มือใหญ่ดูดีของฉันทัชนวดคิ้ว“ผมไม่ชอบให้ใครรบกวน คุณรู้ดี”
เธอถอยหลังหนึ่งก้าว“งั้นฉันไปพักกับอาคิระก็ได้ค่ะ”
“ดูเหมือนคุณจะไม่เข้าใจความหมายของผม ผมไม่อยากให้คุณอยู่ในเมืองS……”ระหว่างที่เขาพูดประโยคนี้ สีหน้าก็ยังคงอ่อนโยนอยู่
แต่เอวาก็ยังคงปฏิเสธเหมือนเดิม“ฉันทัช ร่างกายฉันไม่แข็งแรง ถ้าต้องนั่งเครื่องบินสองครั้งต่อวัน ร่างกายฉันคงรับไม่ไหวแน่ค่ะ”
ฉันทัชไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่อ แค่ถามเธอว่ากระเป๋าเดินทางอยู่ไหน?
เอวาบอกว่า อยู่ที่สายพาน
ฉันทัชโทรบอกผู้ช่วยโก๋ให้ไปเอากระเป๋าเดินทาง เอวาเดินข้างกายเขา ริมฝีปากแดงเผยรอยยิ้มเบิกบาน
พึ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เอวาก็เข้าไปควงแขนฉันทัช ขาเรียวยาวก้าวไปด้านหน้าตามรอยเท้าของเขา พร้อมกับเรียกคำว่าสามีอีกครั้ง
ช่างบังเอิญเหลือเกิน หัสดินที่อยู่ในห้องวีไอพี ก่อนหน้านี้เขาไปเข้าห้องน้ำ เมื่อกลับเข้ามาก็เห็นภาพนี้เต็มตา
ริมฝีปากบางยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ พลางมองอย่างสนใจ จากนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป
เมื่อกี้ไม่ได้ห่างกันมากนัก เขาได้ยินอย่างชัดเจนว่าผู้หญิงคนนั้นเรียกฉันทัชว่าสามี
เป็นการพลิกสถานการณ์ที่เหนือการคาดหมาย เห็นทีไอ้ฉันทัชมันคงแต่งงานแล้ว
ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นยู่ยี่ก็……
ดวงตาดอกท้อหรี่ขึ้น ความคิดของเขาล่องลอย จากนั้นผู้ช่วยก็เข้ามารายงานว่าประธาน WAมาถึงแล้ว
หัสดินให้ผู้ช่วยจองโรงแรมห้าดาวกับร้านอาหารล่วงหน้าแล้ว จากนั้นเขาก็จัดแจงเสื้อสูท เดินออกจากห้องวีไอพี
อีกฝั่งหนึ่ง
ยู่ยี่กินข้าวเที่ยงกับนาโน เพราะนาโนโทรมาชวนเธอ
นาโนไม่ได้เล่าเรื่องของตนกับดนัยให้ฟัง และเธอก็ไม่ได้ถาม สุดท้ายนาโนก็เล่าไม่กี่ประโยคในทำนองที่บอกว่า สถานการณ์ตอนนี้ซับซ้อนมาก
เพื่อนพูดอย่างไร้ต้นสายปลายเหตุ ยู่ยี่ไม่เข้าใจว่าเพื่อนต้องการสื่ออะไร ไม่รู้ว่าสถานการณ์ซับซ้อนที่ว่าคืออะไร?
แต่นาโนไม่ยอมเล่ามากกว่านั้น พวกเธอจึงเริ่มกินข้าวเที่ยง นาโนยังซื้อเสื้อขนสัตว์สีแดงมาฝากเธอด้วย
ยู่ยี่รู้สึกว่าสีไม่โดนใจเลย มันแดงจัดจ้านเกินไป รู้สึกดัดจริตนิด ๆ หน่อย ๆ……
นาโนตบไหล่ใส่เธอ บอกว่าชุดนี้ผ่านการคัดสรรจากตนแล้ว สีแดงจ้าแบบนี้มันสวยและเป็นสิริมงคลมาก
เธอรู้สึกไม่ดีกับคำว่าสิริมงคลเอาซะเลย เมื่อยู่ยี่ได้ยินคำนี้ ส่วนมากจะออกจากปากของผู้ใหญ่
นาโนไม่ได้เถียงกับเธอต่อ เก็บข้าวของแล้วจากไป เธอกลับไปที่บริษัทแล้วเริ่มทำงานต่อ
และทำไปจนถึงพลบค่ำ เมื่อถึงเวลาเลิกงาน ยู่ยี่ก็ไม่ได้รับสายจากฉันทัช
ตอนเช้าพวกเขานัดกันไว้แล้ว บอกว่าเขาจะมารับเธอไปตกปลา
ยู่ยี่โทรถามฉันทัชว่ายังไปตกปลาอีกไหม?
เสียงทุ้มต่ำที่เจือความรู้สึกผิดของฉันทัชเอ่ยขึ้น“แน่นอน รอผมยี่สิบนาที ด้านนอกอากาศหนาวมาก ไปดื่มกาแฟรอผมที่ร้านกาแฟก่อน เดี๋ยวผมจะตามไป”
ยู่ยี่พยักหน้าไปรอที่ร้านกาแฟ
ยี่สิบนาทีให้หลัง รถเบนซ์สีเทาก็จอดอยู่นอกร้านกาแฟ ยู่ยี่จ่ายเงิน จากนั้นเหมือนฉุกคิดอะไรได้ จึงซื้อกาแฟดำแก้วหนึ่ง
เธอเปิดประตูรถ จากนั้นก็ยื่นกาแฟให้ผู้ชาย ก่อนจะบอกให้เขานั่งดื่มในรถเฉย ๆ เธอจะขับรถเอง
ดวงตาลุ่มลึก ดำขลับเหมือนน้ำหมึก ตอนนี้อ่อนนุ่มคล้ายกับสามารถหยดน้ำออกมาได้ ฉันทัชยกมุมปากขึ้นยิ้มน้อย ๆ “สงสารผู้ชายของคุณเหรอ?”
ยู่ยี่หน้าแดงเล็กน้อย เมื่อเอ่ยออกจากปากของเขาแล้ว ทำไมจึงรู้สึกไม่เหมือนกับตอนที่รู้สึกกับคนทั่วไป?
ร่างสูงโปร่งโน้มตัวลง จากนั้นฝ่ามือใหญ่อุ่น ๆ ก็จับมืออันเย็นเฉียบของเธอ เมื่อให้ความอบอุ่นชั่วครู่แล้วก็ปล่อยออก “นิ้วของคุณยังเย็นแข็งอยู่เลย ผมไม่วางใจที่จะให้คุณขับรถ เดี๋ยวอีกสิบนาที ร่างกายคุณอุ่นแล้วผมค่อยให้คุณขับ……”
สิบนาทีต่อมา ยู่ยี่จึงได้ขับรถ ฉันทัชดื่มกาแฟ นิ้วมือที่เห็นกระดูกชัดเจนจับแก้วกาแฟพร้อมกับยิ้มระรื่นอย่างอุ่นใจ
มีคนในเรือน้อยมาก ยิ่งไม่มีคนมาตกปลาเลย ยู่ยี่ยืนอยู่บนเรือ เมื่อมีลมหนาวพัดผ่าน ร่างกายก็รู้สึกหนาวจนสั่น จากนั้นเธอก็ขดตัว
เธอรู้สึกเสียใจที่มาตกปลาในสภาพอากาศแบบนี้
ทว่าเห็นได้ชัดว่าสายเกินไปแล้ว เขาเตรียมเบ็ดตกปลาเรียบร้อยแล้ว ยู่ยี่ไม่ได้ใส่เสื้อหนา ตอนนี้รู้สึกว่ามีน้ำเย็น ๆ สาดใส่
เมื่อใส่เหยื่อตกปลาเสร็จ ฉันทัชก็นั่งบนเก้าอี้ พลางมองใบหน้าซีดขาวของยู่ยี่ จากนั้นก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญา แล้วโบกมือให้เธอ
ยู่ยี่เดินเข้าไป กระทืบเท้าที่ด้านชา จากนั้นก็ถามเขา“ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะตกปลาได้หนึ่งตัว”
“ไม่มีใครถามแบบนี้กับผมมาก่อน……”เขาตอบ
ยู่ยี่ครุ่นคิดดูแล้วก็ถูก บางคนตกไม่ได้เลยสักตัว แต่บางคนก็จะตกได้หลายตัว
เขากวักมือให้เธออีกครั้ง ยู่ยี่ไม่เข้าใจ เดินเข้าไปใกล้ ฉันทัชก็ดึงเธอไปไว้ในอ้อมแขน
เก้าอี้ตัวที่ใหญ่มาก เขาให้เธอนั่งบนตัก โดยหันหลังให้ทะเลสาบ ให้เธอหันหน้ามายังอกแกร่งของตน จากนั้นก็ใช้เสื้อสีดำของตนคลุมให้เธอทุกระยะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง