราเจอกับทีมนี้ทั้งฟุตบอลและบาสส่วนมากหลักๆ ฝั่งตรงข้ามพวกผมเองก็รู้จักเพราะแข่งกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่ แต่แม่ง ไอ้หัวทองที่มันพึ่งจะลงสนามมาไม่กี่นาที แต่ก็เล่นเก่งและแข็งมากอยู่เหมือนกัน เก่งแล้วไง บอกแล้วครับว่ามันสู้ผมไม่ได้หรอก เมื่อไอ้อรัณโยนลูกให้ผมๆ ก็กระโดดสายตาเพ่งเล่งไปที่หวงชู๊ตลูกเข้าไปในระยะไกล ทำคะแนนได้สามลูกติด

ส่วนคนที่นั่งหน้านิ่งบนแสตนเชียร์อยู่นั้น ในจังหวะที่พี่ริว คนใจร้ายคนนั้นชู๊ตลูกบาสทำคะแนนได้สามลูกติด เพื่อนฉันแต่ละคนถึงกับนั่งกันไม่ติด พื้นที่ข้างฉันที่ฉันแซมมี่นั่งก่อนหน้าเหลือเพียงพื้นที่ว่างเปล่า เพราะตอนนี้เจ้าตัวลงไปเชียร์ถึงกับสนามอีกนิดเดียวนางจะไปลงแข่งเองแล้ว และตอนนี้เสียงกองเชียร์ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งสนาม ส่วนมากก็มีเชียร์หนุ่มๆ วิศวะ ฉันปฎิเสธความหล่อความเท่ของพวกเขาไม่ได้เลยที่หล่อและดูดีไปหมด แต่นั้นก็ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่โกรธเขาหรอกนะกับคำพูดและข้อเสนอบ้าๆ ของเขาที่คุยกับฉันก่อนหน้านี้ แค่ฉันพลาดมีอะไรกับเขาไม่ได้หมายความว่าฉันจะอยากเป็นเด็กของเขาเสียหน่อย ยอมรับว่าเขาหล่อแต่ก็ดูร้ายพอตัวมากอยู่เหมือนกัน

"แกดูสิยัยเจ พี่ริวนิเก่งเนาะ อร้ายฉันนะอยากให้พวกพี่เขามีแข่งแบบนี้ทุกวันเลย จะได้มานั่งดูอาหารตา ให้ชื่นฉ่ำหัวใจเล่นๆ ปีหน้าฉันคงไม่ได้เห็นพวกพี่เขาลงแข่งแบบนี้กันอีกแล้ว" ยัยเฟย์เอ่ยขณะที่นั่งเชียร์อยู่กับฉัน

"ทำไมละ"

"เพราะพวกพี่ริวอยู่ปีสี่แล้วไงแก อีกไม่กี่เดือนพวกพี่เขาก็จะเรียนจบกันแล้ว" ฉันได้แต่พยักหน้าให้กับเพื่อน ก็ดีนะถ้าเขาเรียนจบแล้วไม่ต้องมาเจอหน้ากันแบบนี้

หลังจากนั้นไม่นานก็ถึงเวลาพักครั้งหลัง ร่างสูงวิ่งออกจากสนามจากนั้นก็มีใครบางคนที่ยื่นขวดน้ำให้กับเขาฉันมองผู้หญิงคนนั้นไม่ชัดเพราะเขาหันหลัง

"นั้นมัน...ยัยพี่ยี่หวานิหว่า" เสียงแว่วๆของยัยเฟย์ดังขึ้นมาฉันได้แต่หันมองไป ก็เห็นว่าคนนั้นคือพี่ยี่หวารุ่นพี่ในคณะของฉันยื่นขวดน้ำให้กับพี่ริว

"แก ยัยเฟย์ พี่ริวของแกกับพี่ยี่หวาพวกเขาเป็นแฟนกันเหรอ" เสียงน้ำอุ่นเอ่ยถามยัยเฟย์มาด้วยท่าทีสงสัย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ