ถ้ารู้ข่าวนี้ล่วงหน้า งั้นเขาคงไม่พาเธอมาร่วมงานเลี้ยงนี้……
“เป็นอะไรไหม?” ร่างกายของฉันทัชโค้งลง ริมฝีปากอันเซ็กซี่เข้าใกล้ใบหูเธอ ก่อนจะเกิดเสียงลื่นไหลออกมา
ยู่ยี่ชะงักค้าง ตอบสนองไม่ทัน……
เขาถอนหายใจเสียงเบาบาง มือใหญ่ที่ได้รูปชัดเจนเสยผมจากแก้มไว้ด้านหลังหูอย่างอ่อนโยน “ถ้าทำตัวไม่ถูก พวกเราออกไปก่อนได้นะ……”
ยู่ยี่หรี่ตามองเขา พูดตามความเป็นจริง “ไม่ใช่ทำตัวไม่ถูก แค่รู้สึกกะทันหันเกินไป ไม่คิดว่าจะเจอกันอีกครั้งด้วยวิธีนี้”
ฉันทัชยกมุมปากโค้งขึ้น ดูคล้ายกับอารมณ์ดีไม่เบา น้ำเสียงยิ่งอ่อนนุ่มเสนาะหู “ผมชอบฟังคุณพูดความจริง มันสวยและมีเสน่ห์มาก ตอนนี้คุณดูสวยมาก ผมเลยเชื่อว่าคำนั้นต้องไม่ใช่คำเท็จแน่ ๆ ……”
จากนั้นยู่ยี่อดหน้าแดงระเรื่อไม่ได้
ทั้ง ๆที่เขาไม่ได้พูดจาหวานแหววอะไร แต่กลับสามารถทำให้หัวใจหวั่นไหวจนหน้าแดงก่ำอย่างง่ายดาย
ภายในห้องโถงมีความอุ่นที่เกินควร ทำให้ผู้คนรู้สึกเหงื่อซึมนิด ๆ ฉันทัชถอดเสื้อกันหนาวไหมพรมออก เหลือเพียงเสื้อสูทเท่านั้น
ยู่ยี่ก็รู้สึกร้อนเช่นกัน เธอก็ถอดเสื้อกันหนาวสีแดงชาดออกด้วย ฉันทัชรับมาในแบบฉบับสุภาพบุรุษ ก่อนจะวางไว้ที่แขน ต่อด้วยถอดถุงมือหนังออก แล้วยื่นให้บริกร
เสื้อกันหนาวของเขาเป็นสีดำ และคอเสื้อกันหนาวก็เป็นสีดำเช่นกัน แลดูงดงามล้ำเลิศยิ่ง
ชุดของเธอกับของเขาคล้ายคลึงกัน สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนคือสีเสื้อ แต่ก็ยังเหมือนเป็นเสื้อคู่อยู่ดี
ยู่ยี่ใส่ชุดราตรีสีน้ำเงินสดใส ซึ่งฉันทัชเป็นคนเลือกให้กับมือ สายตาของเขาเฉียบแหลมโดดเด่นเกินคน ชุดราตรีที่เลือกย่อมไม่เหมือนกับคนอื่น
ชุดราตรียาวสีน้ำเงินสดใสเมื่ออยู่ใต้แสงสลัวแล้ว ยิ่งขับเน้นให้สง่างาม สะกดสายตามากขึ้น กระโปรงตัวยาวลากเดินผ่านพรมแดงบนพื้น ชุดถูกตัดเย็บได้อย่างไร้ที่ติ มันดูเหมือนจะเรียบง่าย ทว่ายิ่งทำให้ผิวขาวนวลของเธอยิ่งขาวดุจดั่งเครื่องลายคราม เปล่งประกายแสงอย่างไม่หยุดยั้ง
เส้นผมดกดำของเธอไม่ได้ลอน และไม่ได้รวบขึ้น แค่ผูกโบว์ผ้าไหมไว้เท่านั้น ระหว่างที่เหินเดิน ปลายกระโปรงก็พริ้วไปตามจังหวะ คล้ายกับเทพธิดาลงมาจุติ
เธอก็แต่งหน้าด้วย แต่แต่งแบบอ่อน ๆ ทว่ากลับงามพิสุทธิยิ่ง ผิวพรรณเรียบเนียน ริมฝีปากสีชมพู จึงดึงดูดสายตาผู้ชายทั้งงาน
เรนนี่กำหมัดแนบแน่นอย่างไม่รู้ตัว รู้สึกว่าทำไมยู่ยี่ยังไม่ไปผุดไปเกิด ตามราวีอยู่ได้
อันที่จริง ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าจัดเลย
ทุกคนในงานล้วนไปดื่มคารวะให้คนอื่นกันหมด ดื่มไปพูดคุยไป เพื่อจะได้สร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดี แล้วเอื้อต่อผลประโยชน์ในภายภาคหน้า มีเพียงฉันทัชเท่านั้นที่ไม่ได้ทำอย่างนั้น
เหมือนเขาจะไม่ใส่ใจต่อสถานที่แบบนี้ เขาหามุมเสร็จก็พายู่ยี่ไปนั่ง ด้านหน้ามีไวน์แดงกับผลไม้วางอยู่
หัสดินมีชื่อเสียงในเมือง S จึงมีคนมาตีสนิทด้วยเยอะ คนมาดื่มคารวะจึงมีไม่ขาดสาย
เรนนี่ได้รับคำชื่นชมไม่น้อย เธอยิ้มละมุนละไมด้วยสีหน้าอ่อนโยน
เธอกวาดสายตาเห็นผู้ชายที่นั่งด้านข้างยู่ยี่โดยบังเอิญ จากนั้นความตกตะลึงก็ผุดขึ้นกลางใจ
เธอคิดว่าตัวเองเดาถูก ผู้ชายคนนั้นแลดูสง่างามและสูงศักดิ์ผสมปนเปกัน ทั้งยังมีความเป็นผู้ใหญ่ สุขุม รวบรวมเสน่ห์ของบุรุษเพศชายไว้ทั้งหมด
เขาขับรถเบนท์ลีย์และยังสามารถร่วมงานแบบนี้ได้ แสดงว่ามีฐานะไม่ใช่ย่อย แต่ถึงกระนั้นก็คงสู้หัสดินไม่ได้
มิฉะนั้นเขาคงไม่อยู่ในสภาพตอนนี้หรอก ดูหัสดินสิ ท่ามกลางแขกเหรื่อมากมาย ทว่าก็มีคนมาประจบสอพลอ ส่วนเขาคนนี้กลับไม่มี นั่งหลบมุมกับยู่ยี่สองคน
ชุดราตรีที่ยู่ยี่สวมใส่ เธอก็เคยลองมาแล้ว แต่เป็นเพราะเธอผิวดำหน่อยๆ จึงไม่เหมาะกับชุดนี้
คิดไม่ถึงว่ากระโปรงยาวสีน้ำเงินตัวนี้ใส่แล้วจะดูสวยขนาดนี้ รอบกายคล้ายกับมีกลิ่นอายเทพธิดารายล้อม ถ้ารู้อย่างนี้แต่แรก ถึงจะใส่แล้วดูไม่เหมาะ แต่เธอก็จะซื้อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง