ใบหน้าของเธอซีดขาว เหงื่อไหลออกมาไม่หยุด ก่อนจะส่ายหน้าไปมา เธอเข้าคุกไม่ได้ เข้าคุกไม่ได้….
จากนั้นเธอก็ไปโรงพยาบาล เมื่อเห็นออกัสยังคงอาการโคม่านอนอยู่บนเตียง เธอก็แทบจะเอามีดมาแทงตัวเองด้วยความเสียใจ!
ซารางอย่างอยู่คฤหาสน์สิริไพบูรณ์ เมื่อสุนันท์กลับมาถึงคฤหาสน์ในตอนเย็น ความรู้สึกผิดก็ปรากฏขึ้นมา เมื่อเธอคิดถึงเชอร์รีน
เธอขึ้นไปชั้นบนโดยไม่กินอะไร เมื่อมาถึงห้องก็นอนลงบนเตียง และปิดตาลง วันนี้เธอรู้สึกหวาดกลัวและหวาดผวามากเกินไปแล้ว
แต่ทันทีที่ปิดตา ฝันร้ายก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ความโกรธมหึมาปรากฏต่อหน้าเธอราวกับสัตว์ประหลาด จากนั้นในฝันก็มีเชอร์รีนหยิบมีดในครัวมาวิ่งไล่ฆ่าเธอไม่หยุด และไม่ยอมปล่อยเธอไป
กลางดึกเธอก็ไม่สามารถหลับได้อีกต่อไป สุนันท์ตื่นขึ้นมา นั่งขดตัวอยู่ตรงมุมเตียง เหงื่อซึมเต็มหน้าผาก
เธอไม่ได้นอนทั้งคืน เธอยังอยู่ในภวังค์ และรู้สึกเสียวสันหลังตลอดเวลา ราวกับมีคนจะฆ่าเธอ
เชอร์รีนถูกขังอยู่ในคุก เธอโทรหาทนาย ให้ทนายฟ้องและยื่นอุทธรณ์อีกครั้ง พร้อมทั้งรวบรวมหลักฐานอีกครั้งด้วย
สุนันท์กินโจ๊กอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจิตใจลอยไปถึงไหนแล้ว ทำให้โจ๊กในช้อนหกเลอะเสื้อผ้าเธอจนหมด
“คุณผู้หญิง คุณผู้หญิงคะ โจ๊กหกแล้วค่ะ” แม่บ้านรีบเตือนเธอ
“อุ๊ย!” สุนันท์กรีดร้อง วางช้อน และหอบหายใจอย่างแรง เมื่อได้สติกลับมาแล้ว เธอถึงกลับมาสงบดังเดิม
การรวบรวมหลักฐานใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย และสิ่งที่ต้องการก็คือเวลา เชอร์รีนยังรออยู่ และระหว่างนั้นเธอก็ไม่ได้โทรหากนกอร เพราะกลัวว่าเธอจะเป็นห่วง
ช่วงนี้สุนันท์นอนไม่หลับเลย จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากให้แม่บ้านมานอนกับเธอ
แต่ก็ไม่ได้ผลอะไรเลย เธอยังคงกลัวเหมือนเดิม สุนันท์ใช้สองมือดึงผมยุ่งๆไว้แล้วกรี๊ดออกมา “กรี๊ดๆ”
“คุณผู้หญิง ช่วงนี้คุณเป็นอะไรคะ” ป้าจันทร์ก็รู้สึกว่าสองวันวันนี้คุณผู้หญิงไม่ค่อยปกติ เหมือนมีอาการทางประสาท เมื่อผ่านไปไม่กี่วัน เธอก็ผอมลง ไม่รู้ว่าทรมานอะไร
“ฉันฝันว่ามีคนรัดคอฉัน และบีบคอฉันอย่างแรง!” สุนันท์กลัวจนถึงขีดสุด
“ไม่มี ไม่มีค่ะ เป็นฝันทั้งนั้น คุณผู้หญิงฝันอยู่!”
“ไม่ใช่ เธอมาหาฉัน เธอมาเอาคืนฉัน…” สุนันท์ส่ายหน้า เหมือนเป็นอาการทางประสาท เอาแต่พูดไม่หยุด
ป้าจันทร์เป็นคนเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ เธอกลัวว่าจะถูกผีสิงจนไม่มีสติกับคืนมา ดังนั้นจึงเอาน้ำเย็นมาสาดใส่
เมื่อโดนน้ำสาดใส่ สุนันท์ถึงได้สติคืนมา และก็ไม่รู้สึกโกรธด้วย เธอให้ป้าจันทร์หลับต่อไป ส่วนตัวเองจะไปเดินในสวนดอกไม้ของตระกูลสิริไพบูรณ์
เกิดเรื่องถึงขนาดนี้แล้ว เธอก็ไม่ได้โทรหาไกรวิทย์ และไม่ได้โทรหาเลอแปงด้วย เธอไม่กล้าโทร ไม่กล้าพูด
เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงบังคับตัวเองมาจนถึงจุดนี้ได้ เธอฝันถึงเชอร์รีนทุกวัน ตอนนี้แม้แต่จะเอ่ยชื่อเชอร์รีน เธอก็รู้สึกกลัวจนตัวสั่น…
ความกลัวที่ไม่สามารถบรรยายได้มันออกมาจากกระดูก จนทำให้อดไม่ได้ที่จะหนาวและสั่น
ค่ำคืนในฤดูใบไม้ร่วงค่อนข้างหนาว เธอย่อตัวนั่งลงบนม้านั่งในสวนหลังบ้าน ด้วยอาการเหม่อลอย
ในตอนแรก ซารางก็ยังรอเงียบๆได้สองวัน แต่เมื่อเข้าสู่วันที่สามเธอก็เริ่มร้องไห้ออกมา ร้องหาแต่หม่ามี๊ ใครจะมาปลอบก็ไม่หาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง