ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง นิยาย บท 128

เชอร์รีนใช้สายตาที่ปราศจากอารมณ์ใดมองไปที่เขา ออกัสยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ เชอร์รีนจึงถอนหายใจ เมื่อเห็นเธอเริ่มไม่ค่อยสบอารมณ์ขึ้นมา เขาจึงตั้งใจพูดต่อหน้าสายตาของทุกคน “คุณหญิงเชอร์รีนจะไม่ไปส่งหน่อยเหรอ”

เมื่อเชอร์รีนได้ยินดังนั้นก็ยังไม่ได้กล่าวอะไร แต่ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับแย่งเธอตอบด้วยรอยยิ้มแฉ่ง “ไปส่งๆ ต้องไปส่งแน่นอน จะไม่ไปส่งได้ยังไงล่ะ ใช่ไหมคุณครูเชอร์รีน”

“......” เชอร์รีนรู้สึกราวกับใบหน้าของตัวเองกระตุก

เธอยังไม่ยอมขยับ ผู้อำนวยการโรงเรียนจึงแอบดันหลังเธอเบาๆ แล้วส่งสายตาให้เธอ

สายตาที่แสดงออกชัดเจนเช่นนั้น คงมีเพียงคนตาบอดเท่านั้นที่มองไม่ออก แต่ผู้อำนวยการโรงเรียนยังคงพยายามต่อไปอย่างไม่รู้ตัว

เมื่อเห็นทั้งสองเดินออกจากออฟฟิศไป ผู้อำนวยการโรงเรียนจึงยิ้มอย่างพึงพอใจพลางเอ่ยชื่นชม “ทำไมพักนี้ถึงรู้สึกว่าครูเชอร์รีนสวยขึ้น”

คุณครูคนหนึ่งที่ยืนอยู่แถวนั้นจึงตอบว่า “ครูเชอร์รีนสวยตลอดอยู่แล้ว!”

“พูดถูกๆ เธอสวยตลอดอยู่แล้ว” ผู้อำนวยการโรงเรียนตบมือแล้วเอ่ยปากพร้อมรอยยิ้ม

เชอร์รีนเดินไปส่งออกัสที่รถ จากนั้นจึงหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว

แต่ออกัสไม่ยอมปล่อยเธอ เขาคว้ามือของเธอเอาไว้แล้วดึงเข้าไปจูบอย่างเร่าร้อน

ริมฝีปากของเธอฉาบไปด้วยลิปกลอสที่ใสและเป็นประกาย สีแดงระเรื่อราวกลีบดอกไม้ เย้ายวนใจคนอย่างยิ่ง

เมื่อกินลิปกลอสบนริมฝีปากของเธอไปหมดแล้ว เขาก็จูบที่ริมฝีปากล่างของเธออีกแล้วกัดเบาๆ ก่อนจะปล่อย “ไปก่อนนะ คุณหญิงเชอร์รีน......”

กว่าเชอร์รีนจะรวบรวมสติกลับมาได้ ออกัสก็เข้าไปนั่งบนรถแลนด์ โรเวอร์สีดำเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ

เชอร์รีนส่องกระจกดูริมฝีปากของตัวเองแล้วขมวดคิ้ว ก่อนจะหันไปมองรถที่เคลื่อนตัวออกไปช้าๆ เธอมองอยู่สักครู่หนึ่งก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในโรงเรียน

......

ตอนที่สุนันท์กลับมาจากสวนดอกไม้ก็เพิ่งจะรู้ว่าออกัสกลับไปแล้ว หยาดฝนนั่งอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก เธอจึงเดาได้ทันทีว่าผลลัพธ์จะต้องไม่ดีเท่าไหร่

เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ หลังจากกินอาหารเที่ยงเสร็จ สุนันท์จึงโทรหาออกัสแล้วสั่งให้เขากลับมาที่บ้านสิริไพบูรณ์ภายในบ่ายวันนี้

แต่กว่าออกัสจะกลับมาถึงก็ปาเข้าไปเป็นเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว สุนันท์เหล่มองดูนาฬิกาก่อนจะเอ่ยว่า “เราไม่ได้กินฟัวกรากันมานานแล้วนะ วันนี้เราไปกินด้วยกันดีไหม”

“หมอบอกว่ายังไงบ้างครับ” ออกัสถามพลางเหล่มองนาฬิกาแบบเนียนๆ ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วเปลี่ยนท่าทาง

“หมอไม่ได้ห้ามไม่ให้แม่กินฟัวกรานะ แค่บอกว่าพยายามอย่าโมโห ลูกเองก็ไม่ได้กินอาหารเย็นเป็นเพื่อนแม่มาตั้งนานแล้วนะ วันนี้ไปกินเป็นเพื่อนแม่หน่อยนะ ไปกินฟัวกราคนเดียวน่าเบื่อแย่ ตอนนี้เลอแปงก็ไม่อยู่แล้ว แม่ไม่มีแม้กระทั่งคนเป็นเพื่อนคุย เฮ้อ......”

สุนันท์ถอนใจอย่างน่าสงสาร เธอตั้งใจเล่นบทดราม่า “ถ้าลูกมีธุระด่วนก็ไม่เป็นไร จะกลับก็ได้ เดี๋ยวแม่ก็คงไปอาบน้ำนอนแล้วล่ะ”

ออกัสขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เบาและอ่อนโยนลง “อยากไปกินฟัวกราร้านไหนครับ”

พอสุนันท์ได้ยินอย่างนี้สีหน้าก็เต็มไปด้วยความยินดี “พูดแบบนี้แสดงว่ายอมไปเป็นเพื่อนแม่แล้วใช่ไหม ลูกแม่ใจดีที่สุดเลย ไปกันเถอะ”

ออกัสเห็นเธอสวมเสื้อผ้าบางเบาจึงหันไปสั่งคนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ ว่า “ขึ้นไปหยิบเสื้อคลุมข้างบนมาให้คุณหญิงหน่อยสิ”

คนรับใช้จึงขึ้นไปข้างบน ตอนนี้สุนันท์ทั้งดีใจและพอใจ ก่อนจะสบโอกาสเอ่ยต่อไปว่า “ถ้าเราสองคนไป ที่นี่ก็จะเหลือแค่หยาดฝนคนเดียว และเธอก็ยังไม่ได้กินข้าวด้วย แม่ว่าพาเธอออกไปด้วยดีไหม”

“ครับ......” ออกัสตอบรับ

สายตาของสุนันท์จับจ้องไปที่ใบหน้าของเธอพยายามจะค้นหาว่าเขามีความรู้สึกเช่นไร ทว่าอารมณ์ของเขาลึกซึ้งเกินไปจนเธอมองไม่ออก

เธอก็ทำได้เท่านี้ แต่อย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ขอแค่ดำเนินการตามแผนเท่านั้นก็พอ

หลังจากนั้นหยาดฝนก็เดินลงมาจากด้านบน ผมดำขลับเงางามของเธอปลิวสยายปรกไหล่ เธอสวมชุดเดรสสไตล์พื้นเมืองและคลุมทับด้วยเสื้อกันหนาวสีดำ

แม้ว่าจะดูเป็นการแต่งตัวง่ายๆ แต่เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดแล้วจะเห็นว่า หูของเธอใส่ตุ้มหูยาวสไตล์เดียวกัน ไม่ใช่ตุ้มหูเงินแต่เป็นตุ้มหูแบบพื้นเมือง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง