“เริ่มแรก ตั้งแต่ที่ได้ยินว่าเราจะคบกันแค่ 1 เดือนจากปากของคุณ ในใจผมนั้นไม่มีความสุขเลยสักนิด แต่ผมรู้ดีว่าคุณเพิ่งหย่าร้างมา เงื่อนไขนี้ที่เสนอขึ้นมาย่อมต้องผ่านการคิดไตร่ตรองของคุณมาแล้วอย่างแน่นอน แต่ผมไม่ใช่ผู้ชายที่จะเล่นกับผู้หญิงตามใจชอบ โดยเฉพาะกับเรื่องความรู้สึก การแสดงออกของผมนั้นยิ่งจริงจังมากขึ้น แม้ว่าจะผ่านไป 1 เดือนแล้ว แต่ผมไม่เคยมีความคิดจะเลิกกับคุณเลย ถ้าหากในใจคุณเองก็คิดเหมือนกันกับผม พวกเราก็คงคบกันต่อไปได้ และจะไม่มีระยะเวลาจำกัดอะไรระหว่างเราอีก แต่ถ้าคุณอยากเลิกกับผม แน่นอนว่าผมคงไม่คัดค้าน แต่ว่าผมจะตามจีบคุณต่อไป เพราะว่ามุมมองจากตำแหน่งของผมนั้น คุณนั้นเหมาะสมกันกับผม……”
เสียงของเขาทุ้มต่ำ ทุกๆ คำทุก ๆ ประโยคที่พรั่งพรูออกมานั้นล้วนแล้วแต่มีความหมายที่หนักแน่น สีหน้าท่าทางทั้งเคร่งขรึมและจริงจัง
ความเป็นผู้ใหญ่และสุขุมแบบนี้นั้นไม่ใช่สิ่งที่ผู้ชายทุกคนจะมีได้ มีแต่ผู้ชายที่ผ่านประสบการณ์มาแล้วเท่านั้นถึงจะมีสิ่งนี้ได้
ยู่ยี่เม้มริมฝีปากพร้อมดื่มน้ำอุ่น สายตาจ้องมองไปที่เขา แล้วพูดว่า “ไม่ต้องตามจีบแล้ว…..”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ร่างสูงของฉันทัชชาไปเล็กน้อย
แต่เพียงชั่วพริบตาเดียว เขาก็จุดยิ้มบางขึ้น ทว่ากลับไม่ได้ดูดีเหมือนในปกติทุกครั้ง ใบหน้าด้านข้างดูลึกลับและตั้งตรง ให้ความรู้สึกตึงเครียดเล็กน้อย “คิดว่าผมไม่เหมาะกับคุณเหรอ?”
สายตาของยู่ยี่สบกับดวงตาของเขา เธอผงกศีรษะขึ้นเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้ม “ฉันคิดตรงกับความคิดแรกของคุณ เพราะฉะนั้นไม่ต้องตามจีบฉันแล้ว”
คิ้วที่ขมวดอยู่นั้นเพียงไม่กี่วิก็คลายลง มุมปากของฉันทัชค่อยๆ หยักโค้งขึ้น นิ้วเรียวยาวนวดคลึงกลางหน้าผากระหว่างคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ “ทำไมไม่บอกให้ชัดเจนในรอบเดียวล่ะครับ?”
“ฉันตั้งใจค่ะ……” ยู่ยี่หัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวต่อ “ฉันได้เห็นคุณเป็นกังวลแล้ว……”
ลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลง เขาเองก็กำลังหัวเราะเบาๆ อยู่เช่นกัน เสียงหัวเราะเมื่อเทียบกับเมื่อสักครู่นี้นั้นทุ้มต่ำและกึกก้อง
ฉันทัชลุกขึ้นแล้วนั่งลงตรงที่ข้างเธอ เขายอมรับว่า “ผมต้องเป็นกังวลอยู่แล้ว แล้วคุณล่ะ บอกผมมาว่าความรู้สึกของคุณจริงๆ ตอนที่ได้ยินผมพูดคำพูดพวกนั้นเป็นยังไง……”
แก้มของยู่ยี่ขึ้นสีแดงจางๆ เธอไม่มีอะไรต้องปกปิดอีก กล่าวตรงๆ ว่า “หัวใจเต้นเร็วขึ้น”
ก่อนหน้านี้เธอคิดในใจว่า ความรักของทั้งสองในช่วงระยะเวลา 1 เดือนนั้น แม้ว่าจะถึงตอนที่เลิกรากันก็คงไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดเข้ามาเกี่ยวข้อง สามารถจากกันไปได้อย่างง่ายดาย
กลับกลายเป็นว่าเธอนั้นคิดผิดไปไกล……
“เด็กดี……..”เสียงแหบทุ้มดูลึกลับลอยเข้ามาใกล้ นิ้วเรียวยาวเกี่ยวผมเส้นเล็กของเธอทัดไปหลังหู “ดูเหมือนว่าคุณไม่คิดจะเลิกกับผมจริงๆ ดังนั้นผมสามารถคิดได้ว่าตอนนี้ความรู้สึกดีของคุณได้เปลี่ยนเป็นความชอบแล้ว ผมเองก็เป็นอย่างนั้นเช่นกัน…….”
เพียงฟังประโยคท้ายนั้น ยู่ยี่ก็หน้าแดงหัวใจเต้นแรงขึ้นไปอีก เขานั้นมีความสามารถที่จะหยอกล้อกับหัวใจคนอื่นอยู่ตลอดเวลา
“มอบของขวัญชิ้นหนึ่งให้คุณ……”ขณะที่กล่าว ฉันทัชก็ยืนขึ้น
สายตาของยู่ยี่ไล่ตามแผ่นหลังหนากว้างดูแข็งแรงของเขา
เมื่อเขาหันกลับมาอีกครั้ง ในมือเขานั้นถือกล่องของขวัญดูประณีต เมื่อเปิดออก ข้างในนั้นเป็นจี้ห้อยคอที่สวยงาม มีสีเขียวมรกต
เขายืนอยู่ข้างหลังเธอ มือใหญ่ของชายหนุ่มสวมสร้อยที่คอของเธอ ข้อนิ้วสัมผัสลากผ่านลำคอยากจะอธิบายตำแหน่งให้แน่ชัด เธอนั้นรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีในบริเวณที่เขาสัมผัส
“ในฐานะแฟนของผม นี่คือของขวัญชิ้นแรกที่ผมมอบให้คุณ” เขากล่าวอย่างช้าๆ แต่ชวนลุ่มหลง
ตัวจี้ตัดกับคอของเธอช่วยขับผิวให้ดูขาวผ่องละมุนยิ่งขึ้น สีขาวและสีเขียวที่จับคู่กันนั้น โดยพื้นฐานแล้วทำให้คนตาพร่ามัว
เพื่อลงโทษที่เธอเล่นไม่เข้าเรื่อง เขาจึงจงใจจั๊กจี้เธอเบาๆ สิ่งที่ยู่ยี่กลัวที่สุดก็คือการถูกจั๊กจี้ และเป็นไปตามคาดเธอเลิกต่อต้านและยอมจำนนโดยทันที ทั้งร่างขยับไปมา พร้อมหัวเราะไม่หยุด
เธอเอนตัวอยู่บนตักแกร่งของเขา ทั้งยังไม่หยุดหัวเราะ กลายเป็นถูกอุ้มขึ้นโดยไม่ตั้งใจพร้อมยิ้มทั้งน้ำตา
ดวงตาเป็นประกายเจิดจ้าสบเข้ากับฉันทัช และได้เห็นนัยน์ตาลุ่มลึกที่กำลังยิ้มและมองมาที่เธออย่างลึกซึ้งพอดี ลึกซึ้งและลึกล้ำ เหมือนจะดูดกลืนเธอเข้าไป
เขาอดใจไม่ได้ที่จะโน้มตัวลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากของเธอ
เธอแหงนหน้าขึ้น แล้วจูบกับเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง