คลั่งรักร้ายนายวิศวะ นิยาย บท 31

สรุปบท Chapter 30 รุกหนัก: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ

สรุปเนื้อหา Chapter 30 รุกหนัก – คลั่งรักร้ายนายวิศวะ โดย Kim Nayeol

บท Chapter 30 รุกหนัก ของ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Kim Nayeol อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ด้านเจนิส หลังจากที่พวกเพื่อนๆ ฉันกลับมา

" ปะ แกขึ้นเรียนกัน" ยัยเฟย์เอ่ยพร้อมกับหยิบหนังสือขึ้นมา แต่ฉันกับรู้สึกแปลกกับสายตาของยัยน้ำอุ่นที่เอาแต่จ้องมองฉันมา มือเรียวของเจนิส หยิบหนังสือขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยถามเพื่อน

"แก มองฉันด้วยสายตาแบบนี้มีไร เปล่า"

"เปล่า ฉันแค่สงสัยว่าแกกำลังอินเลิฟ จริงหรือเปล่า" ให้ตายเถอะทำไมยัยน้ำอุ่นถึงได้ถามอะไรแบบนี้ สังสัยคงโดยยัยแซมมี่กรอกหูมาสินะ

"ยัยแซมมี่ แกแอบนินทาไรฉัน" ฉันถามยัยแซมมี่อย่างเอาเรื่อง

"เปล่านะ ซะนีฉันไม่ได้เล่าอะไรเลย สาบานได้" แซมมี่เอ่ยมาด้วยสีหน้าจริงจัง

"แม้ เจนิสฉันนิโครตอิจฉาเลยที่แกกับพี่ริว..." ยัยน้ำอุ่นเอ่ยขึ้นมาแค่นั้น จากนั้นก็โดนยัยเฟย์เอามือปิดที่ปากของนางไม่ให้พูดต่อ ฉันได้แต่เสมองพวกนางทั้งสามคน

"พวกแกสงสัยเรื่องของฉันใช่ไหม..." พวกเพื่อนฉันได้แต่พยักหน้ามา

"พวกแกอย่าพึ่งถามฉันตอนนี้เลย เอาเป็นว่าฉันไม่ได้คบกับเขา ตามนี้นะ" เจนิสเอ่ยพร้อมกับเดินนำหน้าทั้งสามสาวไป ทำเอา แซมมี่ เฟย์ น้ำอุ่นถึงกับงงงวยไปตามๆ กัน แต่ก็ช่างเถอะสงสัยพวกเธอจะอยากจะเรื่องส่วนตัวของเพื่อนมากจนเกินไป คนอย่างเจนิสถ้าอยากจะเล่าเมื่อไหร่เพื่อนก็จะปริปากหรือไม่ก็ปรึกษาใครซักคนซึ่งก็เป็นเพื่อนในกลุ่มนั่นเอง

หลังจากที่เข้าห้องเรียนในช่วงบ่ายมาแล้ว นั้นร่างบางเอาแต่เสมองใบหน้าออกไปนอกหน้าต่าง นี้ขนาดเพื่อนๆ ฉันยังไม่ได้เอ่ยถาม ที่ฉันชิ่งตอบไปแบบนั้นก่อน เพราะถ้ามีใครถามถึง ว่าฉันคบกับเขา ฉันเองก็ตอบไม่ถูกเพราะเราไม่ได้คบกันจริงอย่างที่เพื่อนๆ ในกลุ่มของฉันกำลังสงสัย

ร่างบางนั่งเรียนด้วยสีหน้าปกติ และใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อาจารย์กำลังสอนในชั้นเรียน เพราะที่เป็นเช่นนี้อีกไม่กี่สัปดาห์ก็ใกล้จะถึงช่วงสอบกันแล้ว เจนิส นั่งเรียนจนกระทั่งถึงหกโมงเย็น ซึ่งวันนี้ช่วงบ่ายพวกฉันมีเรียนลากยาวจนถึงหกโมงเย็น พอเดินออกมาจากตึกก็เริ่มจะมืดแล้ว

"กลับกันเลยไหม หรือจะไปหาไรทานกันก่อนดี" ยัยแซมมี่เอ่ยมาขณะที่พวกเรากำลังเดินออกจากตึก

"ฉันเริ่มหิวแล้ว อะ หาไรทานหลังมอ กันก่อนไหม" ฉันตอบเพื่อน

"ก็ได้นะ ฉันก็หิวแล้วเหมือนกัน" ยัยเฟย์เอ่ยมา

"งั้นออกไปทางประตูเล็กที่ติดกับคณะวิศวะกัน"

"ได้ฉันขอไปกดน้ำที่ตู้น้ำก่อนนะ หิวไม่ไหวอะแก" ร่างบางเอ่ยจบก็เดินออกไปทันที ไม่นานเจนิสก็เดินกลับมาพร้อมกับแก้วน้ำอัดลม จากนั้นทั้งสามสาว เฟย์แซมมี่เจนิส ก็เดินไปทางตึกคณะวิศวะทันที เพราะน้ำอุ่นนั้นขอกลับคอนโดไปก่อนแล้ว

"แก ยัยแซมมี่ ฉันพึ่งรู้ว่าตรงใต้ตึกฝั่งนี้มีสนามเล่นสเก็ตบอร์ดด้วย"

"ไม่รู้ดิ ฉันก็ไม่ได้เดินมาฝั่งนี้นานแล้ว" ยัยแซมมี่เอ่ยมา ไม่แปลกหรอกที่พวกเราไม่ชินกับประตูเล็กเข้าออกฝั่งคณะวิศวะ เพราะคณะนี้มีประตูเล็กเปิดเข้าออกได้หลายทาง ที่เชื่อมกับถนนหลังมอ และตอนนี้มีเพียงนักศึกษาส่วนน้อยที่อยู่กัน เพราะมันเป็นช่วงเวลาเลิกเรียนแล้ว

แต่ขณะที่พวกฉันกำลังเดินอยู่นั้น กับมีใครบางคนที่เล่นสเก็ตบอร์ดมาด้วยความเร็วและบวกกับมันมืดมาก เขาเล่นมาแทบจะชนพวกฉันและสะดุดเข้ากับก้อนหินหรืออะไรซักอย่าง

!! ตุบ !! คนที่เล่นสเก็ตบอร์ดมาด้วยความเร็วล้มลงต่อหน้าต่อตาพวกฉัน แต่คนที่ล้มเขาก็ยังคงนอนอยู่เช่นนั้น

!! กรี๊ด...ยัยเฟย์ตกใจมากถึงกับร้องเสียงหลง !! ซึ่งฉันเองก็ตกใจไม่ต่างอะไรกับยัยเฟย์เช่นกัน จากนั้นก็มีใครซักคนเดินเข้ามา พวกฉันเลยเดินเข้าไปดูใกล้ เพราะคนที่ล้มเขาไม่ยอมลุก

"เชี่ย...ไอ้ริว กูบอกให้มึงระวังไง ไอ้สัส เป็นไงมั้ง" เสียงของใครอีกคนที่เล่นสเก็ตบอร์ดมาหยุดที่หน้าพวกฉัน ใบหน้าหวานของเจนิสถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยท่าทีสงสัย และก็ยังไม่เห็นหน้าของคนที่ล้มลงเพราะมันมืด

"เจ็บดิไอ้สัสริก" เสียงอันคุ้นหูเอ่ยพร้อมกับยันตัวลุกขึ้นในท่านั่ง และในจังหวะนั้นคนล้มหันหน้ามาทางพวกฉันพอดี

"เจนิส..." เป็นพี่ริวที่เขาเอ่ยเรียกชื่อฉันมาด้วยท่าทีที่ตกใจ ฉันเสมองใบหน้าของคนที่เรียกชื่อฉัน โดยยัยแซมมี่และยัยเฟย์ที่ยืนอยู่ข้างฉันต่างก็ตกใจเช่นกัน เพราะคนที่ล้มนั้นคือพี่ริว

"เชี่ย...ไอ้ริก แขนกู อ่า เจ็บ" คนเจ็บเอ่ยพร้อมกับยกแขนขึ้นมา ฉันเห็นว่าตรงข้อศอกของเขานั้นเป็นลอยแผลและถลอกจนมีเลือดซึมออกมา

"ยัยแซมมี่ แก ช่วยฉัน ด้วยสิ..." เสียงเจนิสเรียกเพื่อนของเธอ แต่นั้นริวกับเผยรอยยิ้มให้กับทั้งสองสาว

"พี่ไม่ได้จะทำอะไรเพื่อนน้องนะครับคนสวย แค่ให้เธอช่วยทำแผลให้เฉยๆ"

"โอเค คะ" ด้านแซมมี่เมื่อได้รับคำชมจากริวเป็นครั้งแรก ถึงกับยอมปล่อยเจนิสไปกับริว ด้านเฟย์ถึงกับหลุดยิ้มออกมาให้กับริวที่เดินจูงแขนเจนิสออกไป คงไม่ต้องบอกว่าทั้งคู่อยู่ในสถานะไหน เพราะดูจากท่าทีของริวแล้วนั้นรุ่นพี่น่าจะชอบเพื่อนของพวกเธอจริง

ริกพาเจนิสมาหยุดที่หน้าห้องพักในตึกคณะวิศวะของทั้งสี่หนุ่ม

"นี่พี่พาฉันมาที่นี่ทำไม ห้องพยาบาลไม่ได้อยู่ที่นี่นะ" เจนิสเอ่ยกับริวมา ที่ตอนนี้เขาพาฉันเดินเข้ามาในตึกที่ดูภายในห้องแห่งนี้เป็นที่ส่วนตัว

"ที่นี่มีกล่องพยาบาล จะทุ่มหนึ่งแล้ว ห้องพยาบาลคงปิดไปแล้วมั้ง" ริวเอ่ยกับเจนิสมาจากนั้น ร่างสูงก็เดินไปหยิบกล่องพยาบาลมาว่างให้กับเธอ

ด้านริวถึงจะเจ็บแขนแต่ใบหน้าอันหล่อเหลาถึงกับผุดรอยยิ้มออกมาด้วยท่าทีพอใจ สงสัยต้องกลับถึงคอนโดคงต้องไปตบรางวัลให้ไอ้เชี่ยริก งาม ๆ เสียแล้ว แม่งเข้าทางเขาพอดี ที่พี่ชายอุสาห์นั้นขอร้องเจนิสให้ช่วยทำแผลให้กับตน

เจนิสฉันเหลือบมองไปยังบริเวรภายในห้อง ที่มีสิ่งของอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งมันไม่ต่างอะไรกับคอนโดเลยซักนิด ฉันเคยได้ยินยัยแซมมี่และยัยเฟย์คุยกันถึงห้องพักพวกคนดังแต่ก็ไม่คิดว่าจะหรูหราถึงเพียงนี้

เมื่อเขานำกล่องมาให้ฉัน ร่างบางก็ไม่รอช้าเจนิส หยิบกล่องและสำลีขึ้นมาเพื่อเตรียมจะทำแผลให้กับคนเจ็บ แต่สายตากับสะดุดเข้ากับร่างสูงที่เดินถอดเสื้อเข้ามาหาเธอ

"อ่า...ให้ตายเถอะ แค่ทำแผลถลอกเท่าหยิบมด นี้เขาถึงขึ้นถอดเสื้อโชว์เลยงั้นเหรอ แต่นั้นก็ทำให้ร่างบางนั้นเผลอมองกล้ามท้องและซิกแพคแน่นๆ ของริวอย่างลืมตัว

!! ฮืม...เธอจะมองฉันด้วยสายตาหื่นกามแบบนี้อีกนานไหม" เสียงทุ่มของคนตรงหน้า ทำให้เจนิสนั้นรู้สึกตัว ให้ตายเถอะฉันไม่น่าหลุดมองเขาเลย คนโดนทักถึงกับใบหน้าแดงซ่านด้วยความเขินอาย

"ฉันเปล่ามอง เสียหน่อย" ร่างบางเอ่ยเสียงเบา แต่นั้นริวกับจับเข้าที่ข้อมือของคนตัวเล็กและสัมผัสมือของเธอลูบไล่ไปทั่วทั้งซิกแพคและกล้ามท้องของตน จนร่างสูงนั้นรู้สึกได้ว่าคนตัวเล็กนั้นกำลังปลุกเร้าอารมณ์ของตน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ